บทที่ 1117 หลงตัวเอง, ทำให้โจ่วอั้นดูโง่เขลา – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1117 หลงตัวเอง, ทำให้โจ่วอั้นดูโง่เขลา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินกลับมาจากตระกูลหยุน ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว
ยังดีที่นางคุ้นชินกับการอดหลับอดนอนในยามดึก ไม่นอนแค่คืนเดียวมันไม่ส่งผลอะไรกับนาง หลังจากปรับสภาพและจัดการกับตัวเองเล็กน้อย ร่างกายของนางก็สดชื่นจนทำให้คนอื่นอิจฉา
ทานอาหารเช้าเสร็จ เฟิ่งชิงเฉินหยิบของขวัญที่พ่อบ้านเตรียมไว้ให้ไปเยี่ยมเยือนตระกูลหวัง ในตอนที่กำลังจะก้าวออกประตู เซี่ยหว่านก็เข้ามาขวางนาง
“คุณหนู คุณหนู......” เซี่ยหว่านลังเลที่จะพูดออกมา เฟิ่งชิงเฉินไม่รอช้า บอกให้เซี่ยหว่านกล่าวออกมาโดยเร็ว หากไม่พูดนางก็จะไป
เซี่ยหว่านไม่กล้าลังเลอีกต่อไป นางกล่าวเหตุผลที่ตนเองมาในทันที “คุณหนู คุณชายโอวหยางเชิญท่านไปเยี่ยมเขาสักครั้ง”
“คุณชายโอวหยาง? เขาเป็นใคร?” เฟิ่งชิงเฉินมีสีหน้าสงสัย ดูเหมือนว่านางจะไม่รู้จักคนสกุลโอวหยาง
“เขาคือมือสังหารที่จับได้เมื่อคืนนี้” เซี่ยหว่านรีบอธิบายออกมา เนื่องจากเจ้างั่งและโจ่วอั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาต่อกัน เมื่อวานเฟิ่งชิงเฉินก็รีบร้อนออกไปจากจวน จึงไม่ได้บอกว่าจะจัดการกับเจ้างั่งอย่างไร คนในจวนเฟิ่งก็ไม่กล้าดูหมิ่นเจ้างั่ง
“เจ้าพูดถึงนักฆ่าผู้โง่เขลาคนนั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินขมวดคิ้ว “เขาอยากพบข้าด้วยเรื่องใด?” หรือว่าต้องการสังหารนางอีกครั้ง
เซี่ยหว่านส่ายหน้า “ข้าเองก็ไม่รู้ ด้วยคำสั่งของคุณชายโจ่วอั้น ข้าจึงไม่กล้าเพิกเฉยต่อคุณชายโอวหยาง” นี่เป็นการบอกเฟิ่งชิงเฉินแบบกลาย ๆ ไม่ใช่ว่านางต้องการเรียกมือสังหารผู้นั้นว่าคุณชาย
“ข้ารู้แล้ว ข้าจะไปดู” จะจัดการกับเจ้างั่งอย่างไร เรื่องนี้จำเป็นต้องพูดให้ชัดเจน
บุญคุณต้องตอบแทนด้วยบุญคุณ ความแค้นต้องตอบแทนด้วยความแค้น นางไม่มีทางปล่อยเจ้างั่งไปได้ แต่หากจะเอาชีวิตของเจ้างั่ง ดูเหมือนว่ามันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เช่นกัน
เฟิ่งชิงเฉินกำลังคิดว่าควรจัดการกับเจ้างั่งอย่างไร แต่เจ้างั่งกลับทำท่าทางคุ้นเคย ทันทีที่เฟิ่งชิงเฉินเข้าไป เจ้างั่งก็พูดออกมาว่า “เฟิ่งชิงเฉิน เร็วเข้า รีบมาพันแผลให้เซียนถั่วของเจ้า ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว”
โจ่วอั้นเพียงแค่สั่งให้ดูแลเจ้างั่งให้ดี แต่ไม่ได้บอกให้ใครพันแผลให้เขา เสื้อผ้าที่เจ้างั่งสวมใส่ยังเป็นชุดที่เปียกโชกไปด้วยเลือดของเมื่อวาน ไม่มีเลือดไหลออกมาจากบาดแผล แต่ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยลิ่มเลือดแห้งซึ่งดูน่าสังเวช
“พันแผลให้เจ้า?” เห็นบาดแผลบนร่างกายของเจ้างั่ง เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกดีใจเล็กน้อย แต่นางกลับรู้สึกไม่พอใจที่ได้ยินคำพูดที่ดูสมเหตุสมผลของเจ้างั่ง
เจ้างั่งคือคุณชายผู้ยิ่งใหญ่แห่งพันธมิตรนักฆ่า แต่นางไม่ได้ติดค้างอะไรกับเจ้างั่ง
“ใช่ เจ้าเป็นหมอไม่ใช่หรือ เร็วเข้า รีบพันแผลให้ข้าเร็ว” เจ้างั่งมีความมั่นใจและทำตัวเป็นธรรมชาติมาก ไม่เพียงแค่เฟิ่งชิงเฉินเท่านั้น สาวใช้และองครักษ์ที่อยู่รอบ ๆ เองก็ต่างมองมาที่เจ้างั่งด้วยแววตาที่ตกตะลึง
สมองของมือสังหารผู้นี้ผิดเพี้ยนไปแล้วหรือเปล่า เขากล้าของให้คุณหนูพันแผลให้เขา นี่มัน......ไม่มีความสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย!
เฟิ่งชิงเฉินสูดลมหายใจเข้า แสร้งทำเป็นยิ้มและพูดออกมา “ต่อให้ข้าเป็นหมอ แต่ข้ามีความจำเป็นอะไรที่ต้องพันแผลให้เจ้า?” นี่มันตรรกะอะไรกัน?
“แน่นอน หากไม่ให้หมอพันแผลแล้วจะให้ใครทำ” เจ้างั่งกล่าวออกมาด้วยท่าทางอันโง่เขลา
“เจ้าพูดถูก ข้าเป็นหมอ มาหาข้าเพื่อทำให้ข้าพันแผลให้นั้นไม่มีอะไรผิด แต่เจ้าลืมไปแล้วงั้นหรือว่าเจ้าเป็นใคร? และข้าเป็นใคร?” เฟิ่งชิงเฉินค่อย ๆ ก้าวเข้าไปและเอนตัวไปหาเขา
เห็นแววตาอันดุร้ายของเฟิ่งชิงเฉิน เจ้างั่งถึงจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ ก้าวถอยหลังโดยสัญชาตญาณ “เจ้า เจ้าหมายความว่าอะไร?”
“ข้าหมายความว่าอย่างไรเซียนถั่วไม่รู้อย่างนั้นหรือ? เจ้าเป็นมือสังหาร และคนที่เจ้าต้องการสังหารก็คือข้า เจ้าคิดว่าข้าจะโง่รักษาบาดแผลให้เจ้า พันแผลให้เจ้าจนหายดีแล้วกลับมาสังหารข้าอีกครั้งอย่างนั้นหรือ?” หากนางช่วยเขานางก็คงบ้าไปแล้ว คนที่ต้องการสังหารตนเอง นางไม่ใช่เจ้างั่ง สมองของนางยังใช้งานได้ปกติ
เฟิ่งชิงเฉินดึงแขนเสื้อของนางออกมาด้วยแรงของตนเอง ไม่ได้แปลกใจแต่อย่างใด แขนเสื้อยับยู่ยี่ เปื้อนไปด้วยเลือด สวมออกไปพบเจอใครไม่ได้
“เฟิ่งชิงเฉิน ถือว่าข้าขอร้องเจ้า” เจ้างั่งไม่สนใจความโกรธของเฟิ่งชิงเฉิน เขาเพียงแค่ต้องการทำให้ความปรารถนาของเข้าสำเร็จเท่านั้น เขาจึงยื่นมือออกไปจับเสื้อผ้าของเฟิ่งชิงเฉินอีกครั้ง
“เจ้างั่งโอวหยาง เจ้าจะมากเกินไปแล้ว” เฟิ่งชิงเฉินถอยหลังมาสามก้าว หลังของนางพิงประตูถึงสามารถหลบฝ่ามือดังกล่าวของเจ้างั่งได้
“ไม่สน ข้าไม่สน เฟิ่งชิงเฉิน เจ้ามอบมันให้กับข้า ข้าจะจ่ายเงินให้เจ้า”
เฟิ่งชิงเฉินยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น ไม่ได้สนใจเจ้างั่ง เจ้างั่งเห็นว่าคำขอร้องไร้ความหมาย เขากลอกตา กล่าวออกมาในลักษณะเหมือนหัวขโมย “เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าลองคิดให้ดี หากพวกเราร่วมมือกันใส่ยาให้โจ่วอั้นสติฟั่นเฟือน นั่นเป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ต้องรู้ก่อนว่าเวลานี้เขาคือที่หนึ่งในโลกของมือสังหาร หลังจากที่พวกเราทำให้ตัวอันตรายอย่างเขาสติฟั่นเฟือนไปแล้ว เราก็จะเอาเชือกแขวนคอของเขาและแขวนป้ายไว้บนหน้าอกของเขาว่า “ข้าคือมือสังหารโจ่วอั้น” จากนั้นก็พาเขาออกไปเดินเล่นทุกวัน ลองคิดดูว่ามันจะสนุกแค่ไหน”
ในเมื่อขอร้องแล้วไม่ได้ผล เจ้างั่งจึงทำได้เพียงลากเฟิ่งชิงเฉินลงน้ำไปด้วย พูดถึงข้อดีของยาที่ทำให้โจ่วอั้นสติฟั่นเฟือนไม่ยอมหยุด
ตอนแรกคิดว่าเจ้างั่งโง่มาก เฟิ่งชิงเฉินอยากจะถามพระเจ้า ถามว่าพระเจ้าเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? เจ้างั่งกับเจ๋อเจ๋อ พวกเขามีต้นกำเนิดที่ผิดเพี้ยนหรือไม่?
คนหนึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่โง่เหมือนเด็ก อีกคนเป็นเด็กแต่ทำอะไรเหี้ยมโหดเสียยิ่งกว่าผู้ใหญ่ หากสองคนนี้สลับกัน โลกนี้คงมีความสุขน่าดู
เจ้างั่งเห็นเฟิ่งชิงเฉินไม่พูดอะไร เจ้างั่งยังคงพูดถึงประโยชน์ของมันอย่างไม่หยุดหย่อน บอกเรื่องที่ดี ๆ ที่สามารถทำกับโจ่วอั้นได้หลังถูกวางยา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ราวกับว่าตอนนี้เขาได้เห็นโจ่วอั้นอยู่ในสภาพนั้นไปแล้ว
เฟิ่งชิงเฉินนำมือขึ้นมาก่ายหน้าผากอย่างไร้เรี่ยวแรง ในตอนที่เจ้างั่งจินตนาการถึงเรื่องอันน่าตื่นเต้นที่จะเกิดขึ้นกับโจ่วอั้น สุดท้ายเฟิ่งชิงเฉินก็ทนต่อไปไม่ไหว ตะโกนออกมาว่า “โจ่วอั้น เจ้ารีบออกมาจัดการกับคนงี่เง่าผู้นี้เสียที!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...