นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1124

สรุปบท บทที่ 1124 ต้องตาย, การลงมือของเจ๋อเจ๋อ: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปตอน บทที่ 1124 ต้องตาย, การลงมือของเจ๋อเจ๋อ – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

ตอน บทที่ 1124 ต้องตาย, การลงมือของเจ๋อเจ๋อ ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตงหลิงจื่อลั่วเป็นลูกชายของฮองเฮา ตอนนี้โจวอ๋องเองก็มีเมืองฉู่คอยให้การสนับสนุน อำนาจทางการเมืองของทั้งสองนั้นไม่ต่างกันมาก หากต้องต่อสู้กันจริง ใครจะแพ้หรือชนะนั้นยังเป็นเรื่องที่พูดได้ยาก

ครั้งนี้โจวอ๋องกลับมาจากเมืองเหลียนเฉิง เขามีผลงานทางการทหาร และชื่อเสียงทางการทหารของเขาก็อยู่เหนือกว่าตงหลิงจื่อลั่วเป็นแน่

ตงหลิงจื่อลั่วไม่ต้องรับแรงกดดันจากโจวอ๋อง และต้องการสร้างชื่อเสียงทางการทหาร เขาไม่มีทางปล่อยโอกาสนี้ไปแน่ หากพลาดโอกาสครั้งนี้ การที่ตงหลิงจื่อลั่วจะสร้างผลงานทางการทหารก็คงเป็นเรื่องยาก

การต่อสู้ระหว่างตงหลิงจื่อลั่วกับโจวอ๋อง จักรพรรดิอยากเห็นเป็นอย่างมาก และเป็นสิ่งที่จักรพรรดิต้องการ ความแตกต่างระหว่างความแข็งแกร่งของโจวอ๋องและจื่อลั่อนั้นมากเกินไป ดังนั้นจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่เป็นฝ่ายแพ้

เสด็จอาเก้าไม่ต้องการเห็นตงหลิงอยู่ในสภาพที่สงบสุข มีการต่อสู้ถึงมีช่องทางในการแสวงหาผลประโยชน์ จักรพรรดิถึงจะรู้สึกว่าตนเองมีอำนาจล้นฟ้า และสามารถจัดการสมดุลพลังของทุกภาคส่วนได้

รอให้ตงหลิงจื่อลั่วได้รับชัยชนะกลับมา เขาจะขอให้องค์รัชทายาทสละตำแหน่งของตนเอง และโยนตำแหน่งองค์รัชทายาทให้สองคนนั้นแย่งชิงกัน

ยิ่งการต่อสู้ดุเดือดเท่าไหร่ จักรพรรดิก็ยิ่งยุ่งและวุ่นวายเท่านั้น

“แล้วเจ้า? ออกไปจากเมืองเพื่อตามหาเจ๋อเจ๋ออย่างนั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินเดาว่าเป้าหมายของเสด็จอาเก้าน่าจะเป็นซีหลิงเทียนเหล่ย

เป็นอย่างที่คิด เสด็จอาเก้ากล่าวออกมาว่า “ป่าควันพิษนั้นต่างจากป่าทั่วไป ข้าเกรงว่าเมื่อซีหลิงเทียนเหล่ยหมดหนทาง หลังจากพ่ายแพ้สงคราม เขาจะหนีเข้าไปในป่าควันพิษ ข้าจึงต้องการไปด้วยตัวเอง เมื่อถึงเวลาที่จำเป็น ข้าจะได้เป็นผู้ลงมือสังหารเขาด้วยมือของข้าเอง”

เสด็จอาเก้าต้องการยืนยันความตายในชีวิตของซีหลิงเทียนเหล่ยในครั้งนี้ และเขาไม่เชื่อใจในตัวของตงหลิงจื่อลั่ว

“อันตรายเกินไป” เฟิ่งชิงเฉินส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย

“วางใจ ข้าเคยเข้าไปในป่าควันพิษเพียงลำพัง หากกล่าวว่าใครเข้าใจป่าควันพิษมากที่สุด หากข้ากล่าวว่าข้าเป็นที่สองก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยว่าตนเองเป็นที่หนึ่ง” ร่างกายที่ทนต่อพิษนับร้อยชนิดของเขา ร่างกายที่คงกระพัน ประกอบกับทักษะทางการต่อสู้อีกมากมาย ทั้งหมดล้วนเป็นผลมาจากการฝึกซ้อมอันเหี้ยมโหด

ไม่มีใครประสบความสำเร็จโดยที่ไม่สูญเสีย เขาเองก็เช่นกัน

“เจ้าเคยไปป่าควันพิษงั้นหรือ? ไปมาตอนไหน? เหตุใดข้าถึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน?”

“มันเป็นเรื่องเมื่อสิบกว่าปีก่อนหน้านี้ คนที่รู้มีเพียงไม่มาก” ดวงตาของเสด็จอาเก้าจมลง ไม่ได้มีความคิดที่จะอธิบายออกมาแต่อย่างใด

ความทรงจำในช่วงเวลานั้นช่างเลวร้าย และเขาก็ไม่อยากที่จะคิดถึงมัน

เฟิ่งชิงเฉินอ้าปากค้าง มองไปที่เสด็จอาเก้า ดวงตาของนางเผยให้เห็นถึงความเจ็บปวด

สถานที่อย่างป่าควันพิษ นางเองก็รู้ หากสามารถมีชีวิตรอดออกมาจากด้านในนั้นได้ มันไม่ใช่เรื่องง่าย สิบกว่าปีก่อนหน้านี้ ตอนนั้นเสด็จอาเก้าเพิ่งจะมีอายุแค่สิบกว่าปี

เสด็จอาเก้าไม่อาจโกหกเฟิ่งชิงเฉินได้ บอกว่าไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในป่าควันพิษ และทำได้เพียงกล่าวปลอบใจ “ข้าก็ยังมีชีวิตที่ดีอยู่ไม่ใช่หรือไง ทุกประสบการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนเป็นสมบัติล้ำค่า ในป่าควันพิษ ข้าได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง”

แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ขอแค่มีชีวิตอยู่ก็เพียงพอแล้ว

“อื้อ หลังจากนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหน ข้าจะไปกับเจ้า และข้าก็จะไปที่ป่าควันพิษด้วย ข้าจะเป็นคนสังหารซีหลิงเทียนเหล่ยด้วยมือของข้าเอง” เฟิ่งชิงเฉินกุมมือของเสด็จอาเก้าด้วยแววตาอันแน่วแน่

เสด็จอาเก้ามองมาที่เฟิ่งชิงเฉิน ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็พยักหน้าออกมา

ไม่ว่าจะอันตรายมากแค่ไหน พวกเขาทั้งสองคนจะอยู่ด้วยกัน เช่นนี้ต่อให้ตายก็ไม่รู้สึกเงียบเหงา

ในยุคปัจจุบัน เฟิ่งชิงเฉินเคยรักษาเด็กที่ถูกลักพาตัวไปกลุ่มหนึ่ง แปดส่วนของเด็กพวกนั้นเป็นเด็กพิการ ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล ไม่มีใครอยู่ในสภาพสมบูรณ์แม้แต่คนเดียว

และมีเด็กอีกสองคนที่ถูกตัดขา เนื่องจากพวกเขาหนีออกมาก่อนและถูกจับตัวกลับไป จากนั้นจึงถูกกลุ่มของคนร้ายโยนลงไปบนรางรถไฟเพื่อตัดขาทั้งสองข้าง คนร้ายกลุ่มนั้นไร้ซึ่งหัวใจ ใช้เปลวไฟในการห้ามเลือด แต่เด็กสองคนนั้นก็ยังเอาชีวิตรอดมาได้ ช่างเป็นชะตากรรมอันยิ่งใหญ่

และที่นี่ หลังจากที่จับตัวเด็กไปแล้ว พวกเขาจะตระเวนไปรอบ ๆ ขายเด็กเหล่านี้ให้แก่สถานที่สกปรก เลี้ยงเด็กเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความสุขของตนเอง

พวกที่จับเด็กต่างมีนิสัยเหมือนกับสัตว์เดรัจฉาน สมควรได้รับความตาย ครั้งนี้เจ๋อเจ๋อทำได้ยอดเยี่ยม!

แม้แต่เฟิ่งชิงเฉินยังคาดเดาได้ว่าใครเป็นผู้ลงมือ เช่นนั้นเสด็จอาเก้าจะไม่รู้ได้อย่างไร ตอนแรกจักรพรรดิคิดว่าการตามหาเจ๋อเจ๋อของเสด็จอาเก้าเป็นเพียงฉากกำบัง แต่เวลานี้ดูเหมือนว่ามันจะมีเค้าโครงของความจริงขึ้นมาบ้างแล้ว

นอกจากคดีนี้แล้ว ผ่านไปอีกไม่ถึงสองวัน ในเขตใกล้เคียง มีคดีที่คล้ายคลึงกันเกิดขึ้น พวกที่ถูกสังหารยังคงเป็นพวกคนจับเด็ก และเจ้าหน้าที่ก็ช่วยเหลือเด็กจากสถานที่แห่งนั้นได้เป็นจำนวนมาก

หากบอกว่าคดีแรกเป็นเพียงเหตุบังเอิญ เช่นนั้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาภายหลังก็คงไม่บังเอิญถึงเพียงนี้ จักรพรรดิไม่อยากมีเรื่องกับลัทธิปีศาจเพียงเพราะการหายตัวไปของเจ๋อเจ๋อ เสด็จอาเก้าต้องการออกไปตามหา จักรพรรดิจึงไม่ขัดขวางแต่อย่างใด

เมื่อได้รับความยินยอมจากจักรพรรดิ เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินก็เตรียมตัวเดินทางออกจากเมือง ตอนแรกสำหรับการตามหาเจ๋อเจ๋อ พวกเขาไม่มีเบาะแสเลยแม้แต่น้อย แต่เวลานี้พวกเขาพอจะมีเบาะแสในการตามหาตัวของเจ๋อเจ๋อขึ้นมาบ้างแล้ว

ต้องบอกเลยว่าวิธีการของเจ๋อเจ๋อนั้นชาญฉลาดเป็นอย่างมาก เฟิ่งชิงเฉินเชื่อ ด้วยความฉลาดและฝีมือของเจ๋อเจ๋อ หากเขาไม่เต็มใจ คนจับเด็กพวกนั้นก็ไม่มีทางจับตัวเขาได้เป็นแน่

เจ๋อเจ๋อจงใจตามคนจับเด็กพวกนั้นไป ใช้ประโยชน์จากพวกเขาให้พาตนเองออกไปจากเมืองโดยที่ไม่มีใครรู้ เช่นนี้ก็ไม่มีใครตรวจสอบเกี่ยวกับบันทึกการเข้าออกมาเมืองของเขา หากมีคนจะตามหา มันก็เหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร แต่......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ