นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1131

สรุปบท บทที่ 1131 กับดัก, โต้วโต้วปะทะเจ๋อเจ๋อ: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

บทที่ 1131 กับดัก, โต้วโต้วปะทะเจ๋อเจ๋อ – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1131 กับดัก, โต้วโต้วปะทะเจ๋อเจ๋อ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เสด็จอาเก้าไม่เคยทำเรื่องอะไรที่เขาไม่มั่นใจ ในเมื่อเขาบอกเฟิ่งชิงเฉินว่าเขาพบเบาะแสของเจ๋อเจ๋อ นั่นก็หมายความว่าเขาพบร่องรอยของเจ๋อเจ๋อแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้น เสด็จอาเก้าบอกเฟิ่งชิงเฉินว่าเจ๋อเจ๋ออยู่ที่แคว้นจินชา และถูกคนจับเด็กกลุ่มหนึ่งลักพาตัวเข้าไปในเมือง

เด็กอย่างเจ๋อเจ๋อ รูปร่างของเขาบอบบาง ผิวพรรณนุ่มนวล หน้าตาน่ารัก แค่เห็นก็รู้ทันทีว่ามาจากตระกูลร่ำรวย และได้รับการเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี

เด็กประเภทนี้ขายได้กำไรมากที่สุด เจ๋อเจ๋อเดินอยู่บนถนนเพียงลำพัง เป็นสิ่งล่อตาล่อใจของคนจับเด็กมากที่สุด แค่เจ๋อเจ๋อเดินตามคนจับเด็กในแคว้นต่าง ๆ เขาก็จะถูกคนพวกนั้นจับตัวไปโดยไม่มีใครพบเห็น

เจ๋อเจ๋อใช้ประโยชน์จากคนจับเด็กให้พาเขาออกไปนอกเมือง ในทำนองเดียวกัน เสด็จอาเก้าใช้การจับตาดูคนจับเด็กในแคว้นต่าง ๆ ไม่แน่ว่าอาจจะพบร่องรอยของเจ๋อเจ๋อ

และเป็นอย่างที่คิด หลังจากเสด็จอาเก้าตรวจสอบคนจับเด็กสองสามกลุ่ม ในที่สุดเขาก็ได้พบกับคนเจ็บเด็กที่พาตัวเจ๋อเจ๋อไปในแคว้นจินชา

เจ๋อเจ๋อเป็นเด็กฉลาดที่ทำให้คนปวดหัว เขาไม่เพียงแค่ฉลาดเท่านั้น แต่ยังรู้จักใช้ลูกล่อลูกชน ปากหวานราวกับน้ำผึ้ง แค่เขาหันไปหาคนจับเด็กเหล่านั้นด้วยรอยยิ้มของเขา เรียกพวกนั้นว่าคุณลุง แค่นั้นพวกคนจับเด็กไม่ไม่กล้าทำอะไรรุนแรงกับเขา

เจ๋อเจ๋อเป็นเด็กดี ไม่มีความกลัวหรือตื่นตระหนกในดวงตาสีดำขนาดใหญ่ของเขา มีเพียงความอยากรู้อยากเห็นและความปรารถนาซึ่งทำให้ผู้ลักพาตัวเหล่านั้นรู้สึกผิด

แต่ความเสียใจก็คือความเสียใจ เด็กฉลาดอย่างเจ๋อเจ๋อนั้นสามารถขายได้ในราคาสูง เมื่อขายออกไปจะทำเม็ดเงินได้จำนวนมาก คนจับเด็กเหล่านั้นไม่มีวันปล่อยเขาไป

ในวันนั้นเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินเดินทางมาถึงแคว้นจินชา ทันทีที่เข้าเมือง ชายใยชุดสีครามสองคนก็ก้าวออกมาด้านหน้า ประสานมือทำความเคารพต่อเสด็จอาเก้า “นายท่าน”

“นำทางไป” เสด็จอาเก้าสั่งให้คนขับรถม้านำรถม้าออกไป

ทั้งสองคนไม่พูดอะไรมาก หันกลับและเดินตรงไป เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินก็ค่อย ๆ เดินตามไปด้านหลัง สายตาของโต้วโต้วคู่นั้นมองไปรอบ ๆ อย่างกระสับกระส่าย เขาไม่สามารถประเมินสถานการณ์ในตอนนี้ได้ ไม่รู้ว่าตนเองควรทำอะไรหรือไม่ควรทำอะไร ทำได้เพียงตามไปอย่างเชื่อฟังโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ

หลังจากเดินคดเคี้ยวไปมา ชายสองคนนั้นก็พาพวกของเฟิ่งชิงเฉินเดินมายังหน้าบ้านของประชาชนธรรมดาทั่วไปหลังหนึ่ง “นายท่าน เขาอยู่ที่นี่ รอบ ๆ นี้มีเหล่าพี่น้องคอยเฝ้าดูสถานการณ์โดยรวมอยู่”

ชายชุดสีครามชี้ไปในทิศทางต่าง ๆ เพื่อบ่งบอกว่ามีคนของพวกเขาอยู่ในที่เหล่านั้น

“อ่า จับตาดูที่นี่ไว้” ในตอนนี้เสด็จอาเก้าไม่มีทีท่าว่าจะลงมือ เขาหันกลับไปเดินเข้าไปในบ้านอีกหลังหนึ่ง

โต้วโต้วใจร้อน เห็นว่าเสด็จอาเก้าจากไปแล้ว เขารีบก้าวมาด้านหน้า ต้องการถามเสด็จอาเก้าว่าจะลงมือเมื่อใด แต่มันก็ไม่สะดวกที่จะถามในระหว่างทาง จึงรอให้เสด็จอาเก้าเข้าไปในห้อง โต้วโต้วจึงรีบถามออกมาทันที “เสด็จอาเก้า เจ้าลงมือเมื่อใดอย่างนั้นหรือ? อย่าปล่อยให้เจ๋อเจ๋อหนีไปได้อีกเป็นอันขาด”

“จะรีบร้อนอะไร”

“จะไม่รีบร้อนได้อย่างไร เด็กเจ้าเล่ห์เช่นนี้ หากหนีไปแล้วก็ไม่อาจหาตัวจับได้โดยง่าย” โต้วโต้วร้อนใจเป็นอย่างมาก เขาใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนในการคิดว่าจะทรมานเจ๋อเจ๋ออย่างไร แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายอยู่ตรงหน้า เสด็จอาเก้ากลับไม่ยอมให้เขาลงมือ นี่มันเลวร้ายเป็นอย่างมาก

“มีข้าอยู่ เขาไม่มีทางหนีไปไหนได้ เจ้าอย่าทำลายความสงบของข้า ไม่เช่นนั้นข้าจะมัดเจ้าและโยนไปให้เจ๋อเจ๋อ” มันเป็นการข่มขู่อีกแล้ว แต่การข่มขู่ครั้งนี้มันก็ค่อนข้างได้ผลกับโต้วโต้ว

โต้วโต้วสะดุ้งเล็กน้อย ซ่อนตัวอยู่ในมุมห้องอย่างเชื่อฟัง

เฟิ่งชิงเฉินคาดว่าเสด็จอาเก้าน่าจะรอให้เจ๋อเจ๋อลงมือสังหารผู้คน จากนั้นค่อยเข้าไปทำการจับกุมเจ๋อเจ๋อ เนื่องจากในตอนที่เจ๋อเจ๋อลงมือสังหารผู้คน มันเป็นช่วงเวลาที่การป้องกันอ่อนแอที่สุด และไม่ง่ายเลยที่เขาจะทำการหลบหนี

เอาเถอะ มันก็เป็นเพียงแค่การคาดเดาของเฟิ่งชิงเฉิน ส่วนในความจริงแล้วเสด็จอาเก้าคิดเช่นไร มันก็ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะคาดเดาได้

ในช่วงพลบค่ำ ชายชุดสีครามเมื่อตอนกลางวันเข้ามารายงาน “นายท่าน นายน้อยเจ๋อเจ๋อลงมือแล้ว”

“เอาป้ายคำสั่งของข้าไป บอกให้เจ้าเมืองรีบส่งคนมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของศาลาว่าการ” เสด็จอาเก้าโยนแผ่นป้ายคำสั่งสีดำออกมาด้านหน้าของชายชุดสีคราม ชายผู้นั้นหยิบป้ายคำสั่งขึ้นอย่างระมัดระวังและรีบถอยกลับไป

เมื่อชายชุดสีครามจากไป โต้วโต้วแทบรอไม่ไหวที่จะก้าวไปข้างหน้า “เสด็จอาเก้า เจ้าไปหาเจ้าหน้าที่ หรือว่าต้องการเอาชีวิตของเจ๋อเจ๋อ?”

“ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้วไม่ใช่หรือ” มือของเจ๋อเจ๋อแปดเปื้อนไปด้วยเลือด สำหรับจำนวนคนที่ตายด้วยเนื้อมือของเขา มันก็ไม่ได้น้อยไปกว่าโต้วโต้วเลย ต่อให้ต้องตายสักร้อยครั้งก็ไม่อาจชดใช้ความผิดที่เคยทำได้

แน่นอน เสด็จอาเก้าไม่มีทางพูดถึงปัญหาเหล่านี้กับเด็กเหลือขออย่างเจ๋อเจ๋อ

ด้านนอกเต็มไปด้วยเสียงแห่งความวุ่นวาย ด้านใน เสด็จอาเก้าอยู่ในความสงบ นำกระดานหมากรุกขึ้นมาเล่นกับตัวเอง

ตอนแรกเฟิ่งชิงเฉินเองก็กังวล เมื่อเห็นเสด็จอาเก้านำกระดานหมากรุกออกมา นางก้าวมาด้านหน้าโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ทันทีที่ได้เห็นนางก็ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นภายนอกไปทั้งหมด

ที่จริงต่อให้ลืมมันไปก็ไม่เป็นอะไร เนื่องจากเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในการคาดเดาของเสด็จอาเก้า ในตอนที่เจ้าหน้าที่บุกเข้าไป เจ๋อเจ๋อพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ เก็บมีดและเตรียมตัวหนี แต่ก็ถูกโต้วโต้วที่เฝ้ามองอย่างระมัดระวังสังเกตเห็น โต้วโต้วจึงดีดก้อนหินก้อนเล็ก ๆ ไปที่ข้าของเจ๋อเจ๋อ

เจ๋อเจ๋อเป็นเพียงแค่เด็ก เขาจะทนต่อการบาดเจ็บได้อย่างไร ขาของเขาอ่อนลงในทันที ล้มลงกับพื้น เวลานั้นเป็นเวลาที่เจ้าหน้าที่เข้ามาพอดี ทำให้พวกเขาสามารถจับกุมตัวของเจ๋อเจ๋อได้

ตอนแรกพวกเขาไม่เชื่อว่าเหตุการณ์ที่โหดร้ายและเลือดเย็นเช่นนี้จะเห็นฝีมือของเด็กเพียงคนเดียว แต่เมื่อเบื้องบนบอกว่าเด็กคนนี้เป็นผู้ก่ออาชญากรรม มีคดีเช่นนี้เกิดขึ้นในหลายแคว้น วิธีการเหี้ยมโหด ทำให้พวกเขาต้องให้ความสำคัญกับมันอย่างช่วยไม่ได้

เจ๋อเจ๋อเป็นเด็กฉลาด เพียงแค่คิดหาวิธีเล็กน้อยก็สามารถอ้างเหตุผลออกมาได้ เขากล่าวว่าตนเองถูกพวกนับถือลัทธิเต๋าหลอกใช้ ทั้งหมดเป็นเพียงกับดัก แต่เจ๋อเจ๋อก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดผู้ที่มาทำการจับกุมเขาถึงเป็นเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉิน

ใบหน้าของเจ๋อเจ๋อเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ หันศีรษะไปทางเจ้าหน้าที่ ใบหน้าอันสวยงามมีร่องรอยของความไม่สบายใจและความสับสน เจ้าหน้าที่ที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ใจอ่อน คลายกำลังโดยไม่รู้ตัว จากนั้นกล่าวปลอบใจออกมาว่า “เจ้าเด็กน้อยอย่ากังวล เจ้าแคว้นของพวกเราเป็นคนดี เด็กอย่างเจ้า พวกเราไม่เชื่อว่าจะสามารถลงมือสังหารผู้อื่นได้”

“อื้อ เจ๋อเจ๋อเองก็คิดเช่นนั้น” เจ๋อเจ๋อไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วใครเป็นคนสร้างสถานการณ์ขึ้นมา ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในทันที ตอบกลับไปอย่างเชื่อฟัง ไม่มีทีท่าว่าจะหนีเลยแม้แต่น้อย

ในเมื่อมีคนสร้างสถานการณ์ขึ้นมา แน่นอนว่าเขาไม่มีทางหนีพ้น ดังนั้นจึงทำได้เพียงคล้อยตามไปกับเจ้าหน้าที่ เขาเป็นเด็กที่ถูกลักพาตัวมา แม้ว่าจะถูกพาตัวไปมันก็ไม่มีทางเกิดปัญหาขึ้นเป็นแน่

ต้องบอกเลยว่าเจ๋อเจ๋อผู้นี้เป็นเด็กที่ชาญฉลาดอย่างแท้จริง แต่น่าเสียดายที่เขาต้องมาพบกับคนอย่างเสด็จอาเก้า......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ