นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1132

สรุปบท บทที่ 1132 สัตว์กินเนื้อ, งานเลี้ยงที่เสด็จอาเก้าเตรียมไว้ให้เจ๋อเจ๋อ: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอน บทที่ 1132 สัตว์กินเนื้อ, งานเลี้ยงที่เสด็จอาเก้าเตรียมไว้ให้เจ๋อเจ๋อ จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1132 สัตว์กินเนื้อ, งานเลี้ยงที่เสด็จอาเก้าเตรียมไว้ให้เจ๋อเจ๋อ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เจ๋อเจ๋อคิดมาโดยตลอดว่าตนเองถูกพาตัวไปยังศาลาว่าการในฐานะเหยื่อ ต่อให้ไม่มีพ่อแม่มารับเขา เขาก็ไม่น่าจะถูกทำร้ายแต่อย่างใด แต่เมื่อมาถึงศาลาว่าการ เขาถึงได้เข้าใจ เรื่องราวทุกอย่างนั้นต่างไปจากที่เขาคิด

“ท่านลุง เหตุใดถึงพาข้ามายังสถานที่แห่งนี้?” ดวงตาคู่นั้นของเจ๋อเจ๋อเบิกกว้าง เต็มไปด้วยความสับสน และพยายามปกปิดความหวาดกลัวที่อยู่ภายใน

ต่อให้เขาไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เขาก็รู้ว่าที่นี่คือคุกใหญ่ มันเป็นสถานที่สำหรับกักขังนักโทษ ในดินแดนแห่งลัทธิปีศาจของเขา แม้ว่าจะเอาตัวนักโทษที่อยู่ในคุกใหญ่ออกมาสังหารตามอำเภอใจ สิ่งเหล่านี้ก็ล้วนแต่ไร้ซึ่งความผิด

“เรื่องนี้เป็นคำสั่งจากทางเบื้องบน” เจ้าหน้าที่เองก็แทบทนไม่ไหว แต่นี่คือคำสั่งจากเบื้องบน พวกเขาก็ทำได้เพียงเห็นอกเห็นใจเจ๋อเจ๋ออย่างเงียบ ๆ

เด็กตัวแค่นี้ ไม่รู้ว่าครอบครัวของเขาไปทำความผิดอะไรไว้ เหตุใดจึงต้องลงโทษกับเด็กตัวแค่นี้

“ท่านลุง ท่านพูดอะไรออกมา ข้าไม่เข้าใจ” ความสับสนยังคงหลงเหลืออยู่บนใบหน้าของเจ๋อเจ๋อ ซึ่งมันดูแล้วน่ารักเป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่แม้ว่าเขาจะน่ารักสักแค่ไหน น่าสงสารสักเพียงใด เขาก็ไม่อาจเปลี่ยนใจเจ้าหน้าที่เหล่านี้ได้

ความเห็นอกเห็นใจคือความเห็นอกเห็นใจ แต่พวกเขาก็ไม่มีทางทำให้เจ้านายต้องขุ่นเคืองเพียงเพราะความสงสารที่มีให้แก่เด็กที่ตนเองไม่รู้จัก

“เอาล่ะ เลิกถามได้แล้ว เจ้าเข้าไปด้านในก็จะรู้เอง” เจ้าหน้าที่อีกคนมีหน้าตาซึ่งไร้ความรู้สึก ไม่สนใจเจ๋อเจ๋อ เห็นว่าเจ๋อเจ๋อยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว เขาจึงออกแรงผลักเข้าไป

เจ๋อเจ๋อเดินเซไปด้านหน้า เขาไม่ได้พูดอะไร ก้มหน้าลงต่ำ ใครก็มองไม่เห็นว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

ไม่ว่าจะฉลาดแค่ไหนเจ๋อเจ๋อก็ยังเป็นแค่เด็ก เขามีประสบการณ์เพียงน้อยนิด คิดว่าด้วยสติปัญญาและความสามารถของตนเอง ไม่ว่าจะไปที่ใดก็ไม่มีทางเกิดเรื่อง แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามีสถานที่อยู่แห่งหนึ่ง ที่ไม่ว่าคนผู้นั้นจะฉลาดมากแค่ไหนมันก็ไร้ประโยชน์ และเสด็จอาเก้าก็ต้องการโยนเจ๋อเจ๋อไปยังสถานที่แห่งนั้น ทำให้เขาได้เข้าใจอย่างชัดเจนว่าอะไรคือความเหี้ยมโหดที่แท้จริง

ต่อให้เจ๋อเจ๋อพอจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอาชญากรตัวจริง สิ่งที่เขามีมันก็ไร้ค่า หากไม่ใช่เพราะสถานะของนายน้อยแห่งลัทธิปีศาจ เจ๋อเจ๋อก็ไม่มีค่าอะไรทั้งนั้น

เจ้าหน้าที่พาตัวของเจ๋อเจ๋อไปยังห้องขังด้านในสุด ห้องขังดังกล่าวไม่ได้ใหญ่มาก คนที่ถูกขังอยู่ด้านในก็มีเพียงไม่กี่คน เจ๋อเจ๋อจึงแอบถอนหายใจ

มีเพียงแค่หกคน สองในหกเป็นคนพิการ อีกสองคนผอมแห้งราวกับไม้ไผ่ ส่วนอีกสองคนนั่งอยู่ตรงมุมห้อง เจ๋อเจ๋อมองเห็นไม่ชัดเจน

“เข้าไป” เจ้าหน้าที่เปิดประตูห้องขัง นักโทษหกคนที่อยู่ด้านในไม่แม้แต่จะยกเปลือกตาขึ้นมา

เจ้าหน้าที่ซึ่งพูดคุยกับเจ๋อเจ๋อมาตลอดทางทนไม่ไหว ในตอนที่เจ๋อเจ๋อก้าวเข้าไป เขารีบเข้าไปกระซิบข้างหูของเจ๋อเจ๋อ “เด็กน้อย ในตอนที่เข้าไปอยู่ด้านในก็ระวังตัวให้มาก พวกเขาไม่ใช่......”

ยังไม่ทันพูดจบ เจ๋อเจ๋อก็ถูกผลักเข้าไปด้านในเสียก่อน ล้มลงอยู่ในห้องขัง เสียงโครมครามดังขึ้น เจ้าหน้าที่ปิดประตูห้องขัง ส่งสายตาแจ้งเตือนนักโทษทั้งหก บอกให้พวกเขาอย่างกลั่นแกล้งทักโทษที่เข้ามาใหม่ผู้นี้

ทั้งหกคนยังคงนั่งอยู่ที่เดิมโดยไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงไม่ได้เอาเรื่อง มองไปยังเจ๋อเจ๋อด้วยสายตาเห็นใจ จากนั้นก็เดินจากไป

หลังจากเจ้าหน้าที่จากไปแล้ว เจ๋อเจ๋อก็ลุกขึ้นมาจากพื้น จ้องมองทั้งหกคนอย่างระมัดระวัง หามุมนั่งเป็นของตนเอง ขลุกตัวอยู่อย่างนั้นไม่เคลื่อนไหว ในใจแอบคิดว่าจะหนีออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร

แต่ไม่มีเวลาให้เจ๋อเจ๋อได้ครุ่นคิดนานขนาดนั้น หลังจากเจ้าหน้าที่จากไปได้ไม่นาน คนในห้องขังก็เข้ามาล้อมเจ๋อเจ๋อเอาไว้ เว้นแต่สองคนที่ขาพิการ ที่เหลือก็เข้ามาด้านหน้าของเจ๋อเจ๋อ

“เจ้า พวกเจ้าจะทำอะไร?” ลมหายใจที่เยือกเย็นและกระหายเลือดทำให้ร่างกายของเจ๋อเจ๋อสั่นเทา ความรู้สึกนี้คือความหวาดกลัว และมันเป็นครั้งแรกที่เจ๋อเจ๋อได้สัมผัส

“เด็กคนนี้ผิวบางและเนื้อนุ่ม หากเอาไปย่างไม่รู้ว่ารสชาติจะเป็นเช่นไร” ชายที่มีใบหน้าซีดเผือด รูปร่างผอมสูงกล่าวออกมาพร้อมกับน้ำลายสอ

อีกคนยื่นมือออกมาบีบลงบนใบหน้าของเจ๋อเจ๋อ “เป็นเด็กจากตระกูลร่ำรวยอย่างที่คิด ผิวพรรณนุ่มมาก ไม่จำเป็นต้องย่างเลยด้วยซ้ำ กินเข้าไปแบบนี้ก็ยังสดพอ”

พูดจบเขาก็ยกร่างของเจ๋อเจ๋อขึ้นมาด้วยมือเพียงข้างเดียว

ทั้งสี่คนกัดไปคนละคำ และกัดไปที่แขนข้างเดียวของเจ๋อเจ๋อเท่านั้น

เด็กอายุหกขวบคนหนึ่ง แขนข้างหนึ่งของเขาจะมีเนื้อมากสักแค่ไหน หลังจากที่ทั้งสี่คนกัดไปคนละคำ ทั้งแขนก็เต็มไปด้วยเลือด ไม่เหลือเนื้อดี ๆ ให้กิน

“ปัง......” หลังจากกัดเสร็จแล้ว ชายผู้นั้นก็โยนเจ๋อเจ๋อลงพื้น เลียริมฝีปากและเดินไปอย่างพอใจ เจ๋อเจ๋อเจ็บปวดจนหมดสติ แต่เขาก็ได้ยินอีกฝ่ายพูดออกมาอย่างคลุมเครือว่า “วันนี้พอเท่านี้ก่อนแล้วกัน พวกเจ้าอย่าทำอะไรให้มากเกินไป หากกินหมดภายในสองสามวัน กว่าจะรอให้อาหารชั้นเลิศเช่นนี้มาส่งอีกครั้งคงหิวตายกันก่อนพอดี”

ร่างกายของเจ๋อเจ๋อสั่นเทา ใบหน้าของเขาซีดขาวจนน่าตกใจ นำมือข้างที่ยังสมบูรณ์หดเข้าไปในแขนเสื้อ ลูบกริชในอ้อมแขนของเขาเบา ๆ และเขาได้ทำการตัดสินใจแล้ว

แต่ก่อนที่เจ๋อเจ๋อจะได้ดำเนินตามแผนการของตนเอง นักโทษขาพิการสองคนก็คลานเข้ามาข้างกายของเขา และถอดเสื้อผ้าของเขาออกในทันที

เจ๋อเจ๋อพยายามจะขัดขืน แต่แรงของเด็กจะไปสู้แรงของผู้ใหญ่ได้อย่างไร แม้ว่าเจ๋อเจ๋อจะพอมีวรยุทธ์อยู่บ้าง แต่นักโทษที่อยู่ในคุกทั้งหกคนนี้ มีใครบ้างที่เป็นคนธรรมดา ก่อนที่เจ๋อเจ๋อจะลงมือ เขาก็ถูกตีทำให้สลบไปภายในฝ่ามือเดียว

เจ๋อเจ๋อรู้สึกว่ามีเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นมาในหัวของเขา แขนและขาทั้งสองข้างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง เขาเห็นเพียงแค่ว่าชายพิการทั้งสองคนกำลังถอดเสื้อผ้าของเขาออก จากนั้นก็มีอะไรไม่รู้สีดำ ๆ พันรอบกายของเขา รวมถึงแขนข้างซ้ายที่ได้รับบาดเจ็บ

“มันไว้ให้ดี อย่าให้เลือดออก เดี๋ยวมันจะไม่อร่อย”

เจ๋อเจ๋อโกรธมาก เขาอยากจะสังหารใครสักคน แต่อย่าว่าแต่สังหารใครเลย แค่เรี่ยวแรงในการดิ้นรนออกไปจากที่นี่ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ

สถานที่นี้คือนรกบนดิน คือสถานที่ซึ่งเสด็จอาเก้าเลือกให้เจ๋อเจ๋อโดยเฉพาะ เสด็จอาเก้าต้องการทำให้เจ๋อเจ๋อได้เข้าใจว่าอะไรคือความเหี้ยมโหดที่แท้จริง และหากเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ มันดูไร้ประโยชน์และน่าหวาดกลัวมากเพียงใด

หลังจากเอาชีวิตรอดจากประสบการณ์อันเหี้ยมโหดครั้งนี้ไปได้ เจ๋อเจ๋อยังคงเป็นเด็กที่โหดเหี้ยมเหมือนแต่ก่อน เช่นนั้นเขาก็จะปล่อยเด็กคนนี้ไป......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ