ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีไม่มีความสุขเป็นอย่างมาก แต่ต่อให้เขาไม่มีความสุขมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของเสด็จอาเก้าได้ เสด็จอาเก้าบอกว่าต้องการช่วยเจ๋อเจ๋อ ต่อให้ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีไม่เต็มใจที่จะใช้ตัวยาของเขา เขาก็ทำได้เพียงแค่กัดฟันและก้มหน้าก้มตาทำต่อไป
ใครใช้ให้ตัวยาเหล่านั้นถูกกลั่นออกมาด้วยเม็ดเงินของเสด็จอาเก้า หากไม่มีความช่วยเหลืออันยิ่งใหญ่ของเสด็จอาเก้า อย่าว่าแต่สิบขวดเลย แค่กำลังของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีเพียงอย่างเดียว กลั่นออกมาได้สองขวดก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
การวิจัยตัวยาใหม่ ๆ มีต้นทุนค่อนข้างสูง หากไม่มีเม็ดเงินจำนวนมากคอยค้ำจุน มันก็ยากที่จะดำเนินการให้สำเร็จต่อไป
เฟิ่งชิงเฉินนั่งอยู่ในห้องของโต้วโต้ว นางก็ยังได้ยินเสียงโวยวายของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี เขาเอาแต่บ่นว่าเงินไม่พอ วัตถุดิบในการกลั่นยาไม่พอ ลูกน้องไม่พอ หากเสด็จอาเก้าจะใช้เวลาว่างเพื่อช่วยเหลือผู้คน คงจะดีกว่าหากเอาเวลาเหล่านี้ไปหาเงินให้เขา ช่วงนี้เขาเพิ่งจะคิดค้นตัวยาชนิดใหม่ขึ้นมาได้ และจำนวนเงินที่มีอยู่มันก็ไม่พอ
“คนที่คลั่งไคล้ในงานวิจัยนี่ต้องการเงินเหมือนกันหมด ไม่แบ่งแยกว่าพวกเขาจะอยู่ในสถานที่ใด” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวออกมาอย่างเข้าใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางได้รู้จักกับปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีมีคุณธรรมเช่นไร เรื่องนี้นางรู้ตั้งแต่แรก
สำหรับคนภายนอก เขาอาจเป็นหมอเทวดาที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ แต่หลังจากได้รู้จักกับเขาก็จะพบว่า นอกจากทักษะทางการแพทย์ ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีก็ไม่ต่างอะไรกับชายหนุ่ม กระโดดโลดเต้นไปทั่ว ไม่มีสมาธิอยู่กับตัวเอง
“ข้าคิดว่าเจ้ากับปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้” เฟิ่งชิงเฉินหันมาพูดกับโอวหยางโต้วโต้ว ทำให้โอวหยางโต้วโต้วลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยความโกรธ “ข้าเอะอะโวยวายเช่นนั้นต้องแต่เมื่อไหร่ เพื่อเงินเพียงเล็กน้อย จากเช้าจรดค่ำ แม้แต่ตระกูลชุยกับตระกูลเวิน ข้ายังไม่เคยรบกวน”
“แกล้งตายอย่างนั้นหรือ?” ไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ โต้วโต้วยังนอนอยู่บนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่เวลานี้เขาเหมือนกับมังกรที่เกิดใหม่ ยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น
เมื่อเจอกับสิ่งที่น่าตกใจเป็นเล็กน้อย กลับนอนทำใจอยู่บนเตียงทั้งวัน โต้วโต้วคิดว่าเขาเป็นสาวน้อยผู้อ่อนโยนหรืออย่างไร
“ฮึ ฮึ......” โต้วโต้วเกาศีรษะของเขาอย่างเขินอาย “ข้าก็แค่ถูกเสด็จอาเก้าทำให้ตกใจไม่ใช่หรือไง ใครจะไปคิดว่าเขาจะโหดร้ายถึงเพียงนี้ เฟิ่งชิงเฉินเจ้ายังไม่เห็น หากเจ้าได้เห็นเกรงว่าเจ้าจะต้องอาเจียนออกมาเป็นแน่ และยังทำให้เจ้ากินข้าวไม่ลงอีกหลายวัน”
ในขณะที่พูดออกมา มือของโต้วโต้วยังคงกระโดดโลดเต้นโดยไม่สนใจคำเตือนของเสด็จอาเก้า เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองได้เห็นในห้องขังออกมา แต่ในตอนที่เขากำลังจะเอ่ยปากก็ถูกเฟิ่งชิงเฉินห้ามเอาไว้ก่อน
“ไม่ต้องพูด ข้าไม่อยากฟัง” เสด็จอาเก้าต้องการสร้างบทเรียนให้แก่เจ๋อเจ๋อ หากเบาเกินไปเช่นนั้นก็ไม่ถือว่าเป็นบทเรียน ไม่รู้จักเชื่อฟัง และยังคงทำผิดต่อไป
“เพราะเหตุใดงั้นหรือ?” โต้วโต้วบ่นออกมา เขาต้องการหาใครมาช่วยระบายความกังวลของเขา
“มีอะไรน่าฟังกัน อย่างไรเสด็จอาเก้าก็ไม่มีทางทำเช่นนั้นกับข้า” เฟิ่งชิงเฉินมองทะลุความคิดของโต้วโต้ว
โต้วโต้วได้ยินเช่นนั้นก็รีบพยักหน้า “ก็จริง เสด็จอาเก้ารักและห่วงใยเจ้าถึงเพียงนั้น เขาจะทำเช่นนั้นกับเจ้าได้อย่างไร เจ้าว่าเสด็จอาเก้าจะทำเช่นนั้นกับข้าหรือไม่?”
โต้วโต้วก้าวเท้าไปด้านหน้า คุกเข่าลงข้างเท้าของเฟิ่งชิงเฉิน
“เรื่องนี้ก็พูดยาก หากเจ้าไปขัดขืนกฎเกณฑ์ของเขา มีโอกาสเก้าในสิบส่วนที่เจ้าจะถูกปฏิบัติเช่นนี้ แต่อย่างไรก็ไม่รุนแรงถึงชีวิต เพราะจะได้ไม่ต้องกังวลว่าหกสัตว์ประหลาดเฒ่าแห่งพันธมิตรนักฆ่าจะตามมาแก้แค้นถึงที่” พูดคุยกับโต้วโต้ว การที่พูดออกไปโดยตรงนั้นมีประโยชน์มากกว่าการพูดอ้อมค้อม
“เรื่องนี้มันก็จริง หากข้ายังไม่ตาย พวกเขาก็ไม่มีทางบุกเข้ามาเพื่อแก้แค้นให้ข้า ดีไม่ดีพวกเขาอาจจะลงโทษข้า และบอกว่าข้าไร้ประโยชน์” ได้ยินคำพูดของเฟิ่งชิงเฉิน โต้วโต้วก็ไม่ได้โกรธแต่อย่างใด เขาไม่ใช่คนประเภทที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง การที่มีร่มไม้ใหญ่อยู่ด้านหลังนั้นดีกว่า มันเปรียบเสมือนการมีร่มเงา
เมื่อข้ามีภูมิหลังก็เท่ากับว่าข้ามีตัวช่วย เจ้าจะทำอะไรข้าได้
“รู้เช่นนี้ก็ดีแล้ว เชื่อฟังข้าให้มาก ไม่เช่นนั้นข้าจะบอกให้เสด็จอาเก้าใช้วิธีการเดียวกับที่จัดการกับเจ๋อเจ๋อ ในการจัดการกับเจ้า” ในตอนที่โต้วโต้วปฏิบัติตัวอย่างเชื่อฟัง เขาก็เหมือนกับสุนัขของแม่ทัพใหญ่ ทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกคันไม้คันมือ อยากจะลูบศีรษะของโต้วโต้ว
ผลที่ออกมาคือ สุนัขแม่ทัพตัวนี้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นำศีรษะเขามาสัมผัสกับฝ่ามือของเฟิ่งชิงเฉิน กล่าวออกมาด้วยใบหน้าอันหวาดกลัว “เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าช่วยข้านึกหน่อย ช่วงนี้จ้าทำเรื่องอะไรที่ทำให้เสด็จอาเก้าไม่พอใจหรือไม่?”
หากมีข้าจะได้ทำการชดใช้ในทันที ข้าไม่อยากถูกผู้อื่นกัดเนื้อ ไม่อยากหิวตาย ไม่อยากดื่มน้ำปัสสาวะ......
“เจ้าทำอะไรลงไป ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร เจ้าลองคิดดูให้ดี หากคิดไม่ออกก็ไม่ต้องกังวล เสด็จอาเก้าไม่มีทางเอาชีวิตของเจ้า เขาจะต้องเหลือลมหายใจเจ้าไว้เป็นแน่ จากนั้นก็ปล่อยให้โต้วโต้วช่วยรักษาให้เจ้า” คำพูดนี้ของเฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่คำปลอบใจ โต้วโต้วได้ยินเช่นนี้เขาก็ตกใจจนนั่งลงกับพื้นทันที
“ไม่นะ เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าเห็นคนตายแล้วจะไม่ช่วยได้อย่างไร ฮือ ฮือ ฮือ......ท่านโต้ว เหตุใดเจ้าถึงได้โชคร้ายถึงเพียงนี้” โต้วโต้วร้องโหยหวน เสียงนั้นน่าสลดใจเป็นอย่างมาก คนที่ไม่รู้คิดว่าเขาเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...