บทที่ 1143 เคลื่อนไหว, แผนการเขย่าใต้หล้าของคุณชายใหญ่ – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1143 เคลื่อนไหว, แผนการเขย่าใต้หล้าของคุณชายใหญ่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เฟิ่งชิงเฉินคิดว่าตนเองเป็นคนธรรมดามาโดยตลอด เป็นคนธรรมดาอย่างถึงที่สุด หากชีวิตนี้ไม่ได้มาเจอกับเสด็จอาเก้า ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่สุดของนางก็น่าจะเป็นเจ้าของร้านขายยาเล็ก ๆ และใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย
ชีวิตที่เกิดมามีแม่เป็นคนพิเศษ เฟิ่งชิงเฉินคิดว่าเท่านี้มันก็น่าตกใจมากพอแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่เคยคิดมาก่อนว่าพ่อของตนเองก็จะมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน
ในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่ง เฟิ่งชิงเฉินไม่เคยคิดว่าชีวิตของตนเองจะได้กลายเป็นตำนาน การคาดเดาในคืนนั้นถูกลบไปจากสมองของเฟิ่งชิงเฉินอย่างรวดเร็ว และคิดแค่ว่าชายชรากับโต้วโต้วมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น ต้องการทราบถึงตัวตนของนางเนื่องจากนางมีค่าหัวที่สูงกว่าคนทั่วไป
แต่เสด็จอาเก้าไม่ได้คิดเช่นนั้น เขายอมรับการมีอยู่ของชายชรามาตลอดทาง คำพูดที่ชายชรากล่าวออกมานั้นเป็นสิ่งที่ให้ความเคารพกับเฟิ่งชิงเฉินเป็นอย่างมาก ในเวลานี้เสด็จอาเก้าไม่ต้องการตรวจสอบอะไรทั้งนั้น เขาแค่อยากรู้เบื้องหลังที่แท้จริงของพันธมิตรนักฆ่า
สกุลเฟิ่งหลีไม่อาจดูหมิ่นได้ ใครจะไปรู้ว่าสกุลเฟิ่งหลีซ่อนพลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้เอาไว้ในยุทธจักร
หากเขาไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกันระหว่างเฟิ่งชิงเฉินกับสกุลเฟิ่งหลี เกรงว่าชีวิตนี้ก็คงไม่มีทางสืบหาเรื่องราวระหว่างพันธมิตรนักฆ่ากับเฟิ่งหลี
สิ่งนี้สำหรับเสด็จอาเก้าแล้ว มันเป็นประโยชน์และไม่มีอันตรายแต่อย่างใด หากมีความสัมพันธ์เช่นนี้อยู่ เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการไล่ล่าของพันธมิตรนักฆ่าอีกต่อไป แม้กลุ่มมือสังหารเหล่านั้นไม่อาจเอาชีวิตของเฟิ่งชิงเฉินได้ แต่มันก็ทำให้นางรำคาญพอตัว
ระหว่างทาง เฟิ่งชิงเฉินและเสด็จอาเก้าไม่ได้ทำสิ่งใดทั้งนั้น พวกเขาเพียงแค่เดินทางไปยังสถานที่ซึ่งนัดหมายกับโต้วโต้วไว้
“เจ้าจะไปปล่อยหนานหลิงจิ่นฝานไปง่าย ๆ แบบนี้เลยหรือ?” ระหว่างทาง เฟิ่งชิงเฉินอดไม่ได้ที่จะถามออกมา
ต้องรู้ว่าก่อนว่าแต่ไหนแต่ไรเสด็จอาเก้าไม่ใช่คนที่สามารถเจรจาได้ง่าย ๆ ความแค้นต้องชำระ นี่คือนิสัยของเสด็จอาเก้า
“ปล่อย? เหตุใดข้าต้องปล่อยเขา” นี่คือองค์ชายของสี่ประเทศ เขาจะปล่อยไปได้อย่างไร
แม้แต่หลานของตนเองเขายังวางแผนใช้งาน ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงคนนอกอย่างหนานหลิงจิ่นฝาน
“ในเมื่อไม่คิดจะปล่อยเขา เหตุใดจึงไม่เห็นเจ้าลงมือเสียที” หลายวันที่ผ่านมา เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน ไม่ว่าเสด็จอาเก้าจะทำอะไร เฟิ่งชิงเฉินรับรู้ทุกอย่าง
มุมปากของเสด็จอาเก้าโค้งขึ้นเล็กน้อย “ต้องการสร้างปัญหาให้หนานหลิงจิ่นฝาน เหตุใดข้าต้องลงมือด้วยตัวเอง”
“เจ้าไม่ลงมือ เช่นนั้นใครจะเป็นคนลงมือ? จิ่นสิง? จิ่นสิงและหนานหลิงจิ่นฝานต่อสู้กันอย่างดุเดือดในดินแดนหนานหลิง แม้แต่จักรพรรดิหนานหลิงก็ไม่อาจควบคุมได้”
เสด็จอาเก้าส่ายหน้า “ไม่ หนานหลิงจิ่นฝานต้องการทำอะไร ข้าจะให้คนผู้หนึ่งคอยดูแลเขา”
“เจ้าหมายถึงจิ่นหลิง?” ขาดความกล้าในการทำสิ่งต่าง ๆ คนที่หนานหลิงจิ่นฝานพะว้าพะวังมากที่สุดในตอนนี้ก็คือหวังจิ่นหลิง
“จดหมาย น่าจะไปถึงมือของหวังจิ่นหลิงแล้ว” เสด็จอาเก้าเงยหน้าขึ้น มองไปด้านหน้า รอบกายเขาเต็มไปด้วยเต็มไปด้วยความอาฆาต
ครั้งนี้หนานหลิงจิ่นฝานน่าจะได้เรียนรู้ความถ่อมตน รู้ว่าใครที่เขาไม่อาจเข้าไปก้าวก่ายได้!
ในตอนที่จดหมายไปถึงตระกูลหวัง หวังจิ่นหลิงกำลังพูดคุยอยู่กับหวังจิ่นหาน หวังจิ่นหานสามารถเอาชีวิตของเขากลับมาได้ แต่มือและเท้าของเขายังไม่ดีเท่าที่ควร แม้ว่าการแสดงออกของเขาจะดูไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ แต่หวังจิ่นหลิงรู้ดีว่าน้องเจ็ดของเขาทรมานใจเพียงใด
ทายาทของตระกูลหวัง นอกจากหวังจิ่นหลิงที่พิการทางสายตามาตั้งแต่กำเนิด คนอื่น ๆ ล้วนมีความสามารถในด้านต่าง ๆ และหวังชีก็เป็นคนที่โดดเด่นที่สุด ไม่อย่างนั้นหวังชีคงไม่ได้รับฉายาว่าคุณชายกล้วยไม้ แต่เวลานี้......
มือทั้งสองข้างถูกทำลาย อนาคตของหวังชีเองก็ดับสลาย หวังจิ่นหลิงที่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้รู้สึกเจ็บปวดอย่างสุดหัวใจ บางครั้งเขามักจะหาอะไรมาให้หวังชีทำ หรือหากมีเวลาว่างก็จะมาพูดคุยเป็นเพื่อนกับหวังชี
วันนี้ไม่ง่ายเลยกว่าหวังจิ่นหลิงจะหนีเอาตัวรอดจากภาระงานที่ตนเองต้องทำในทุกวันมาได้ แต่พ่อบ้านก็รีบวิ่งไล่ตามเขามา “คุณชายใหญ่ จดหมายของแม่นางเฟิ่ง จดหมายของแม่นางเฟิ่ง”
ภายในตระกูลหวัง เวลานี้ทุกคนต่างเป็นคนสนิทของหวังจิ่นหลิง ในฐานะคนที่หวังจิ่นหลิงไว้ใจ พวกเขาต่างรู้ดีว่าหวังจิ่นหลิงให้ความสำคัญกับเฟิ่งชิงเฉินมากแค่ไหน เมื่อได้ยินว่ามีจดหมายของเฟิ่งชิงเฉินมาถึง พ่อบ้านก็รีบนำมาให้เขาด้วยตัวเอง
“จดหมายจากชิงเฉิน?” หวังจิ่นหลิงได้ยินเช่นนี้ เขาไม่ได้ดีใจแต่อย่างใด ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย และรับจดหมายจากมือของพ่อบ้านไว้
ราชวงศ์หนานหลิงถูกบรรพบุรุษของตระกูลหวังขับไล่ หากหวังจิ่นหลิงยอมให้พวกเขากลับมา นั่นไม่ใช่การอกตัญญู เมื่อถึงเวลานั้นก็ไม่ต้องรอให้คนด้านนอกพูด แม้แต่คนในตระกูลหวังเองก็ไม่มีทางยอมให้หวังจิ่นหลิงเป็นผู้นำของตระกูลหวังอีกต่อไป
“ชิงเฉินอยู่ในกำมือของเขา” หวังจิ่นหลิงสงบเป็นอย่างมาก ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มอ่อน ๆ ทำให้ไม่อาจคาดเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไร
ใบหน้าของหวังชีดูไม่ได้ กล่าวออกมาด้วยเสียงอันแผ่วเบา “แต่ท่านก็ไม่อาจทำให้ตนเองต้องกลายเป็นคนอกตัญญูเพราะเรื่องนี้ได้ เมื่อถึงเวลานั้นคนทั้งใต้หล้าจะประณามท่าน”
“ข้ารู้แล้ว” หวังจิ่นหลิงตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้ม เมื่อเห็นแววตาของหวังชี เขาก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
หลังจากผ่านเรื่องราวบางอย่าง จิ่นหานเองก็โตขึ้นมาก เขาเกิดในตระกูลหวังโดยมีฐานะสูงส่งกว่าผู้อื่น แต่เช่นเดียวกัน ภาระที่ต้องแบกรับก็ไม่ได้น้อยไปกว่าฐานะของพวกเขา
ลูกหลานของตระกูลหวังห้ามทำให้ตระกูลหวังต้องเสียชื่อ ห้ามทำลายชื่อเสียงของตระกูลหวัง หากลูกหลานของตระกูลหวังยังไม่สนใจชื่อเสียงของตระกูลหวัง เช่นนั้นตระกูลหวังจะดำรงอยู่ต่อไปได้อย่างไร
เมื่อหวังจิ่นหานได้ยินเช่นนั้นเขาก็พบว่า ตั้งแต่ต้นจนจบมีแค่ตัวเขาที่ตื่นเต้นอยู่คนเดียว พี่ใหญ่ของเขาไม่ได้พูดอะไรสักคำ ไม่กังวล ไม่ตื่นตระหนก และไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าแต่อย่างใด
หวังจิ่นหานเบือนหน้าหนีด้วยความลำบากใจ ดูหมิ่นตัวเองอยู่ในใจ เมื่อเทียบกับพี่ใหญ่แล้ว เขายังห่างชั้นอยู่มาก และด้วยเรื่องของจิตใจและความสงบ จึงทำให้เขาตามหลังพี่ใหญ่อยู่ห่างไกล
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลหวังและหวังจิ่นหลิงแล้ว หวังจิ่นหานก็เริ่มกังวลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของเฟิ่งชิงเฉิน เขาจึงถามออกมาว่า “พี่ใหญ่ ท่านมีหนทางหรือไม่? จะปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับชิงเฉินไม่ได้เป็นอันขาด”
ไม่อาจยอมรับราชวงศ์หนานหลิง และไม่สามารถปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับเฟิ่งชิงเฉินได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จัดการได้ยากอย่างแท้จริง
“ชิงเฉินบอกไว้ในตอนท้ายของจดหมายไม่ใช่หรือ? เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงชิงเฉิน หากข้ายังเป็นผู้นำตระกูลหวังอยู่ หนานหลิงจิ่นฝานก็ไม่มีทางกล้าทำอะไรกับเฟิ่งชิงเฉิน นอกจากเขาจะไม่ต้องการบัลลังก์แล้ว” ในตอนที่หวังจิ่นหลิงพูดออกมา จิตสังหารแผ่ซ่านไปรอบกายของเขา ทำให้หวังชีตกใจและไม่กล้าเชื่อกับสิ่งที่ตนเองได้เห็น......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...