นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1155

สรุปบท บทที่ 1155 มนุษย์วิหค, หญิงงามสำคัญกว่า: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1155 มนุษย์วิหค, หญิงงามสำคัญกว่า – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บท บทที่ 1155 มนุษย์วิหค, หญิงงามสำคัญกว่า ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ใบหน้าซีดขาว ดวงตาเป็นสีแดง ในฝูงอีกา เห็นได้ชัดว่าเป็นดวงตาที่แสนพิเศษ การปรากฏตัวที่กะทันหันเช่นนี้ มันอาจทำให้คนเป็นโรคหัวใจ หัวใจวายตายได้

หากไม่ใช่เพราะมือไม่ว่าง เฟิ่งชิงเฉินคงทุบหน้าอกของตนเองไปหลายครั้งเพราะความตกใจ

น่าตกใจยิ่งนัก น่าตกใจเหลือเกิน!

ลัทธิปีศาจนี่มันน่ากลัวจริง ๆ การที่ถูกทำลายก็ถือเป็นสิ่งที่สมควร!

“เสด็จอาตงหลิงจิ่ว สมคำร่ำลือจริง ๆ ช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้าถึงขั้นบุกเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของข้า” อ้าปากพูดออกมา วินาทีถัดมาก็เห็นเหล่าอีกาเริ่มเคลื่อนไหว ใบหน้าของผู้เป็นนายปรากฏออกมาต่อหน้าของทุกคน

“มนุษย์วิหค?” โต้วโต้วตกใจ ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเบิกกว้าง

ที่แท้อีกาทั้งฝูงก็บินอยู่รอบกายคนผู้นี้มาตลอดทาง ไม่แปลกเลยว่าเหตุใดฝูงอีกาถึงดูยิ่งใหญ่ หนาแน่นและดำมืดจนน่าตกใจ

มนุษย์วิหคทำให้ดวงตาของโต้วโต้วแทบจะทะลักออกมา เขาสะบัดแขนเสื้อของเขา อีกาที่อยู่รอบ ๆ ก็บินจากไปทันที

น่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก สมแล้วที่เป็นมนุษย์วิหค ทำให้อีกาเชื่อฟังคำสั่ง ดวงตาที่โต้วโต้วจ้องมองไปที่มนุษย์วิหคเปล่งประกาย ใบหน้าของเขาเหมือนกับมีอักษรปรากฏขึ้นมา “เจ้าช่างน่านับถือยิ่งนัก!”

มนุษย์วิหคไม่สนใจโต้วโต้ว เขามองมาที่เสด็จอาเก้า “ข้าคือประมุขของลัทธิศักดิ์สิทธิ์ ฉูซีฮวา”

เฮ้อ......เห็นได้ชัดว่าเป็นมนุษย์วิหค แต่กลับตั้งชื่อที่มีความหมายว่าดอกไม้อาวรณ์ น่าจะตั้งชื่อที่มีความหมายว่านักผู้น่าสงสารถึงจะถูก โต้วโต้วแอบคิดอยู่ในใจ แต่ด้วยรัศมีอันยิ่งใหญ่ของเสด็จอาเก้าและประมุขของลัทธิศักดิ์สิทธิ์ โต้วโต้วฉลาดมาก เขาจึงไม่พูดอะไรออกมา

สายตาของเสด็จอาเก้าและฉูซีฮวาเผชิญหน้ากันอย่างจริงจัง หลังจากนั้นเขาก็กล่าวออกมาด้วยความเยือกเย็น “ตงหลิงจิ่ว”

ส่วนคนอื่น ๆ เสด็จอาเก้าไม่มีทีท่าว่าจะแนะนำให้อีกฝ่ายรู้จัก ฉูซีฮวาเองก็ไม่ได้ใส่ใจ หลังจากแนะนำตัวเองเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็เข้าสู้ขั้นตอนของการทักทาย

“เสด็จอาเก้าเป็นแขกจากแดนไกล ซีฮวาขอโทษด้วยที่เสียมารยาท”

“ประมุขซีฮวาอย่าได้ถือสา ข้าเองก็มาไม่ถูกเวลา”

ท่าทางและคำพูดของทั้งสองดูดีและน่าฟัง แต่มันทำให้ผู้คนรู้สึกหดหู่ยิ่งนัก เสด็จอาเก้ายังดี เขายังคงไม่ถือสาในคำพูดของฉูซีฮวา

แต่ฉูซีฮวานั้นต่างกันออกไป ลัทธิปีศาจเพิ่งจะถูกทำลาย และถูกเสด็จอาเก้าบุกเข้ามาเยาะเย้ยถึงที่ เขาอารมณ์ไม่ค่อยดี สูญเสียอำนาจในการควบคุม ทำให้จิตสังหารแผ่ซ่านออกมารอบ ๆ

ดวงตาของเสด็จอาเก้าหรี่ลง ใบหน้าเหมือนกับหยกที่เปล่งประกายไปด้วยความเย็นชา ฉูซีฮวาผงะ รีบระงับอารมณ์ของตนเองและแสร้งทำเป็นยิ้มออกมา

“ซีฮวาขอโทษที่หยาบคาย ไม่รู้ว่าเสด็จอาเก้ามาที่นี่ด้วยเหตุผลอันใด” ลัทธิปีศาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แม้ว่าคนที่เสด็จอาเก้าพามาด้วยจะมีไม่มาก แต่ฉูซีฮวาก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า

ลัทธิปีศาจไม่สามารถแบกรับการต่อสู้ได้อีกต่อไปแล้ว

“พาคนมาส่ง ท่านประมุขพานายน้อยไปส่งที่ตงหลิงโดยไม่ถามไถ่ ข้าจึงเป็นผู้รับผิดชอบในการพาตัวเขากลับมาส่ง” เสด็จอาเก้าโบกมือ บอกให้สายลับพาตัวของเจ๋อเจ๋อออกมา

ร่องรอยของความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าซีดเซียวของฉูซีฮวา “เจ๋อเจ๋อ?”

พูดตามความจริง เขาสัมผัสไม่ได้ถึงความมีอยู่ของเจ๋อเจ๋อเลยแม้แต่น้อย

“ท่านพ่อ” เจ๋อเจ๋อก้มหน้าลง ทำความเคารพด้วยใบหน้าที่เศร้าโศก

“อื้อ มาหาพ่อเร็ว” ฉูซีฮวาชำเลืองมองไปที่เสด็จอาเก้าด้วยความระมัดระวัง จากนั้นก็กวักมือเรียกเจ๋อเจ๋อ

เสด็จอาเก้าไม่ได้ขัดขวางแต่อย่างใด ปล่อยให้เจ๋อเจ๋อวิ่งไปอยู่ด้านหลังของฉูซีฮวา

ฉูซีฮวาไม่เข้าใจ เสด็จอาเก้ามาที่นี่เพื่อส่งเจ๋อเจ๋อจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?

เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้!

แต่เมื่อเห็นว่าเจ๋อเจ๋อไม่เป็นอะไร ฉูซีฮวาก็ยอมที่จะอ่อนข้อให้กับเสด็จอาเก้า “ขอบคุณเสด็จอาเก้ามากที่พาลูกชายของข้ามาส่งอย่างปลอดภัย บุญคุณครั้งนี้ ลัทธิปีศาจของข้าจะไม่มีวันลืมเป็นอันขาด”

หรือพูดอีกอย่างก็คือ เวลานี้เจ้ารีบไสหัวไปได้แล้ว เห็นแก่ที่เจ้าพาลูกของข้ามาส่ง ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า ไม่ถือโทษเรื่องที่เจ้าสังหารสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของข้า

“ไม่จำเป็น แค่ลัทธิปีศาจเล็ก ๆ ข้าไม่เห็นมันอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ” ทำดีโดยไม่หวังผลตอบแทน เสด็จอาเก้าไม่ใช่คนดีขนาดนั้น

เขาอยากจะรู้ว่าผู้หญิงแบบไหนที่สามารถทำให้เสด็จอาเก้าเชิญปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีและหมอเทวดาชื่อเลี่ยนฉุ่ยมาพร้อมกันได้

และสิ่งที่ฉูซีฮวาได้เห็นก็ทำให้เขารู้สึกผิดหวัง แม้ว่าจะงดงามกว่าผู้หญิงทั่วไป แต่มันยังห่างชั้นจากคำว่าความงามประดับประเทศอยู่มาก แต่สิ่งที่ต่างออกไป......

มันคือความกล้าที่ไม่เกรงกลัวเมื่อเผชิญหน้ากับเขา ช่างเป็นความกล้าที่ยิ่งใหญ่อะไรเช่นนี้

เพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียว ไม่ต้องพูดถึงการระดมผู้คน แค่เรื่องที่เข้ามาอยู่ในสถานที่ซึ่งไม่คุ้นเคย เสด็จอาเก้าผู้นี้ช่างเป็นคนที่ใส่ใจกับความรักยิ่งนัก

แต่ความรู้สึกรักใคร่ก็มีข้อดีอยู่เช่นกัน หากพวกเขาสามารถนำตัวของเฟิ่งชิงเฉินมาได้ ไม่แน่ว่าลัทธิปีศาจของเขาอาจมีอำนาจในการต่อรองกับเสด็จอาเก้ามากขึ้น และกลับขึ้นมาผงาดอีกครั้ง

เมื่อคิดเช่นนี้ ความระมัดระวังที่ฉูซีฮวามีต่อเสด็จอาเก้าก็ลดลงไปอย่างมาก สิ่งที่เพิ่มมาคือความกระตือรือร้น หลังจากพูดจาสุภาพออกมาสองสามประโยค เขาก็พาพวกของเสด็จอาเก้าเข้าไปในป่าลึก

เฟิ่งชิงเฉินเหลือบมองเสด็จอาเก้าอย่างรวดเร็ว เสด็จอาเก้าไม่ได้พูดอะไร แต่ในตอนที่กำลังจะออกเดินทาง เขาดึงเฟิ่งชิงเฉินเข้ามาในอ้อมแขน เดินทางอย่างระมัดระวัง เกรงว่ากิ่งไม้ข้างทางจะขีดข่วนหรือสร้างบาดแผลให้กับเฟิ่งชิงเฉิน

จากการเคลื่อนไหวของเสด็จอาเก้า ดูเหมือนเขาจะให้ความสำคัญกับเฟิ่งชิงเฉินเป็นอย่างมาก สำหรับอันตรายที่เกิดขึ้นรอบตัว ประกอบกับการทดสอบที่ฉูซีฮวาสร้างขึ้นมาในบางครั้ง เขาเพิกเฉยต่อมันโดยสิ้นเชิง ทั้งหมดเป็นเพราะผู้หญิงที่งดงามผู้นี้เพียงผู้เดียว แม้แต่ชีวิตของตนเองก็ไม่สนใจ

จากการทดลองหลายครั้งของฉูซีฮวา ความสุขในหัวใจของเขาเพิ่มมากขึ้น แสงแห่งความเยือกเย็นฉายออกมาในดวงตาอันน่ากลัว เมื่อคิดถึงความสำเร็จของเรื่องนี้ ลัทธิปีศาจสามารถใช้ประโยชน์จากผู้มีอำนาจ เขาก็ไม่สามารถระงับความสุขที่เกิดขึ้นในใจของเขาได้เลย

ฉูซีฮวาลืมตัวและกำมือของเจ๋อเจ๋อแน่น เจ๋อเจ๋อรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ไม่แม้แต่จะส่งเสียง เพียงแค่ก้าวเดินไปด้านหน้าเงียบๆ

สองพ่อลูก พวกเขาต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง คนหนึ่งนึกถึงบุญคุณของเฟิ่งชิงเฉิน แต่อีกคนคิดถึงประโยชน์ที่ได้จากเฟิ่งชิงเฉิน เพื่อทำให้ลัทธิปีศาจกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง

เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม พวกเขามองการเคลื่อนไหวของฉูซีฮวามาโดยตลอด ทุกอย่างล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา

คิดจะใช้ประโยชน์จากพวกเขา เช่นนั้นก็ต้องดูว่าฉูซีฮวามีความสามารถมากแค่ไหน!

มาดูกันว่าใครจะเหนือกว่าใคร!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ