นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1156

แสร้งทำเป็นอ่อนแอและจัดการในคราเดียว!

ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีแอบเหยียดหยามเสด็จอาเก้าอยู่ในใจ เห็นได้ชัดว่าตนเองต้องการเข้าไปในลัทธิปีศาจ แต่กลับใช้เฟิ่งชิงเฉินเป็นข้าอ้าง จากนั้นก็แสร้งทำท่าทีเอาใจใส่ เหมือนชายผู้หลงใหลในสาวงามจนหัวปักหัวปำ ทำให้อีกฝ่ายคลายความระมัดระวังด้วยตัวเอง จากนั้นค่อย......

จัดการอีกฝ่ายอย่างรุนแรงในคราวเดียว

เสด็จอาเก้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก !

ไม่ว่าในใจของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีจะดูถูกวิธีการของเสด็จอาเก้ามากเพียงใด แต่เขาก็ไม่แสดงมันออกมาให้เห็น เขาแค่ทำหน้าที่ของหมอที่ดีคนหนึ่งเท่านั้น

ฉูซีฮวาพาพวกของเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินเดินเข้ามาในป่ากว่าครึ่งวัน ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ทุกคนจึงมาถึงบ้านที่สร้างขึ้นมาด้วยหินแถวหนึ่ง

“เสด็จอาเก้า นี่คือสถานที่ซึ่งลัทธิศักดิ์สิทธิ์ของข้ามีไว้รับแขก ทุนท่านเชิญพักที่นี่ ข้าจะกลับไปสั่งให้คนมาปรนนิบัติเป็นอย่างดี ต้องการสิ่งใดก็แค่บอกพวกเขา ข้าจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่” เมื่อเสียงของเขาเงียบลง ฉูซีฮวาก็ผิวปากครั้งหนึ่ง ฝูงอีกาบินกลับมาอีกครั้ง พาเขาและเจ๋อเจ๋อเดินทางกลับไปพร้อมกัน

เมื่อฝูงอีกาบินขึ้น กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกไม้ในป่าก็ลอยขึ้นบนอากาศ ทำให้ทั่วพื้นที่เต็มไปด้วยกลิ่นของดอกไม้

เฟิ่งชิงเฉินมองไปรอบ ๆ พบว่าในสายตาของนางมองไม่เห็นดอกไม้แม้แต่ดอกเดียว เส้นทางที่เดินมาเมื่อครู่ก็ไม่มีดอกไม้ สีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันที จากนั้นรีบตะโกนออกมาว่า “ทุกคนกลั้นหายใจ”

“มีอะไรงั้นหรือ?” เสด็จอาเก้ารีบกลั้นหายใจ ถามออกมาด้วยสายตา

“ดูเหมือนกว่ากลิ่นดอกไม้พวกนี้จะมีพิษ” อย่าโทษเฟิ่งชิงเฉินที่คิดมากเกินไป เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่เคยได้กลิ่นดอกไม้มาก่อน แต่เมื่อฝูงอีกาบินขึ้นไป กลับทำให้กลิ่นดอกไม้คลุ้งกระจายไปทั่ว มันทำให้เฟิ่งชิงเฉินอดสงสัยไม่ได้ว่าในอากาศจะมีพิษปะปนอยู่

ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เขาสูดดมเข้าไปเล็กน้อย จากนั้นก็หันมาพยักหน้าให้เสด็จอาเก้า

มันเป็นการบ่งบอกว่า การเคลื่อนไหวของฝูงอีกา มันนำมาซึ่งกลิ่นที่ผิดปกติ

“ประมุขฉูเป็นคนขี้ระแวงอย่างที่คิด” รอยยิ้มอันเยือกเย็นปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเสด็จอาเก้า “เข้าไปด้านในก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

ทุกคนรีบพยักหน้า ในตอนนั้น แม้แต่โต้วโต้วเองก็ละทิ้งท่าทีที่ไม่จริงจังของเขาไปจนหมด

เข้ามาในดินแดนของลัทธิปีศาจ พวกเขาต้องก้าวเดินไปด้วยความระมัดระวัง หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ทุกคนจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย

ในบ้านหิน นอกจากเตียงหิน ก็ไร้ซึ่งสิ่งอื่นใด เสด็จอาเก้าบอกให้สายลับอาศัยอยู่ในห้องเดียวกับปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี โต้วโต้วอาศัยอยู่กับอาจารย์ของเขา ส่วนเฟิ่งชิงเฉินก็อาศัยอยู่ในห้องเดียวกันกับเขา

“กลับไปที่ห้องของตัวเองก่อน ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี เจ้าช่วยตรวจอาการให้ทุกคนหน่อย ดูว่ามีพิษอยู่ในร่างกายหรือไม่ จากนั้นก็รีบสร้างยาถอนพิษออกมาให้เร็วที่สุด แม้ว่าทุกคนจะไม่เป็นไร แต่เจ้าก็ต้องมียาถอนพิษเพื่อป้องกันไว้ก่อน” พิษนี้เป็นแค่พิษที่ส่งผลเพียงเล็กน้อย เสด็จอาเก้าไม่เห็นมันอยู่ในสายตา แต่คนอื่นนั้นไม่เหมือนกับเขา

ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีรับปาก จากนั้นกลับไปที่ห้องของเขาด้วยใบหน้าอันเคร่งขรึม

พิษที่อยู่ในอากาศเหล่านี้ หากไม่มีใครในหมู่ของพวกเขาถูกพิษ มันก็อยากที่จะสร้างยาถอนพิษ

หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไป ในห้องเหลือเพียงเสด็จอาเก้ากับเฟิ่งชิงเฉิน ทั้งสองคนสบสายตากันพร้อมกับรอยยิ้มจาง ๆ

เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเหนื่อยล้า นางจึงเข้ามาในอ้อมกอดของเสด็จอาเก้า

เสด็จอาเก้าลูบศีรษะของนางเบา ๆ ปลอบโยนนางอย่างไม่ส่งเสียง

ใกล้แล้ว ใกล้จะสำเร็จแล้ว

ก่อนที่ฟ้าจะมืด ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยียังทำหน้าที่ของเขาไม่เสร็จ คนของลัทธิปีศาจก็ส่งอาหารที่เครื่องนอนมาให้ คนรับใช้พวกนั้นต่างถูกพิษ หลังจากวางสิ่งของลงพวกเขาก็รีบจากไป คำพูดที่ฉูซีฮวาบอกว่ามีอะไรก็บอกมาได้เลย เขาจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ สุดท้ายมันก็เป็นเพียงแค่ประโยคหลอกเด็ก

“ลองตรวจสอบดู” เสด็จอาเก้าเรียกปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีมา หลังจากที่ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีตรวจสอบอย่างละเอียด เขาหันมาพยักหน้าให้เสด็จอาเก้าเพื่อบอกว่าของเหล่านี้ไม่มีพิษ

ทุกคนถึงวางใจและกินมันเข้าไป หลังจากผ่อนคลายกับการกินอาหาร ท้องฟ้าก็มืดลง ส่วนเทียนที่คนของฉูซีฮวานำมาให้ก็เพียงพอสำหรับการกินอาหารมื้อนั้นเท่านั้น

“ขี้เหนียว” โต้วโต้วเห็นความมืดมิดที่อยู่ในห้อง เขาบ่นออกมา แต่ก็ถูกอาจารย์ของเขาแขกหัว “ระวังคำพูดด้วย จะทำอะไรคิดให้เยอะ ๆ รีบนอนได้แล้ว”

“รู้แล้ว ข้ารู้แล้ว ท่านอาจารย์นับวันยิ่งพูดมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้ไม่เห็นท่านจะสนใจข้าเลย” โต้วโต้วพึมพำออกมาด้วยความไม่พอใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ