นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1157

เห็นได้ชัดว่าปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีอยากรู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินใช้เลือดพวกนี้ตรวจสอบว่าทุกคนถูกพิษหรือไม่ได้อย่างไร เขาจึงพูดออกมาด้วยคำพูดที่ดูน่าฟัง มันช่าง......

เฟิ่งชิงเฉินยิ้มออกมา ในตอนที่กำลังจะปฏิเสธ โต้วโต้วก็วิ่งเข้ามาวุ่นวายอีกครั้ง ราวกับสุนัขที่ซุกซน มองมาที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยความสงสาร

“เฟิ่งชิงเฉิน ข้าเองก็อยากช่วย ข้าเองก็จะทำเพื่อทุกคนเหมือนกัน” เรื่องที่น่าสนุกถึงเพียงนี้ เขาจะปล่อยผ่านไปได้อย่างไร

“แค้ก แค้ก ไม่เป็นไร ที่นี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง” ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีปฏิเสธออกมาทันที ไม่รู้ให้โต้วโต้วพูดมากไปกว่านั้น เขาผลักอีกฝ่ายออกไปนอกประตู

“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าวางใจ ข้าจะเป็นคนจัดการพวกที่ชอบมาสร้างปัญหาให้กับเจ้าเอง” พูดจบเขาก็ไม่ลืมมองมาที่โต้วโต้วด้วยสายตาอันดุร้าย เพื่อบอกให้โต้วโต้วเลิกสร้างปัญหา

โอกาสดีเช่นนี้ หากปล่อยให้โต้วโต้วเข้ามาทำลาย เขาคงเสียใจตาย

โต้วโต้วรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก ในตอนที่กำลังคิดว่าจะหาเหตุผลอะไรเพื่อให้ตนเองอยู่ที่นี่ เฟิ่งชิงเฉินก็หันมาพูดกับปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีด้วยความเกรงใจ “ขอบคุณปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีมาก น้ำใจของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี ชิงเฉินได้รับไว้แล้ว เพียงแต่เสด็จอาเก้าบอกว่าเขาอยากช่วยข้า และข้าก็ได้รับปากเขาไปแล้ว”

เฟิ่งชิงเฉินทำหน้าลำบากใจมองมาที่เสด็จอาเก้า จากนั้นก็มองมาที่เฟิ่งชิงเฉิน นั่นหมายความว่า หากเจ้าต้องการอยู่ช่วยข้า เช่นนั้นก็ไปคุยกับเสด็จอาเก้า นางไม่อาจตัดสินใจเรื่องนี้ได้

เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร

ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีเสียใจเป็นอย่างมาก

เสด็จอาเก้าไม่เข้าใจเกี่ยวกับวิชาแพทย์ เหตุใดถึงเข้ามาสร้างปัญหา

แต่คำพูดนี้ เขาจะกล้าพูดออกไปได้อย่างไร เขาจะเอาความกล้าที่ไหนมาแย่งหน้าที่นี้ไปจากเสด็จอาเก้า

ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีอ้อนวอนเฟิ่งชิงเฉินด้วยสีหน้า ต้องการให้เฟิ่งชิงเฉินช่วยพูดกับเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินเบือนหน้าหนีอย่างเย็นชา แสดงท่าทีว่าจะไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย ทำให้ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีโกรธเป็นอย่างมาก

“ฮึ ข้าไม่ช่วยเจ้าก็ได้” ไม่มีใครขอให้อยู่ต่อ ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีเริ่มงอแง เดินออกไปกระแทกประตูด้วยความโกรธ แต่ในใจก็ยังรู้สึกเสียดายไม่น้อย

ฮือ ฮือ ฮือ......ถ้ารู้เช่นนี้ขอร้องอีกหน่อยก็ดี เมื่อพลาดโอกาสครั้งนี้ไป รอถึงครั้งหน้าก็ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่

ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีคิดจะหันหลังกลับไป แต่เมื่อเห็นมาเห็นสายลับที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู ท่าทางของพวกเขาราวกับกำลังห้ามไม่ให้ผู้ใดเขาไปรบกวน

นี่คิดจะต่อต้านข้าอย่างนั้นหรือ?

ความโกรธที่จะเพิ่งสงบลงของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีมันพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็เดินจากไปด้วยความโมโห

ไม่ให้ช่วยก็ไม่ช่วย เจ้าคิดว่าข้าว่างมากหรือไง ข้ายังต้องกลับไปทำยาแก้พิษดอกไม้ให้พวกเจ้าอีก

ฮึฮึฮึ......ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีพ่นลมหายใจออกมา เดินกลับไปอย่างรวดเร็ว เขากลับมาถึงห้องของตนเอง กัดฟันหาวิธีการสร้างยาถอนพิษของดอกไม้ ขณะเดียวกันก็หาวิธีการว่าจะระบายความคับแค้นใจครั้งนี้อย่างไร

เขาไม่กล้าสร้างปัญหาให้กับเสด็จอาเก้า แต่มันไม่ได้แปลว่าเขาไม่กล้าสร้างปัญหาให้กับลัทธิปีศาจ

ลัทธิปีศาจ เจ้ารอข้าก่อน หากข้าไม่ทำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยพิษ เช่นนั้นก็อย่ามาเรียกข้าว่าปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี!

ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยียอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี โต้วโต้วจะเอาหน้าที่ไหนไปสู้ เขาทำได้เพียงหันกลับและเดินกลับไปยังไม่เต็มใจ

ในห้องหินที่เรียงกัน มีเพียงห้องของเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินเท่านั้นที่ส่องแสงสว่าง หลังจากที่ทุกคนจากไป เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินก็นั่งลงในห้อง ไม่มีใครเอ่ยปากออกมาทั้งนั้น

แสงสว่างในห้องนั้นมีปริมาณมากพอ ทำให้เสด็จอาเก้าเห็นใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินอย่างชัดเจน เห็นทุกอย่างบนใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน แต่ไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

รออยู่พักใหญ่ ในตอนที่เสด็จอาเก้าคิดว่าเฟิ่งชิงเฉินจะเงียบต่อไป สุดท้ายเฟิ่งชิงเฉินก็เอ่ยปากออกมา

“อย่างไรเจ้าก็รู้ความลับของข้าอยู่แล้ว สิ่งที่เจ้าจะได้เห็นถือว่าเป็นการพิสูจน์ด้วยตาของเจ้าเอง ข้าหวังว่าไม่ว่าเจ้าจะเห็นสิ่งใด เจ้าจะไม่ถามอะไรข้า เนื่องจากตัวข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันกับเจ้า”

เพื่อหลีกเลี่ยงการคาดเดาต่าง ๆ นานาของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินจึงเอ่ยปากออกมาเพื่อปิดกั้นคำถามก่อน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ