บทที่ 1158 กระเพื่อม, รอยยิ้มอันอ่อนหวานของชายผู้เยือกเย็น – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1158 กระเพื่อม, รอยยิ้มอันอ่อนหวานของชายผู้เยือกเย็น จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หลังจากผ่านความตกใจครั้งใหญ่ เวลานี้เขาก็ตกอยู่ในอาการงุนงง
เสด็จอาเก้ามองมาที่เฟิ่งชิงเฉินซึ่งกำลังนำสิ่งของต่าง ๆ ออกมาเต็มห้อง ทำให้เขานิ่งสงบอย่างรวดเร็ว
การทำความคุ้นเคยเป็นสิ่งที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก ไม่ว่ามันจะน่าอัศจรรย์แค่ไหน ขอแค่คุ้นชินกับมันก็เพียงพอ เสด็จอาเก้าทำได้เพียงบอกตัวเองแบบนั้น
แต่ไม่ว่าในใจของเสด็จอาเก้าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร การแสดงออกของเขายังคงเยือกเย็นไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีความตกใจหรืออยากรู้อยากเห็นแต่อย่างใด ทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกนับถือเป็นอย่างมาก
เสด็จอาเก้าช่างเป็นเหมือนภูผาที่สูงชัน ไม่ว่าฟ้าจะถล่มหรือดินทลายก็ไม่เปลี่ยนแปลง ความเยือกเย็นและความนิ่งสงบของเขานั้นเกินที่คนธรรมดาจะหยั่งถึง นอกจากคำว่านับถือก็ไม่มีคำอื่นจะยกย่อง แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่อาจไปถึงขั้นของเสด็จอาเก้าได้
“เอาล่ะ” อุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม นำแต่ละอย่างออกมา ใบหน้าเล็ก ๆ ของเฟิ่งชิงเฉินจับจ้องมาที่เสด็จอาเก้า ดวงตาสีดำของนางยิ้มให้เสด็จอาเก้าอย่างมีเลศนัย
นางยอมรับว่านางตั้งใจ แต่......
ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ทำให้เสด็จอาเก้าตกใจแต่อย่างใด
ช่างน่าเบื่อยิ่งนัก
ฮู้ว......เสด็จอาเก้าแอบถอนหายใจเบา ๆ เขามองมาที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยใบหน้าแห่งความสับสน “ชิงเฉิน เจ้าช่างเป็นคนที่โชคดียิ่งนัก”
ของเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถครอบครองได้ แต่เฟิ่งชิงเฉินมีมันไว้ในครอบครอง มันถือเป็นโชคดีของนาง
“เรื่องนั้นมันก็ใช่ ข้าเป็นคนที่โชคดีที่สุดในใต้หล้า” หากไม่ใช่เพราะสิ่งนี้ นางจะอธิบายพลังชีวิตอันยิ่งใหญ่ของนางที่ผ่านมาได้อย่างไร
ผิดแล้ว ข้าต่างหากที่เป็นคนที่โชคดีที่สุดในใต้หล้า เนื่องจากข้าได้พบกับเจ้า และได้ครอบครองเจ้า
คำพูดประโยคนี้มาอยู่ตรงปลายลิ้นของเขา แต่เสด็จอาเก้าก็ไม่ได้พูดมันออกไป เขาเปลี่ยนประโยคและพูดออกมาว่า “ชิงเฉิน กระเป๋าเครื่องมือแพทย์ของเจ้า ห้ามให้ผู้ใดรับรู้เป็นอันขาด”
ของสิ่งนี้ หากมีใครรู้ถึงพลังและความสามารถของมัน พวกเขาจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมา หากไม่อาจแย่งชิงมาได้ เช่นนั้นพวกเขาก็จะทำลายมัน
หากคนที่ครอบครองกระเป๋าเครื่องมือแพทย์ไม่ใช่เฟิ่งชิงเฉิน แม้แต่เสด็จอาเก้าเองก็คงจะลงมือ สังหารอีกฝ่าย เพื่อป้องกันไม่ให้คนเช่นนี้กลายเป็นศัตรูของตนเอง
“เจ้าวางใจ ปกติข้าระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก” เพื่อปกป้องความลับเรื่องกระเป๋าเครื่องมือแพทย์ เฟิ่งชิงเฉินจึงศึกษาวิชาแพทย์ต่าง ๆ มากมายเพื่อให้ลดความจำเป็นที่จะใช้กระเป๋าเครื่องมือแพทย์ให้น้อยที่สุด
“ระวัง? ไม่ แค่ระวังอย่างเดียวไม่พอ” หากมีคนต้องการที่จะรู้ความลับ สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ตัวอย่างเช่นเขา ตัวอย่างเช่นหวังจิ่นหลัง แต่แค่พวกเขาไม่เคยพูดมันออกมา
“ช่างเถอะ เจ้าเองก็ไม่ต้องคิดมาก เรื่องพวกนี้ข้าจะเป็นคนจัดการเอง เจ้าเพียงจำไว้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าจะต้องปกป้องดูแลตัวเองให้ดี ขอแค่มีชีวิตอยู่ต่อไป ทุกอย่างก็มีความเป็นไปได้”
สิ่งที่เสด็จอาเก้าต้องการจะบอกกับเฟิ่งชิงเฉินก็คือ หากวันใดวันหนึ่งมีคนต้องการมาแย่งกระเป๋าเครื่องมือแพทย์ของนาง ต่อให้เป็นเขา แม้ว่ากระเป๋าเครื่องมือแพทย์จะดีแค่ไหน แต่สิ่งนี้ก็ไม่อาจมีคุณค่ามากไปกว่าการมีชีวิตอยู่ได้ ดังนั้นอย่าเอาชีวิตของตนเองไปแลกกับของสิ่งนี้เป็นอันขาด!
ขอแค่มีชีวิตอยู่ พวกเขาก็มีโอกาสที่จะกลับตัว
มีชีวิตอยู่ ทุกอย่างสามารถเป็นไปได้
เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้า บ่งบอกว่าตนเองเข้าใจสิ่งเหล่านั้นแล้ว
แม้ว่ากระเป๋าเครื่องมือแพทย์จะสำคัญเพียงใด แต่มันก็ไม่สำคัญมากไปกว่าชีวิต เรื่องนี้เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจมันเป็นอย่างดี
เฟิ่งชิงเฉินชี้ไปที่เสื้อผ้าที่อยู่บนเตียงหิน “เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว พวกเรามาเริ่มกันเถอะ”
เสด็จอาเก้ารู้และยอมรับการมีอยู่ของกระเป๋าเครื่องมือแพทย์เป็นที่เรียบร้อย ความลับอันยิ่งใหญ่ของนางถูกเปิดเผยต่อหน้าเสด็จอาเก้าเป็นอันเรียบร้อย นางไม่มีอะไรที่จำเป็นต้องสนใจ และไม่มีอะไรที่จำเป็นต้องปิดบัง
“เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน จากนั้นก็สวมถุงมือให้เรียบร้อย” มือของเฟิ่งชิงเฉินไม่สะดวก ทำได้เพียงขอให้เสด็จอาเก้าช่วยทำในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้
โชคดีที่เสด็จอาเก้าไม่ใช่ท่านอ๋องที่ทำอะไรไม่เป็น ตัวอย่างเช่นช่วงเวลาที่ผ่านมา เสด็จอาเก้าดูแลเฟิ่งชิงเฉินมาโดยตลอด นอกจากเรื่องทำความสะอาด ดูเหมือนว่าที่เหลือเสด็จอาเก้าก็สามารถจัดการได้ทุกเรื่อง
ไม่นานเสด็จอาเก้าก็สวมชุดและอุปกรณ์ทุกอย่างเรียบร้อย เดินมายืนอยู่ด้านหน้าเฟิ่งชิงเฉิน แต่ไม่ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะมองอย่างไร มันก็ดูไม่ดีเลยสักนิด
ในเครื่องแบบสีขาวเหมือนกัน เมื่อนางสวมมันแล้วก็เหมือนกับผู้ชำนาญการ ผู้เข้มงวด แต่เมื่อซุนซือสิงสวมมัน เขาก็เหมือนเทพศักดิ์สิทธิ์ผู้น่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะแบบไหนก็เป็นเหมือนคนที่น่านับถือ เป็นเหมือนกับหมอมืออาชีพ แต่เมื่อเสด็จอาเก้าสวมมัน......
เขาทำให้ชุดหมอที่เขาสวมอยู่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น มันให้กลิ่นอายของนักฆ่า
เอิ่ม......
เฟิ่งชิงเฉินหลงใหลในความเคร่งขรึม จริงจัง มั่นคง และความเป็นผู้ใหญ่ของผู้ชาย ในตอนนี้ นางเห็นเสด็จอาเก้าในชุดสีขาว ยืนอยู่หน้าเตียงด้วยท่าทางที่จริงจัง จับจ้องอุปกรณ์ทุกอย่างโดยไม่กะพริบตา เฟิ่งชิงเฉินอยากจะแปลงร่างเป็นอุปกรณ์เครื่องมือที่อยู่บนเตียง เพื่อให้เสด็จอาเก้าจับจ้องเพียงแค่นางเท่านั้น
เสด็จอาเก้าชอบจ้องมองท่าทางที่จริงจังของเฟิ่งชิงเฉิน ชอบตอนที่นางให้ความสำคัญในการช่วยชีวิตของผู้คน เช่นเดียวกัน เฟิ่งชิงเฉินก็ชอบสายตาที่จดจ่อและมุ่งมั่นของเสด็จอาเก้า มันเป็นสิ่งที่นางไม่อาจต้านทานได้
และดวงตาที่จดจ่อของเสด็จอาเก้า มันทำให้นางคุ้มค่าที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
บางที่สายตาของเฟิ่งชิงเฉินอาจจะเร่าร้อนเกินไป ทำให้เสด็จอาเก้าอดไม่ได้ที่จะหยุดมือและหันกลับมาถาม “มีอะไรงั้นหรือ?”
ปากสวมหน้ากาก น้ำเสียงที่เย็นชาซึ่งเหมือนกับเครื่องจักรที่ไร้อารมณ์ทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกตกใจ เฟิ่งชิงเฉินรีบเรียกสติของตนเองกลับมาทันที แสร้งทำเป็นยิ้มและกล่าวว่า “ไม่ ไม่มีอะไร เจ้าทำหน้าที่ของเจ้าต่อไปเถอะ”
ฮือฮือฮือ......ความดึงดูดของเพศชายนี่น่ากลัวยิ่งนัก เหตุใดเมื่อนางมองมาที่เสด็จอาเก้า นางจึงเสียสติในการรับรู้
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ตั้งแต่เสด็จอาเก้าอยู่ร่วมกันกับนาง วัน ๆ นางก็เอาแต่มองมาที่เสด็จอาเก้า หลัง ๆ มานางก็เริ่มไม่มอง เนื่องจากทุกครั้งที่มองนางก็ไม่อาจหักห้ามใจและควบคุมตัวเองได้
ตอนแรกก็คิดว่าตนเองรอดพ้นจากใบหน้าอันหล่อเหล่าของเสด็จอาเก้าแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะต้องมาเผชิญหน้ากับมันอีกครั้ง
ช่างน่าอายยิ่งนัก
ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินกลายเป็นสีแดง
“อื้อ” ดวงตาของเสด็จอาเก้าสั่นไหวเล็กน้อย กล่าวออกมาอย่างไร้ท่าที จากนั้นก็ทำงานของเขาต่อไป ไม่ได้รับผลกระทบจากการเข้ามาแทรกเลยแม้แต่น้อย
สวมหน้ากาก มองไม่ออกว่าเสด็จอาเก้าแอบยิ้มหรือไม่ เห็นเพียงแค่แววตาที่ดูเหมือนยิ้มของเสด็จอาเก้า
รอยยิ้มอันตื้นเขินทำให้ใบหน้าเย็นชาอ่อนลง อุปกรณ์ที่ไร้ซึ่งความอบอุ่นซึ่งวางอยู่ด้านหน้าดูเหมือนจะไม่แข็งทื่ออีกต่อไป
หากเฟิ่งชิงเฉินได้เห็นนางจะต้องกระเพื่อมอีกครั้งเป็นแน่
รอยยิ้มอันอ่อนหวานของผู้ชายที่แข็งทื่อ มันมีพลังมากพอที่จะสังหารผู้คนได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...