ตอน บทที่ 1159 พักผ่อน, รอให้สองพ่อลูกตระกูลฉูมาติดเบ็ด จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1159 พักผ่อน, รอให้สองพ่อลูกตระกูลฉูมาติดเบ็ด คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังตกหลุมรักความสง่างามของเสด็จอาเก้า เสด็จอาเก้าก็ได้ตรวจสอบทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงเฟิ่งชิงเฉินด้วย
“ผลการตรวจสอบอยู่ที่นี่” เสด็จอาเก้าวางรายงานการตรวจสอบไว้บนโต๊ะ ยื่นมันมาด้านหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เฟิ่งชิงเฉินถอนภวังค์ในใจของนาง รับรายงานจากมือของเสด็จอาเก้าและอ่านเพื่อตรวจสอบ
ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีไม่มีปัญหา อาจารย์ของโต้วโต้วเองก็ไม่มี
“ผลการตรวจเลือดของโต้วโต้วไม่ปกติ”
“ในหมู่ของสายลับ มีสองคนที่เป็นอันตราย สถานการณ์ของพวกเขาเหมือนกับโต้วโต้ว ไปบอกให้พวกเขามาที่นี่ ข้าต้องการตรวจสอบอีกรอบ” เฟิ่งชิงเฉินยื่นกระดาษสองใบให้กับเสด็จอาเก้า
“ไม่มีปัญหา”
“แล้วของเจ้า? เหตุใดในนี้ถึงไม่มีผลการตรวจของเจ้า?” เฟิ่งชิงเฉินตรวจสอบดูอีกครั้ง พบว่าตนเองไม่ได้ตกหล่นแต่อย่างใด จึงถามออกมาด้วยความไม่เข้าใจ
“ไม่จำเป็น พิษไม่อาจทำอะไรข้าได้” เสด็จอาเก้าถอดถุงมือและหน้ากากของเขา
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเพียงการเคลื่อนไหวธรรมดา แต่เสด็จอาเก้ากลับทำให้คนไม่อาจละสายตาได้
นี่คือพลังแห่งมนต์เสน่ห์อย่างนั้นหรือ?
เฟิ่งชิงเฉินกลืนน้ำลาย พยายามแสร้งทำท่าทางจริงจังออกมา นางกล่าวออกมาด้วยใบหน้าอันเคร่งขรึม “การตัดสินของเจ้าไม่มีหลักฐานถือข้อมูลแต่อย่างใด ที่นี่คือลัทธิปีศาจ การระวังตัวเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ในฐานะที่ข้าเป็นหมอคนหนึ่ง ข้าต้องการดูผลตรวจของเจ้าด้วย”
“ไม่จำเป็น แค่พิษเล็กน้อยเท่านั้น มันไม่อาจทำอะไรข้าได้” ในระหว่างที่พูดออกมา เสด็จอาเก้าถอดชุดหมอสีขาว ทำให้เห็นชุดสีดำที่อยู่ด้านในของเขา
ชั่วพริบตา เสด็จอาเก้าเปลี่ยนจากหมอกลายเป็นท่านอ๋องผู้ยิ่งใหญ่แห่งตงหลิง เมื่อรวมกับหลอดทดลองที่เรียงอยู่ด้านหลังของเขา และสถานที่ในห้องหินเล็ก ๆ มันเป็นบรรยากาศที่ทำให้ผู้คนรู้สึกแปลกไป
จิตใจของเฟิ่งชิงเฉินวูบวาบ นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งที่สองที่เสียสติไประหว่างการทำงาน
เฟิ่งชิงเฉินกัดริมฝีปากของตนเองเบา ๆ เพื่อบังคับไม่ให้ตนเองเสียการควบคุมอีกเป็นครั้งที่สาม
สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เฟิ่งชิงเฉินกล่าวแนะนำออกมา “ข้ารู้ว่าร่างกายของเจ้านั้นต่างจากคนทั่วไป แต่เวลานี้สถานการณ์มันพิเศษมาก ข้าขอร้องเจ้า ให้ข้าตรวจร่างกายเจ้าเถิด อย่างน้อยข้าก็จะได้สบายใจ” แม้ว่าจะกล่าวออกมาเช่นนั้น แต่ต้องรบกวนเจ้าด้วยที่ต้องให้เจ้าเป็นคนตรวจด้วยตัวเอง
“ไม่จำเป็น หนอนศพพวกนี้ไม่มีทางเข้ามาอยู่ในร่างกายของข้าได้” เสด็จอาเก้าปฏิเสธอย่างเยือกเย็น น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นเป็นอย่างมาก หากไม่ใช่เพราะความเป็นห่วง เสด็จอาเก้าจะตรวจหรือไม่ตรวจ นางก็คงไม่มาทนคำบ่นของเสด็จอาเก้าอยู่เช่นนี้
แต่ทั้งหมดเป็นเพราะเฟิ่งชิงเฉินนั้นเป็นห่วงเสด็จอาเก้าเป็นอย่างมาก เกรงว่าเสด็จอาเก้าจะเป็นอะไรไป จึงแนะนำออกมาไม่ยอมหยุด จนกระทั่งเสด็จอาเก้าจ้องมองนางด้วยสายตาอันเยือกเย็น เฟิ่งชิงเฉินถึงได้หยุดโวยวายและเลิกแนะนำเสด็จอาเก้า
เสด็จอาเก้าผงะอยู่ที่เดิม จากนั้นถามออกมาด้วยเสียงต่ำ “ข้าพูดอะไรผิด?”
“เจ้าไม่ได้ผิด แต่สำหรับข้าแล้วมันไม่จำเป็น ในร่างกายของข้าเคยมีหนอนศพหลายสิบชนิดอยู่ หากหนอนศพพวกนี้สามารถกัดกินร่างกายของข้าได้ เช่นนั้นข้าก็คงตายไปตั้งนานแล้ว” ความเย็นชาแผ่ซ่านออกมารอบร่างกายของเสด็จอาเก้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมืดมน ซึ่งทำให้ผู้คนสั่นสะท้านด้วยความกลัว
เขาไม่อยากพูด ทุกครั้งที่เขาพูดถึงเรื่องในอดีต ร่างกายของเขาจะเต็มไปด้วยรัศมีอันเยือกเย็น อยากจะชำระล้างความคิดทั้งหมดและพิษเหล่านั้นให้หายไปจนสิ้นซาก
แต่มันเป็นไปไม่ได้ พิษเหล่านั้นมันเข้าไปในกระดูกของเขาตั้งนานแล้ว และมันไม่อาจลบล้างออกไปได้
“ข้า......ข้าขอโทษ ข้า ข้าไม่รู้” เฟิ่งชิงเฉินยอมถอย ส่ายหน้าขอโทษอย่างต่อเนื่องเพราะความไม่ตั้งใจ
เสด็จอาเก้าในสภาพนี้ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก อารมณ์ของเขาถูกเผยออกมา และไม่อาจเก็บซ่อนความโกรธเอาไว้ได้
“ฮู้ว......”
เสด็จอาเก้าหลับตาลง จากนั้นถอนหายใจออก
“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า เป็นข้าเองที่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้ไม่ได้” ในตอนนี้ท่าทีของเสด็จอาเก้ากลับมาสงบเหมือนที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่สูญเสียการควบคุมเมื่อครู่ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่กล้าพูดมันออกมาอีก นางรู้ หากนางไม่ระวังมันอาจจะไปกระทบความทรงจำอันเลวร้ายของเสด็จอาเก้า
ทันทีที่ชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้ปรากฏตัว เขาก็ได้รับแรงกดดันทันที มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้เขาคิดว่าเขาไม่จำเป็นอีกต่อไป
“ทุกคนต่างมีความเชี่ยวชาญเป็นของตัวเอง ข้าก็แค่เชี่ยวชาญทางด้านการใช้พิษเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีผู้เชี่ยวชาญในทุกด้าน ข้ามันเป็นแค่คนธรรมดา ภายภาคหน้ายังต้องรับคำชี้นำจากปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี” คำพูดที่กัวเป่าจี้พูดออกมา มันเป็นคำพูดที่ยกย่องปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี และทำให้ชื่อเสียงของตนเองลดลง
“ฮ่าฮ่าฮ่า......” ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีหัวเราะอย่างมีความสุข “ศิษย์น้องกัวถ่อมตนเกินไปแล้ว วิชาพิษของเจ้าถือว่าเป็นหนึ่งในใต้หล้า ใช้โอกาสที่ได้พบกันในครั้งนี้ ข้าเองก็อยากจะเรียนรู้กับเจ้าอย่างสุดความสามารถ ศิษย์น้องกัว เจ้าก็อย่าได้ปิดบังข้าเลย”
เมื่อเทียบกับชื่อเลี่ยนฉุ่ย กัวเป่าจี้ซึ่งมีใบหน้าที่ภักดีมีแนวโน้มที่จะได้รับความโปรดปรานจากปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีมากกว่า
แค่คำพูดไม่กี่ประโยค ทั้งสองก็เรียกตัวเองว่าเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้อง จากนั้นปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีก็พาตัวของกัวเป่าจี้ไปทันที
“ในที่สุดก็ไปเสียที หากเขาอยู่ที่นี่ ข้าก็คงไม่กล้าฝังเข็ม” ชื่อเลี่ยนฉุ่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ทันทีที่ชื่อเลี่ยนฉุ่ยเข้ามา ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีก็จ้องมองเขาด้วยความไม่สบอารมณ์ ซึ่งทำให้ชื่อเลี่ยนฉุ่ยอึดอัดไปทั้งตัว
เขายอมรับว่าการที่เขาแย่งผู้ป่วยจากปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีนั้นเป็นเรื่องที่ผิด แต่ผู้ป่วยที่ว่าเขาก็ไม่ได้อยากจะแย่งมา และเขาก็ไม่เคยคิดที่จะแย่งเลยแม้แต่น้อย มันเป็นเพียงรับความลำบากจากเฟิ่งชิงเฉิน เขาไม่อยากเข้ามาในสถานที่ฝังศพเช่นนี้เพื่อทำการรักษาให้เฟิ่งชิงเฉินเลยแม้แต่น้อย
กัวเป่าจี้บอกว่า ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิปีศาจอะไรกัน เหตุใดทุกพื้นที่จึงเต็มไปด้วยกลิ่นของซากศพคนตาย แค่ขุดหนอนออกมาสองสามตัวก็พบว่าหนอนเหล่านี้มันเติบโตมาด้วยซากศพของคนตายเหล่านั้น
สถานที่ซึ่งน่ารังเกียจเช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะมือของเฟิ่งชิงเฉินได้รับบาดเจ็บและต้องการความช่วยเหลือจากเขา ให้ตายเขาก็ไม่เข้ามา!
ชื่อเลี่ยนฉุ่ยบ่นกับเสด็จอาเก้าเป็นการส่วนตัว ถามว่าสามารถพาตัวของเฟิ่งชิงเฉินออกไปทำการรักษาด้านนอกได้หรือไม่
สถานที่เช่นนี้ อยู่เพียงแค่หนึ่งวันก็ทำให้เขารู้สึกสะอิดสะเอียนไปทั่วทั้งตัว ไม่รู้ว่าเสด็จอาเก้าที่ชอบในเรื่องของความสะอาด เหตุใดถึงอยู่ที่นี่ได้เป็นเวลาตั้งห้าวัน
สุดท้าย คำตอบที่เขาได้จากเสด็จอาเก้าเป็นสายตาอันเยือกเย็น ประกอบกับคำพูดอีกหนึ่งประโยค “ในเมื่อเลือกที่จะเข้ามาแล้ว ก็อยู่ที่นี่ต่อไป แม้แต่ข้ายังอยู่ได้ แล้วเจ้าจะกลัวอะไร”
ก็ได้ ในเมื่อไม่สามารถเปลี่ยนสถานที่ในการรักษาได้ เช่นนั้นเขาก็ทำได้เพียงหาวิธีการที่ดีที่สุด ใช้ความเร็วที่รวดเร็วที่สุดในการรักษามือทั้งสองข้างของเฟิ่งชิงเฉิน จากนั้นค่อยเดินทางออกจากที่นี่ไปก่อน......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...