เฟิ่งชิงเฉินเหนื่อยมากและไม่มีอารมณ์ที่จะเล่นกับสาวน้อยคนนี้ หลังจากผลักซีหลิงเทียนเหล่ยออกไปแล้ว นางเพิกเฉยต่อแววตาที่เย็นชาของซีหลิงเทียนเหล่ย และยื่นยาในมือให้ซีฟู่เหยาหวา "เขาไม่เป็นกระไรแล้ว กล่องสีขาวนี้กินวันละสามครั้ง ครั้งละสองเม็ด อีกหนึ่งแบบกินวันละครั้ง ทีละหนึ่งเม็ด เอาล่ะ เจ้าพาเขากลับได้แล้ว"
เฟิ่งชิงเฉินไม่คิดที่จะให้ซีหลิงเทียนเหล่ยอยู่ต่อเลย
"เฟิ่งชิงเฉิน พี่ใหญ่ของข้าเป็นกระไรไป?" ซีหลิงเหยาหวาแสดงสีหน้ามืดมนราวกับมือสังหารหญิงออกมา
"เขาหมดสติเพราะเจ็บปวดมากเสียจนเกินไป อีกไม่นานก็ฟื้น ทางที่ดีควรหาชายร่างใหญ่สองคนแบกเขากลับไป อย่าให้บาดแผลของเขาฉีกขาด" เฟิ่งชิงเฉินหาว และท่าทีของนางดูง่วงอย่างมาก
"เป็นไปมิได้ พี่ใหญ่ของข้าจะไม่มีวันเจ็บเสียจนหมดสติอย่างแน่นอน" ซีหลิงเหยาหวาไม่เชื่อ หากมิใช่เพราะซีหลิงเทียนเหล่ยเคยเตือนนางว่า อย่าได้ลงมือกับเฟิ่งชิงเฉินอีก ป่านนี้นางคงลงมือสังหารนางไปแล้ว
"เหตุใดจึงเป็นไปมิได้เล่า? เจ้าดูเองสิว่าเขายังมีลมหายใจอยู่หรือไม่? เอาล่ะ อย่ากล่าวคำไร้สาระเช่นนั้นเยอะเลย พาเขาออกไปได้แล้ว อีกสองชั่วโมงเขาก็คงฟื้นขึ้นมา" เฟิ่งชิงเฉินกล่าวอย่างหมดความอดทน
แม้ว่าซีหลิงเหยาหวาจะโกรธ แต่ได้เพียงกัดฟันอดทนเอาไว้ นางหยิบใบไม้ออกมาแล้วเป่า ชายร่างใหญ่สองคนปรากฏตัวในความมืด หลังจากทั้งสองคำนับซีหลิงเหยาหวา แล้วแบกซีหลิงเทียนเหล่ยกลับไป
ก่อนที่ซีหลิงเหยาหวาจะเดินจากไป นางกล่าวเอาไว้ว่า " เฟิ่งชิงเฉิน อีกไม่นาน เราจะได้เจอกันอีก หากเจอกันอีก ข้าจะทำให้เจ้าคุกเข่าอยู่ที่เท้าข้า"
"จริงหรือ?" เฟิ่งชิงเฉินตอบรับโดยไม่แยแส
หลังจากที่พวกเขาจากไป เฟิ่งชิงเฉินล็อกประตูห้องผ่าตัด อาบน้ำเย็น นางหนาวจนตัวสั่น จากนั้นนางก็เข้านอนไป
เมื่อเฟิ่งชิงเฉินกำลังหลับสนิท หมอหลวงของพระราชวังตงหลิงตื่นอยู่ทั้งคืน ลูกธนูที่ยิงเข้าต้นขาของตงหลิงจื่อลั่วนั้น ปักเข้าที่หลอดเลือดแดงพอดี
เมื่อต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บนี้ หมอหลวงทำอะไรไม่ถูก และหากดึงลูกธนูออก เหล่าหมอหลวงไม่แน่ใจว่าสามารถห้ามเลือดได้หรือไม่ และโอกาสที่ตงหลิงจื่อลั่วจะเสียชีวิตนั้นมี 60%
เว้นแต่จะเจาะที่ต้นขาให้เนื้อตาย ทำเช่นนี้ตงหลิงจื่อลั่วไม่เสียชีวิต แต่จะพิการ
แต่หากไม่ดึงออกมา ตงหลิงจื่อลั่วจะไม่มีโอกาสดีขึ้น ยิ่งรอนานเพียงใด ก็ยิ่งอันตรายเท่านั้น
"ขยะ พวกไร้ประโยชน์ ข้าจะเก็บพวกเจ้าไว้ทำกระไรกัน?" ฮองเฮาโกรธเคืองอย่างมาก นางหยิบแก้วน้ำชาขึ้นมาแล้วโยนเข้าหาหมอหลวงหลิน
เลือดไหลออกจากหน้าผากของหมอหลวงหลิน และเขากราบขออภัยนับครั้งไม่ถ้วน " ฮองเฮาเหนียงเหนียงโปรดอภัยให้ข้าด้วยขอรับ โปรดอภัยให้ข้าขอรับ"
มีแอ่งน้ำค้างอยู่บนพื้นหินอ่อนสีขาว เป็นสีแดงสดประกายแยงตาอย่างมาก
"ยกโทษงั้นหรือ? หากเจ้าไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของลั่วอ๋องได้ ข้าเก็บเจ้าไว้จะมีประโยชน์กระไร ลากมันออกไปและสังหารมันเสีย" ปั่นปักผมสีทองบนศีรษะของฮองเฮาสั่นอย่างแรง แววตาของนางจมลึกลง สีหน้าเหนื่อยล้าอย่างมาก
ตงหลิงจื่อลั่วเป็นความหวังของนาง และเขาจะต้องไม่เป็นกระไร และห้ามพิการเด็ดขาด
"หมอหลวงจาง หากรักษาลั่วอ๋องให้หายได้ ข้ามีรางวัล" ฮองเฮาเหนียงเหนียงชี้ไปที่หมอหลวงชราคนหนึ่ง
หากรักษาไม่หาย...มิต้องสงสัย จุดจบก็เหมือนกับหมอหลวงหลิน
"ขอรับ ฮองเฮาเหนียงเหนียง" หมอหลวงจางกล่าวอย่างอ่อนแรง
ข้างเตียงตงหลิงจื่อลั่วมีคนล้อมรอบ แค่หมอหลวงก็มีประมาณห้าถึงหกคน พวกเขาคิดทุกวิถีทางแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถห้ามเลือดได้ เลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง สีหน้าของตงหลิงจื่อลั่วขาวซีดยิ่งกว่ากระดาษ........
ฮองเฮากังวลอย่างมาก จนเล็บแทบหัก
บรรยากาศในห้องโถงตึงเครียดมาก แต่ตงหลิงจิ่วซึ่งนั่งอยู่ข้างนอกไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ท่าทีของเขาสงบและเฉยชาอย่างมาก
องค์รัชทายาทก็อยู่กับเขาตลอดเวลา สีหน้าของเขากังวลอย่างมาก แต่อันที่จริงเขาไม่เป็นห่วงเลยแม้แต่น้อย ตงหลิงจื่อลั่วจะตายหรือพิการ ต่างก็เป็นเรื่องดีสำหรับเขา
"ฮ่องเต้เสด็จ"
เสียงอันแหลมคมของขันทีทำลายบรรยากาศเคร่งขรึม และทุกคนคุกเข่าลงยกเว้นตงหลิงจิ่ว
"ฝ่าบาท..." ฮองเฮาเหนียงเหนียงทรงกังวลตลอดทั้งคืน เมื่อเห็นฮ่องเต้เสด็จ น้ำตาของนางก็ไหลออกมาทันที เมื่อมองไกลๆ ดูงดงามดั่งบุปผาที่เปียกโชยเม็ดฝน
"ลั่วเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?"
เสื้อผ้าในราชวงศ์หมิงหวง ทำให้จักรพรรดิดูสง่างามอย่างมาก แต่ขาดความอ่อนโยนและอบอุ่นไปเล็กน้อย เขาดูสูงส่ง เย็นชา แม้แต่ถามถึงลูกชายที่ตนรักมากที่สุด ก็ไม่มีความรู้สึกใกล้ชิดเลย
"ฝ่าบาท หมอหลวงบอกว่าหากว่าลั่วเอ๋อร์ไม่ฟื้นขึ้นมาตอนนี้ ก็อาจจะไม่มีวันฟื้นอีก" ฮองเฮาเกือบจะร้องไห้และล้มลงอยู่ในอ้อมกอดของฮ่องเต้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ