นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1161

สรุปบท บทที่ 1161 รุกราน, ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นถึงเป็นฝ่ายกุมอำนาจ: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

อ่านสรุป บทที่ 1161 รุกราน, ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นถึงเป็นฝ่ายกุมอำนาจ จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บทที่ บทที่ 1161 รุกราน, ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นถึงเป็นฝ่ายกุมอำนาจ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาช้าย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

สองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในตอนที่ชื่อเลี่ยนฉุ่ยประกาศว่ามือของเฟิ่งชิงเฉินไม่เป็นอะไรแล้ว เสด็จอาเก้าเองก็ประกาศออกมาว่าพวกเขาสามารถกลับไปได้แล้ว

ชื่อเลี่ยนฉุ่ยดีใจเป็นอย่างมาก แต่สีหน้าของกัวเป่าจี้และปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีกลับไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากพวกเขาอยากอยู่ที่นี่ให้นานกว่านี้

ส่วนโต้วโต้วกับอาจารย์ของของเขา สำหรับสองคนนั้นแล้วไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน ขอแค่มีกัวเป่าจี้อยู่ด้วยก็เพียงพอ เรื่องจากการที่มีกัวเป่าจี้อยู่ด้วย พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าคนของลัทธิปีศาจจะวางยาพิษพวกเขาหรือไม่

เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินออกเดินทาง แน่นอนว่าฉูซีฮวาผู้เป็นประมุขของที่นี่ต้องมาส่งพวกเขา ฉูซีฮวามาพร้อมกับเจ๋อเจ๋อ เดินไปด้านนอกของบ้านหินด้วยความมั่นใจ

“เจ๋อเจ๋อ วันนี้พ่อจะทำให้ลูกได้เห็น แม้ว่าจะเป็นเสด็จอาเก้าแห่งตงหลิง เขาก็ต้องยอมสยบแทบเท้าข้า ขอร้องอ้อนวอนให้พ่อไว้ชีวิตเขา” ฉูซีฮวาพยายามเป็นอย่างมากเพื่อระงับความสุขที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจ ทบทวนแผนการในใจอีกครั้ง เมื่อมั่นใจแล้วว่าไม่มีปัญหา เขาก็จูงมือเจ๋อเจ๋อก้าวไปด้านหน้า

บังเอิญว่าตอนนั้นเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินก็เดินออกมาพอดี ทั้งสองฝ่ายจึงเดินเข้าหากันและหยุดเดินเมื่อมีระยะห่างได้ประมาณครึ่งเมตร

“เสด็จอาเก้า” เสียงของฉูซีฮวาดังขึ้น มันดูอบอุ่นกว่าก่อนหน้านี้ แต่มันมีความดูถูกแฝงอยู่ในนั้น

เสด็จอาเก้าแอบเย้ยหยันอยู่ในใจ แต่ไม่ได้แสดงออกมาแต่อย่างใด หันไปยิ้มให้เจ๋อเจ๋อพร้อมกับพยักหน้า “ประมุขฉู ไปกันได้แล้ว”

คำพูดนี้คือการบอกให้ฉูซีฮวาเป็นผู้นำทาง ซึ่งฉูซีฮวาไม่ชอบมันเป็นอย่างมาก เขาแสดงออกมาทางใบหน้า กล่าวด้วยความดูถูก “ไป? เสด็จอาเก้าต้องการจะไปไหน?”

“รบกวนเวลาของประมุขฉูมามากพอแล้ว พระชายาอันเป็นที่รักของข้า ตอนนี้อาการบาดเจ็บของนางหายดีแล้ว ถึงเวลาที่พวกข้าต้องไป” เสด็จอาเก้าอธิบายอย่างใจเย็น แต่ในสายตาของฉูซีฮวา มันคือท่าทีของผู้ถูกกลั่นแกล้ง

“ฮ่าฮ่าฮ่า......” ฉูซีฮวาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ถึงเวลาต้องไป? เสด็จอาเก้า เจ้าคิดว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของข้าคือที่ไหน เจ้าคิดจะอยู่ก็อยู่ คิดจะไปก็ไป เจ้าเห็นข้าฉูซีฮวาเป็นตัวอะไรอย่างนั้นหรือ?”

“ไม่เห็นเป็นตัวอะไรทั้งนั้น ในสายตาของข้า เจ้าก็เป็นได้เพียงตัวตลก” ระงับอารมณ์และความคิดของตัวเองไม่ได้ ใจร้อนและเย่อหยิ่ง ไม่แปลกเลยว่าเหตุใดลัทธิปีศาจที่อยู่ในมือของฉูซีฮวาถึงได้รับความพ่ายแพ้

“เจ้า......” ฉูซีฮวาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า กำหมัดแน่นและมีความคิดที่จะพุ่งเข้าไปโจมตีเสด็จอาเก้า

เสด็จอาเก้าไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย มีเพียงสายตาอันเยือกเย็นเท่านั้นที่จ้องมองมาที่เขา “ประมุขฉู หากข้าเป็นเจ้า ข้าไม่มีทางเปิดเผยอารมณ์หรือความรู้สึกของตนเองออกมาก่อนที่เรื่องราวทุกอย่างจะสิ้นสุดลง เจ้า......ใจร้อนเกินไป”

คำใบ้ของเสด็จอาเก้าชัดเจนถึงเพียงนี้ แต่เจ๋อเจ๋อกลับรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับชนะจอมปลอม หมกมุ่นอยู่กับมัน จินตนาการถึงมันไม่ยอมหยุด

ฉูซีฮวายิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น “ไม่ว่าข้าจะทำอะไร มันก็ไม่จำเป็นต้องมารับฟังคำแนะนำของเจ้า เสด็จอาเก้า ข้าดูแลพวกเจ้าเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมา หากข้าปล่อยให้พวกเจ้าออกไปง่าย ๆ เช่นนี้ แล้วข้าจะอธิบายให้กับผู้คนในลัทธิของข้าได้อย่างไร”

“อ่า ประมุขฉูต้องการสิ่งใดเป็นข้อแลกเปลี่ยนอย่างนั้นหรือ?” เสด็จอาเก้าถามออกมาอย่างไม่รีบร้อน

ฉูซีฮวาไม่สังเกตเห็นว่าพวกของเสด็จอาเก้านั้นนิ่งสงบผิดปกติ และไม่เห็นแววตาแห่งความเย้ยหยันจากดวงตาของโต้วโต้ว คิดว่าผู้ที่กุมชัยชนะอยู่ในมือคือตัวเขาเอง จึงกล่าวออกไปด้วยความมั่นใจอันเปี่ยมล้น “ข้าก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล จากที่ได้ยินเรื่องราวต่าง ๆ จากปากของลูกชายข้า ทักษะทางการแพทย์ของแม่นางเฟิ่งนั้นยอดเยี่ยม ภายใต้การรักษาของแม่นางเฟิ่ง ทำให้อาการป่วยลูกชายของข้าดีขึ้นไม่น้อย ข้าต้องการให้แม่นางเฟิ่งอยู่ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่อไปเพื่อรักษาโรคให้แก่ลูกชายของข้า”

เห็นได้ชัดว่านี่คือการแย่งชิง

เป็นอย่างที่คิด ไม่รู้จักหลาบจำเลยจริง ๆ

เสด็จอาเก้าจ้องมองฉูซีฮวาอย่างระมัดระวังพร้อมกล่าวออกมาอย่างระมัดระวังว่า “เจ้านะหรือ? คิดจะรั้งคนของข้าไว้ ประมุขฉู ลูกชายของเจ้าไม่ได้บอกเจ้าหรืออย่างไร เกี่ยวกับจุดจบของคนที่ทำให้ข้าต้องขุ่นเคือง?”

เมื่อเผชิญหน้ากับแววตาอันล้ำลึกของเสด็จอาเก้า เจ๋อเจ๋ออดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในคุก แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ถอยหลังไปหนึ่งก้าว จากนั้นกล่าวออกมาด้วยเสียงอันแผ่วเบา “ท่านพ่อ”

คอของเจ๋อเจ๋อหดตัวลง ทำให้ฉูซีฮวารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาดุฉูซีฮวาในทันที “ฉูซีฮวา จำเอาไว้ เจ้าคือนายน้อยแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ อย่าทำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของข้าต้องอับอายเป็นอันขาด”

แม้โต้วโต้วจะไม่พอใจ แต่เขาก็เงียบปากแต่โดยดี

ไม่ว่าเสด็จอาเก้าจะสั่งหรือห้ามอะไร เขาก็ไม่กล้าขัดขืนจากใจจริง

“เจ้าต้องการอะไร?” เสด็จอาเก้าพูดกับฉูซีฮวา

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าก็นึกว่าคนอย่างเสด็จอาเก้าไม่กลัวตาย ที่แท้ก็กลัวเป็นกับเขาเหมือนกัน” ฉูซีฮวากล่าวออกมาอย่างได้ใจ แต่ในสายตาพวกของเฟิ่งชิงเฉิน มันคือการรนหาที่ตายอย่างเห็นได้ชัด

คนผู้นี้คิดว่าตัวเองสูงส่งและดีเลิศกว่าทุกคนเลยอย่างนั้นหรือ

แน่นอน หากไม่ได้เผชิญหน้ากับอุบัติเหตุของเฟิ่งชิงเฉิน แผนการของฉูซีฮวาก็คงสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง

“ไม่มีผู้ใดไม่กลัวความตาย แม้แต่ข้าเองก็ไม่เว้น บอกมาเถิด ประมุขฉูต้องการสิ่งใด ข้าจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความพอใจของเจ้า” ฉูซีฮวาเย่อหยิ่งเกินไป เขาฟังไม่ออกว่าคำพูดของเสด็จอาเก้านี้คือการเหยียดหยาม

แต่เจ๋อเจ๋อรู้เป็นอย่างดี เขาคิดจะก้าวออกไปเพื่อห้ามฉูซีฮวา แต่มันก็สายเกินไปแล้ว เนื่องจากในตอนนั้น ฉูซีฮวาได้พูดความต้องการของตนเองออกไปอย่างชัดเจน “ตงหลิงจิ่ว ข้าเกลียดท่าทีที่สูงศักดิ์ของเจ้า ทำเหมือนว่าตนเองเหนือกว่าข้า ข้าต้องการให้เจ้าคุกเข่าแทบเท้าข้า เลียรองเท้าของข้า อ้อนวอนและร้องขอชีวิตจากข้า”

ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้พบกับเสด็จอาเก้า ฉูซีฮวารู้สึกไม่ชอบใจเสด็จอาเก้าเลยแม้แต่น้อย เกลียดจนอยากจะเหยียบเสด็จอาเก้าให้จมดิน เวลานี้โอกาสมาถึงแล้ว เขาจะยอมปล่อยมันไปได้อย่างไร

นอกจากภูมิหลัง ตงหลิงจิ่วก็ไม่มีสิ่งใดที่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้ แต่ฉูซีฮวากลับต้องมาหลบซ่อนอยู่ในสภาพที่ต่ำตมเช่นนี้ ส่วนตงหลิงจิ่วกลับมีฐานะสูงศักดิ์ เพลิดเพลินกับความมั่งคั่งร่ำรวย ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

นี่มันไม่ยุติธรรม......เขาฉูซีฮวา จะต้องทำลายตงหลิงจิ่วให้ได้! 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ