นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1165

สรุปบท บทที่ 1165 คุกเข่า, เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นสุนัขรับใช้เลยด้วยซ้ำ: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอน บทที่ 1165 คุกเข่า, เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นสุนัขรับใช้เลยด้วยซ้ำ จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1165 คุกเข่า, เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นสุนัขรับใช้เลยด้วยซ้ำ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ฉูซีฮวาตื่นตระหนกและไร้ทางเลือก ทำให้เขาหลงเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ไว้ฝังกระดูก

“บ้าที่สุด เหตุใดตอนนี้ข้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้”

เมื่อมองดูหลุมศพและป้ายหลุมศพ แววตาของฉูซีฮวาก็เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย หากมีกำแพงอยู่ เขาคงทุบมันเพื่อระบายความหงุดหงิดอย่างเต็มแรง

เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร หากสุสานพวกนี้ถูกทำลาย เขาจะเป็นคนบาปแห่งลัทธิปีศาจ ต่อให้เสด็จอาเก้าไว้ชีวิตเขา ลัทธิปีศาจก็ไม่มีทางปล่อยเขาไปเป็นแน่

ฉูซีฮวารู้สึกร้อนรนอย่างสุดหัวใจ เขาเริ่มทำอะไรไม่ถูก ทำให้อาจารย์ของโต้วโต้วรู้ได้ทันทีว่าสุสานแห่งนี้มีความสำคัญกับฉูซีฮวามากแค่ไหน

คิดไปคิดมามันก็ใช่ คนเราให้ความสำคัญกับความตาย ต่อให้เป็นคนของลัทธิปีศาจ พวกเขาก็ไม่อยากให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วของตนเองต้องถูกรบกวน หรือถูกขุดขึ้นมาเพราะตัวเอง

เมื่อเห็นชื่อที่อยู่บนป้ายหน้าหลุมศพ มันคือสุสานที่มีไว้ฝังประมุขแห่งลัทธิปีศาจ หากศพของประมุขเหล่านี้ถูกขุดขึ้นมา เช่นนั้นก็คงเป็นจุดจบของประมุขคนปัจจุบันอย่างฉูซีฮวา

ไม่สามารถรักษามรดกของบรรพบุรุษได้ เวลานี้แม้แต่สุสานของบรรพบุรุษก็ไม่อาจปกป้องไว้ได้ เช่นนั้นลัทธิปีศาจจะยอมรับฉูซีฮวาได้อย่างไร

เพียงแต่......

การที่แตะต้องสุสานของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว มันเป็นสิ่งที่อาจารย์ของโต้วโต้วไม่อาจกระทำได้ เนื่องจากการกระทำเช่นนี้มันขี้ขลาดเกินไป

แต่โต้วโต้วกลับไม่คิดเช่นนั้น “อาจารย์ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องลังเล ลัทธิปีศาจได้สังหารผู้คนไปมากมาย แต่คนที่ได้ฝังอยู่ในสุสานมีเพียงแค่ประมุขของลัทธิปีศาจเท่านั้น การที่พวกเราทำเช่นนี้ มันก็เหมือนกับการทำเพื่อประมุขของลัทธิปีศาจ ทำให้พวกเขาได้แบ่งปันความทุกข์และความสุขร่วมกัน”

แบ่งปันความทุกข์และความสุขร่วมกัน มันคือแบบนี้อย่างนั้นหรือ?

อาจารย์ของโต้วโต้วจ้องมองมาที่โต้วโต้วด้วยสายตาตำหนิ เขารู้สึกรำคาญขึ้นมาอีกครั้ง และต้องโทษตัวเองที่สั่งสอนโต้วโต้วได้ไม่ดีพอ

“พวกเจ้ากล้างั้นหรือ?” ฉูซีฮวาได้ยินเสียงของโต้วโต้ว เขาก็เลิกคิดหนีอีกต่อไป

“หึ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร เหตุใดพวกเราจะไม่กล้า” โต้วโต้วไม่พูดอะไร เตะหินบนแท่นฝังศพที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยเท้าของเขา มันทำให้ป้ายสุสานขาดท่อน จากนั้นก็พูดออกมาอย่างเย่อหยิ่ง “วันนี้ท่านโต้วได้ทำมันลงไปแล้ว เจ้าจะทำอะไรข้าได้?”

“เจ้า......ไอ้สารเลว เจ้าจงรอวันที่หนอนศพกัดกินร่างกายของเจ้าไปจนตาย” ใบหน้าอันซีดขาวของฉูซีฮวากลายเป็นสีแดงขึ้นมา

“เลิกเอาหนอนศพมาขู่ข้าได้แล้ว ข้าไม่ใช่คนที่ขี้ตกใจขนาดนั้น และมีแต่เจ้าเท่านั้นที่จริงจังกับเรื่องหนอนศพ ส่วนข้านั้นไม่เคยเห็นมันอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย” ใบหน้าของโต้วโต้วเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง ราวกับว่าตนเองเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่ต่อต้านหนอนศพ

รูม่านตาที่หดตัวลงของฉูซีฮวาเบิกกว้าง ความหวาดกลัวฉายออกมาจากแววตาของเขา “พวก พวกเจ้าไม่ได้ถูกพิษของหนอนศพอย่างนั้นหรือ?”

นี่มันเป็นไปได้อย่างไง หนอนศพที่เขาเลือกมาเหล่านั้น ทั้งหมดได้รับการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ตัวเล็กเป็นพิเศษ เป็นสีขาวราวกับหิมะ อ่อนนุ่มไร้กระดูก เมื่อใส่เข้าไปปนกับนุ่น แน่นอนว่าไม่อาจสังเกตเห็น

“เพิ่งรู้สึกตัวอย่างนั้นหรือ เหตุใดเจ้าจึงโง่เขลาได้ถึงเพียงนี้ เจ้าไม่เห็นหรือว่าเสด็จอาเก้าไม่เห็นเจ้าอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย พวกข้าเองก็ไม่เคยเห็นเจ้าอยู่ในสายตาเช่นกัน และมีเพียงเจ้าเท่านั้นที่คิดว่าตนเองอยู่เหนือกว่าคนอื่น พูดจาไร้สาระออกมามากมาย ฉูซีฮวา เจ้าจงยอมรับความตายแต่โดยดี ข้าเป็นคนที่มีจิตใจเมตตา ยังพอทำให้ศพของเจ้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ได้” โต้วโต้วยกดาบในมือขึ้นและฟันลงไปตรงกลางของหลุมศพ

ฝุ่นก็ฟุ้งขึ้นมา มีโพรงตรงกลางเนินเล็ก ๆ โชคดีที่หลุมมีความลึกมากพอ จึงไม่เห็นโลงศพที่อยู่ด้านใน

ฉูซีฮวาถูกโจมตีอย่างแรง เวลานี้เขาไม่สนใจหลุมศพพวกนี้อีกต่อไปแล้ว เขาถอยหลังกลับมาอย่างไร้จุดหมาย ยืนอยู่ตรงที่เดิมด้วยร่างอันไร้วิญญาณ เขาเป็นเหมือนกับคนตายที่ยังมีลมหายใจ

และสิ่งที่เขาพูดออกมาก็เป็นเหตุผลที่แท้จริง ไม่ว่าจะบัณฑิตหรือผู้ฝึกวรยุทธ์ สุดท้ายก็ต้องตกมาอยู่ในกำมือของตระกูลราชวงศ์

หากราชสำนักยื่นข้อเสนอออกมา แน่นอนว่าต้องมีเหล่าคนในยุทธจักรอย่างน้อยแปดส่วนที่หวั่นไหว ชีวิตที่เร่ร่อนไร้ร่องรอยไม่อาจเทียบกับความเจริญรุ่งเรืองและอำนาจ เพื่อแต่ราชสำนักไม่เคยยื่นข้อเสนอออกมา ผู้ที่อยากครอบครองอำนาจและความรุ่งเรือง แต่นอนว่าต้องประกาศตนเองและสร้างชื่อในยุทธจักร

แม้แต่โต้วโต้วที่ไม่ฝักใฝ่ยังเข้าใจเรื่องนี้ แต่ฉูซีฮวากลับไม่เข้าใจ เขาแสวงหาอำนาจอย่างไร้จุดหมาย ลืมไปว่าตนเองไม่มีความสามารถเช่นนั้นอยู่ และลืมไปว่าตนเองไม่ใช่ผู้ควบคุมทุกอย่าง

หัวใจสูงกว่าท้องฟ้า ชีวิตบางกว่ากระดาษ มันบ่งบอกถึงคนอย่างฉูซีฮวา ผู้ซึ่งครอบครองลัทธิปีศาจอันต่ำต้อย แต่กลับคิดว่าตนเองจะเป็นผู้ปกครองคนในใต้หล้าได้

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฉูซีฮวาจะเป็นคนที่เย่อหยิ่งและเป็นกบที่อยู่ในกะลา แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ธรรมดา หลังจากการปะทะกันหลายครั้ง เรี่ยวแรงของโต้วโต้วลดลง เขาถูกเตะจากทางด้านหลัง และฉูซีฮวาก็ยังคงไม่หยุดยั้ง ไล่ตามโต้วโต้วไม่ยอมปล่อย

“ฉูซีฮวา บนโลกนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เจ้าไม่อาจรุกรานได้ รังแกลูกศิษย์ของข้าต่อหน้าข้า เจ้าช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงยิ่งนัก” อาจารย์ของโต้วโต้วไม่นิ่งเฉยอีกต่อไป เขาพุ่งได้ด้านหน้าด้วยมือเปล่า และขวางอยู่ด้านหน้าของโต้วโต้ว

แม้การเคลื่อนไหวของฉูซีฮวาจะรุนแรง แต่การเคลื่อนไหวของอาจารย์ของโต้วโต้วก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ทั้งสองต่างไม่ใช่คนของโลกแห่งศิลปะการต่อสู้ ความประหลาดใจฉายออกมาจากแววตาของฉูซีฮวา “เจ้าเป็นใคร?”

“ข้าเป็นใครเจ้ายังไม่รู้ แต่เจ้ากลับกล้าเข้ามารุกราน ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าควรชื่นชมในความกล้าหาญของประมุขฉู หรือดูถูกในความบ้าบิ่นและโง่เขลาของเจ้าดี”

ปัง......อาจารย์ของโต้วโต้วใช้ประโยชน์ในตอนที่ฉูซีฮวาเสียสติ ออกกระบวนท่า เตะไปที่น่องของฉูซีฮวา

“อ๊าก......” ฉูซีฮวาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ขาทั้งสองข้าคุกเข่าลงอย่างไร้การควบคุม และในตอนนั้นเอง......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ