นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1166

วินาทีที่ฉวี่ซีฮวาคุกเข่าลง เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินพลันเดินมาพอดี ฉวี่ซีฮวาเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าตนกำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเฟิ่งชิงเฉินและเสด็จอาเก้าแล้ว

นี่เป็นการดูถูกเหยียดหยาม มันยิ่งทำให้เขารู้สึกโกรธและอับอายยิ่งกว่าตอนที่รู้ว่าแผนการของตนล้มเหลวไม่เป็นท่า

“พวกเจ้าสมควรตาย!” ฉวี่ซีฮวาโกรธจัด ไม่สนว่าร่างกายจะรับได้หรือไม่ เขาหมุนตัวชนอาจารย์ของโต้วโต้วออกพร้อมดีดตัวออกจากพื้น

“คนที่สมควรตายคือเจ้า” โต้วโต้วชักกระบี่แทงออกไปจากข้างหลัง เมื่อฉวี่ซีฮวารู้สึกตัวก็สายไปแล้ว ทำได้เพียงหลบกระบี่ไปอย่างเฉียดฉิว

กระบี่แทงถูกหัวไหล่ของฉวี่ซีฮวา ฉวี่ซีฮวาหันกลับไปคว้ากระบี่ของโต้วโต้วเอาไว้แทนแล้วออกแรงดีดกระบี่ของโต้วโต้วจนกระเด็นออกไป

“โจมตีลับหลัง ต่ำช้าเสียจริง” เสียเปรียบติดต่อกันมาหลายต่อหลายครั้ง ฉวี่ซีฮวาเกือบจะไม่รอดเสียแล้ว

“สู้เจ้าไม่ได้หรอก วางแผนลับหลัง เจ้าน่ะสิถึงเรียกว่าไร้ยางอาย” เมื่อไม่มีกระบี่ โต้วโต้วจึงสู้ด้วยมือเปล่า มือทั้งสองข้างชองเขากำแน่น จากนั้นเข็มเหล็กอันแหลมคมพลันพวยพุ่งออกมาจากร่องนิ้วของเขาทันที

“ปัง” โจมตีไปหนึ่งหมัด โลหิตไหลนองในทันใด ฉวี่ซีฮวาเสียเปรียบให้กับโต้วโต้วมาก ทำให้นางยิ่งระมัดระวังมากขึ้น

ฉวี่ซีฮวาไม่กล้าเข้าใกล้โต้วโต้ว เพราะกลัวว่าโต้วโต้วจะลอบโจมตีอีก แต่ทว่าเขาจะถอย ก็ต้องดูเสียก่อนว่าโต้วโต้วอนุญาตหรือไม่ ภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของอาจารย์ของโต้วโต้ว ทำให้ฉวี่ซีฮวาหมดหนทาง ทำได้เพียงรับแรงโจมตีจากโต้วโต้ว

ในสถานการณ์สองรุมหนึ่งนี้ ฉวี่ซีฮวายังคงไม่พ่ายแพ้ ซึ่งสามารถเห็นได้ว่าวรยุทธ์ของเขาแกร่งกล้ามากเพียงใด ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่สามารถครองตำแหน่งหัวหน้าลัทธิมารได้อย่างมั่นคงได้

เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้มองดูเนิ่นนาน ทหารม้าทมิฬก็ตามมาถึง

ระหว่างทางมา พวกเขาเจอกับคนลัทธิมารกลุ่มหนึ่ง เพื่อกำจัดอุปสรรคเหล่านี้ ทำให้เสียเวลาพวกเขาไปไม่น้อย ดังนั้นจึงได้ให้เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินมาก่อน

“ไปซะ อย่างไรก็ต้องค้นรังของมันให้เจอ” เสด็จอาเก้าไม่ได้ให้ทหารม้าทมิฬไปช่วยแต่อย่างใด เพียงแค่มีเขาอยู่ ฉวี่ซีฮวาย่อมหนีไม่รอดแน่นอน

“พ่ะย่ะค่ะ” ทหารม้าทมิฬแยกย้ายกันไปอย่างพร้อมเพรียงกัน

ลัทธิมารคับแคบเพียงนี้ การจะค้นหารังที่อยู่ของฉวี่ซีฮวา สำหรับพวกเขาแล้วเป็นเรื่องของเช้าเย็นเท่านั้น

ฉวี่ซีฮวาเห็นทหารม้าทมิฬมาถึง เดิมยังค่อนข้างกังวลใจกลัวว่าเสด็จอาเก้าจะใช้วิธีคนเยอะสู้คนน้อย ทว่าบัดนี้…เมื่อเห็นกลุ่มทหารม้าทมิฬจากไปกันหมดแล้ว เขาก็ยิ่งกังวลมากกว่าเดิม

หากคนของเสด็จอาเก้าตามหาที่ซ่อนตัวสุดท้ายของพวกเขาเจอ เช่นนั้นลัทธิก็จะถูกทำลายให้สิ้นซาก ไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อีกครั้งจริงๆ แน่

เมื่อคิดถึงตรงนี้ สายตาของฉวี่ซีฮวาที่มองโต้วโต้วและอาจารย์ของโต้วโต้วยิ่งโมโหชั่วร้ายมากขึ้น กระบวนท่าก็ยิ่งรุนแรงกว่าเมื่อครู่ มือทั้งสองเปลี่ยนเป็นกรงเล็บ ปลายเล็บสะท้อนแสงวิบวับ เมื่อถูกแสงอาทิตย์สอดส่อง ทำให้แสงสะท้อนจากเล็บยิ่งดูชั่วร้ายผิดปกติ

“ระวัง นิ้วของเขามีพิษ” เฟิ่งชิงเฉินรีบเอ่ยเตือน

“รู้แล้ว” โต้วโต้วรับคำแล้วหลบอย่างรวดเร็ว อาจารย์ของโต้วโต้วพุ่งตัวไปด้านข้างเพื่อสร้างเกาะป้องกันให้กับโต้วโต้ว

โต้วโต้วรีบหยิบถุงมือสีเงินออกมาคู่หนึ่งสวมเข้าที่มือ

“ท่านอาจารย์ เดี๋ยวข้าจัดการเอง” โต้วโต้วกำหมัดแน่นแล้วทักทายเล็บมือของฉวี่ซีฮวา

หมัดของโต้วโต้วปะทะกับเล็บมือของฉวี่ซีฮวาเกิดประกายไฟออกมาดัง ‘ชิ้งๆ…’

“ให้ตายสิ นี่มันเล็บอะไรกันเนี่ย แข็งกว่าถุงมือลวดเงินข้าเสียอีก” โต้วโต้วส่งหมัดออกไปหลายทีก็ไม่อาจทำให้เล็บของฉวี่ซีฮวาหักได้

“เหอะ…วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าตายไม่มีที่ฝั่งศพ” ขณะนี้ดวงตาของฉวี่ซีฮวาขาวขุ่นไปทั้งสองข้าง ทั้งแปลกประหลาดและน่ากลัวดูเหมือนต้องพิษไปทั้งร่างกายอย่างไรอย่างนั้น

“วิชามารของลัทธิมารน่าสนใจจริงๆ โต้วโต้ว ตอนนี้ร่างกายของเขาเป็นพิษหมดแล้ว เจ้าต้องระวัง ห้ามโดนเขาเด็ดขาด” อาจารย์ของโต้วโต้วหยิบไม้ที่ใดไม่รู้มาท่อนหนึ่ง ใช้ไม้ต่อกรกับฉวี่ซีฮวา พยายามไม่ให้แตะต้องโดนร่างกายของฉวี่ซีฮวามากที่สุด

“ข้าไม่มีกระบี่ ไม่เข้าใกล้เขาแล้วข้าจะโจมตีอย่างไรเล่า” โต้วโต้วหลบหลีกอย่าวรวดเร็ว ทว่าฉวี่ซีฮวากลับตามเขาไปไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ อาจารย์ของโต้วโต้วพยายามห้ามไว้อย่างเต็มที่ ทว่าพลังโจมตีของท่อนไม้มีขีดจำกัดจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ