นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1167

สรุปบท บทที่ 1167 ละทิ้ง เลือดเย็นไร้ความปราณีต่อหน้าเสด็จอาเก้า: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

บทที่ 1167 ละทิ้ง เลือดเย็นไร้ความปราณีต่อหน้าเสด็จอาเก้า – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1167 ละทิ้ง เลือดเย็นไร้ความปราณีต่อหน้าเสด็จอาเก้า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินร่วมกันพาชวีซีฮวาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ หลังจากนั้นไม่นานก็เห็นซากงูและแมลงมีพิษนับไม่ถ้วนทั่วทุกหนทุกแห่ง

“ที่นี่มันไม่ใช่ที่สำหรับคนอยู่เลย” โต้วโต้วตัวสั่นเล็กน้อยด้วยท่าทีรังเกียจ และเกือบจะโยนชวีซีฮวาเข้าไปในกองซากศพโดยไม่ได้ตั้งใจ

ไม่น่าแปลกใจที่โต้วโต้วถึงได้กลัวขนาดนี้ กองซากศพเหล่านี้น่าขยะแขยงจริงๆ ทหารม้าทมิฬโหดเหี้ยมมาก ลงมือโจมตีได้ไม่น่าดูเลย เศษชิ้นเนื้อและเลือดนองไปทุกพื้นที่ ดุเดือดยิ่งกว่าฉากฆาตกรรม

เสด็จอาเก้าโอบเอวเฟิงชิงเฉินไว้ ค่อย ๆ เฉียดผ่าน และกระโดดข้ามกองศพ เป็นผู้นำบุกไปข้างหน้า

อุปสรรคระหว่างทางถูกทหารม้าทมิฬจัดการเคียร์ทางล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว และทหารม้าทมิฬยังทิ้งเครื่องหมายไว้ ขอแค่เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินไปตามเครื่องหมายนั้นก็พอ

ความแข็งแกร่งทหารม้าทมิฬนั้นไม่ต้องมีข้อสงสัย โต้วโต้วมองไปที่เสด็จอาเก้าอย่างอิจฉา

เป็นเรื่องน่าอิจฉาจริงๆ ที่มีทหารม้าเหล็กที่ทรงพลังเช่นนี้ หากเป็นไปได้ เขาก็อยากจะ...

แน่นอนว่า โต้วโต้วทำได้แค่คิดเท่านั้น เขาไม่มีเงินมากเพียงพอที่จะสนับสนุนกองพลที่มีจำนวนสามหมื่นคนได้ และเขาไม่มีความอดทนที่จะใช้เวลาสิบห้าปีในการฝึกทหาร

ในไม่ช้า เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินก็เห็นปากถ้ำหนึ่ง พวกเขามองหน้ากัน และก้าวเข้าไปโดยไม่ลังเลใจ

“ถ้ำอีกแล้วเหรอ เจ้าทำไมถึงได้ชอบถ้ำนักหนา?” โต้วโต้วบ่นพรึมพรำอย่างไม่พอใจ ถือชวีซีฮวาแกว่งไปแกว่งมาๆ

ใบหน้าของชวี่ซีฮวาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น ดวงตาของเขาเปล่งประกายความชั่วรายและอาฆาต และมุมปากของเขาเลือดก็ไหลไม่หยุด

“ทำกับข้าแบบนี้อย่างไร?” โต้วโต้วเลิกคิ้วด้วยใบหน้าดูถูกเหยียดหยาบ

ชวีซีฮวานั่นยังไม่เข้าใจสถานการณ์จริงๆ ตัวเขาเองถูกวางยาพิษ แขนขาและวิทยายุทธของเขาถูกทำลาย ถ้าไม่ใช่เสด็จอาเก้าบอกว่าไม่อยากให้เขาตายไปเฉย ๆ แบบนี้ ไม่งั้นชวีซีฮวาคงตายไปตั้งนานแล้ว

คนที่กำลังจะตาย ยังจะมาทำตัวเหิบเกริม เขาไม่รู้หรือว่าตัวเขานั้นน่าขันแค่ไหน

กับคนแบบนี้ โต้วโต้วไม่ได้รู้สึกเห็นอกเห็นใจเลยสักนิด หลังจากเข้าไปในถ้ำแล้ว โต้วโต้วลากชวีซีฮวามาตลอดทาง เหมือนกับลากสุนัขที่ตายแล้วก็ไม่ปาน

ทิ้งคราบเลือดไว้ระหว่างทาง แม้ว่าชวีซีฮวาจะโกรธแค่ไหนแต่เขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะโต้ตอบได้ แม้แต่จะคิดฆ่าตัวตายยังไม่มีแรงเลย

ภายในถ้ำนั้นใหญ่มากเหมือนกับหมู่บ้านเล็กๆ ถนนและบ้านเรือนต่างๆ ตั้งเรียงกัน จะเห็นได้ว่าชาวลัทธิมารใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้างที่หลี้ภัยแห่งนี้ แต่น่าเสียดาย ..

สถานที่แห่งนี้ ก็ยังไม่สามารถปกป้องลัทธิมารไว้ได้

เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินเดินเข้าไปจนสุด จนกระทั่งเดินไปถึงห้องโถงในถ้ำ ถึงได้หยุดลง

“ท่านอ๋อง” เมื่อทหารม้าทมิฬเห็นเสด็จลุงเก้าเข้ามา ก็ยืนตรงและโค้งคำนับให้เสด็จลุงเก้าพร้อมเพรียงกัน

“อืม” เสด็จลุงเก้าเหลือบมองสถานการณ์ในห้องโถง และพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

ในห้องโถง ทหารม้าทมิฬได้ควบคุมไว้หมดแล้ว และนำสมาชิกที่ยังมีชีวิตอยู่ของลัทธิมารมาแล้วล้อมพวกเขาไว้ในที่เดียวกัน

คนที่หลงเหลืออยุ่ในถ้ำนี้ล้วนแต่เป็นคนแก่ อ่อนแอ ป่วย และพิการ พวกเขาไม่มีพละกำลังที่จะต่อสู้กับทหารม้าทมิฬได้ และยัง...

เจ๋อเจ๋ออยู่ที่นี่

ถึงจะอยากทำเพื่อเจ๋อเจ๋อ คนเหล่านี้ก็ไม่กล้าต่อต้าน

เจ๋อเจ๋อในเวลานี้ มีความเป็นผู้นำตัวน้อย เขายืนอยู่ด้านหน้าของทุกคน ร่างเล็ก ๆ ของเขาตั้งตรง เมื่อเขาเห็นเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินเข้ามา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

เมื่อมองขึ้นไป เขาเห็นโต้วโต้วที่ลากชวีซีฮวาเข้ามาด้วย ดวงตาของเจ๋อเจ๋อเบิกกว้างทันที จากนั้นเขาก็ดูสงบลง โดยยืนอยู่จุดเดิมด้วยสีหน้าไม่แสดงอาการใด ๆ แต่มือเล็กๆ ของเขาก็กำหมัดแน่น ราวกับกำลังพยายามอดทนอยู่

เจ๋อเจ๋อเป็นเด็กฉลาดมาโดยตลอด แม้ว่าเขาจะไม่หนักแน่นเท่าผู้ใหญ่ และวัยวุฒิไม่เพียงพอ แต่ถ้าเทียบกับพ่อของเขา เขามีความโปร่งใสมากกว่า และสามารถงอและหดได้

เจ้อเจ๋อไม่พูดอะไรเพื่อปกป้องตัวเอง เขาเดินเข้าไปตรงกลาง คุกเข่าลงต่อหน้าเสด็จงอาเก้า และโค้งคำนับให้กับเสด็จอาเก้าสามครั้งจนหน้าผากของเขาเลือดออก

“ทุกอย่างเป็นความผิดของพ่อข้า ทำให้เสด็จอาเก้าขุ่นเคือง หากเสด็จอาเก้าต้องการฆ่าหรือหั่นเขาเป็นชิ้น ๆ ชวีเจ๋อจะไม่ขอคัดค้านแม้คำเดียว” เขารับสารภาพผิดแทนพ่อของเขา จัดการกับญาติพี่น้องที่กระทำผิด เพื่อปกป้องความเป็นธรรม ไม่ว่าเขาจะจริงใจหรือแสร้งทำ การกระทำของเจ๋อเจ๋อนั้น ไม่มีใครกล้าว่าเขาได้แม้คำเดียว

“เจ้าลัทธิน้อยชวีไม่ใช่เด็กทั่วไปจริง ๆ ความเฉียบขาดโหดเหี้ยม และตัดสัมพันธ์ญาติมิตร นี่มันไม่ต่างไปจากข้าเลยด้วยซ้ำ” ดูเหมือนเป็นคำชมของเสด็จอาเก้า แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นการเยาะเย้ยมากกว่า

สิ่งที่เจ๋อเจ๋อพูดก็คือมันเป็นความผิดของลัทธิมารทั้งหมด ไม่ว่าเสด็จอาเก้าจะจัดการกับชวีซีฮวาอย่างไร เขาและลัทธิมารก็จะยอมรับมันและจะไม่มีความคิดที่จะแก้แค้นใด ๆ หากเสด็จอาเก้าต้องการ เขาสามารถฆ่าชวีซีฮวาได้ตลอดเวลา หรือชีวิตใครก็ได้ของคนของลัทธิมาร

แน่นอน เป็นเพราะเจ๋อเจ๋อเข้าใจว่าทั้งเขาและลัทธิมารไม่มีความสามารถในการตอบโต้ หากต้องการมีชีวิตรอดจากเงื้อมมือเสด็จอาเก้า เขาก็ต้องยอมให้เสด็จอาเก้าได้ระบายความโกรธของเขา

มันไม่มีความผิดอะไร เขาในฐานะเจ้าลัทธิน้อย การกระทำของเจ๋อเจ๋อนั้นคือสิ่งที่ถูกต้อง เสียสละคน ๆ หนึ่ง เพื่อแลกกับชีวิตของคนอื่น ๆ ในลัทธิมารมีชีวิตรอดได้ นี่เป็นข้อตกลงที่ดี

แต่อย่างไรก็ตาม เจ๋อเจ๋อเพิ่งจะอายุเพียงหกขวบ และคนที่เขาทิ้งไปโดยไม่ลังเล นั่นคือพ่อของเขา!

อายุยังน้อย แต่ใจเด็ดได้ขนาดนี้ ทำให้รู้สึกชอบเขาไม่ได้จริง ๆ

เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจ และทอดถอนใจด้วยความหดหู่อีกครั้ง เจ๋อเจ๋อเกิดมาเป็นคนเลือดเย็นจริงๆ แม้ว่าชวีซีฮวาจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน แต่คำพูดของเจ๋อเจ๋อที่ตัดสินอะไรเป็นอะไร ทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเศร้า

แม้แต่ละทิ้งพ่อของตัวเองแบบนี้ได้ แล้วกับคนอื่น เขาจะมีความเมตตาแค่ไหน?

อายุน้อยขนาดนี้ก็มีไหวพริบขนาดนี้ มันช่างน่ากลัวมาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ