นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1167

เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินร่วมกันพาชวีซีฮวาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ หลังจากนั้นไม่นานก็เห็นซากงูและแมลงมีพิษนับไม่ถ้วนทั่วทุกหนทุกแห่ง

“ที่นี่มันไม่ใช่ที่สำหรับคนอยู่เลย” โต้วโต้วตัวสั่นเล็กน้อยด้วยท่าทีรังเกียจ และเกือบจะโยนชวีซีฮวาเข้าไปในกองซากศพโดยไม่ได้ตั้งใจ

ไม่น่าแปลกใจที่โต้วโต้วถึงได้กลัวขนาดนี้ กองซากศพเหล่านี้น่าขยะแขยงจริงๆ ทหารม้าทมิฬโหดเหี้ยมมาก ลงมือโจมตีได้ไม่น่าดูเลย เศษชิ้นเนื้อและเลือดนองไปทุกพื้นที่ ดุเดือดยิ่งกว่าฉากฆาตกรรม

เสด็จอาเก้าโอบเอวเฟิงชิงเฉินไว้ ค่อย ๆ เฉียดผ่าน และกระโดดข้ามกองศพ เป็นผู้นำบุกไปข้างหน้า

อุปสรรคระหว่างทางถูกทหารม้าทมิฬจัดการเคียร์ทางล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว และทหารม้าทมิฬยังทิ้งเครื่องหมายไว้ ขอแค่เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินไปตามเครื่องหมายนั้นก็พอ

ความแข็งแกร่งทหารม้าทมิฬนั้นไม่ต้องมีข้อสงสัย โต้วโต้วมองไปที่เสด็จอาเก้าอย่างอิจฉา

เป็นเรื่องน่าอิจฉาจริงๆ ที่มีทหารม้าเหล็กที่ทรงพลังเช่นนี้ หากเป็นไปได้ เขาก็อยากจะ...

แน่นอนว่า โต้วโต้วทำได้แค่คิดเท่านั้น เขาไม่มีเงินมากเพียงพอที่จะสนับสนุนกองพลที่มีจำนวนสามหมื่นคนได้ และเขาไม่มีความอดทนที่จะใช้เวลาสิบห้าปีในการฝึกทหาร

ในไม่ช้า เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินก็เห็นปากถ้ำหนึ่ง พวกเขามองหน้ากัน และก้าวเข้าไปโดยไม่ลังเลใจ

“ถ้ำอีกแล้วเหรอ เจ้าทำไมถึงได้ชอบถ้ำนักหนา?” โต้วโต้วบ่นพรึมพรำอย่างไม่พอใจ ถือชวีซีฮวาแกว่งไปแกว่งมาๆ

ใบหน้าของชวี่ซีฮวาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น ดวงตาของเขาเปล่งประกายความชั่วรายและอาฆาต และมุมปากของเขาเลือดก็ไหลไม่หยุด

“ทำกับข้าแบบนี้อย่างไร?” โต้วโต้วเลิกคิ้วด้วยใบหน้าดูถูกเหยียดหยาบ

ชวีซีฮวานั่นยังไม่เข้าใจสถานการณ์จริงๆ ตัวเขาเองถูกวางยาพิษ แขนขาและวิทยายุทธของเขาถูกทำลาย ถ้าไม่ใช่เสด็จอาเก้าบอกว่าไม่อยากให้เขาตายไปเฉย ๆ แบบนี้ ไม่งั้นชวีซีฮวาคงตายไปตั้งนานแล้ว

คนที่กำลังจะตาย ยังจะมาทำตัวเหิบเกริม เขาไม่รู้หรือว่าตัวเขานั้นน่าขันแค่ไหน

กับคนแบบนี้ โต้วโต้วไม่ได้รู้สึกเห็นอกเห็นใจเลยสักนิด หลังจากเข้าไปในถ้ำแล้ว โต้วโต้วลากชวีซีฮวามาตลอดทาง เหมือนกับลากสุนัขที่ตายแล้วก็ไม่ปาน

ทิ้งคราบเลือดไว้ระหว่างทาง แม้ว่าชวีซีฮวาจะโกรธแค่ไหนแต่เขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะโต้ตอบได้ แม้แต่จะคิดฆ่าตัวตายยังไม่มีแรงเลย

ภายในถ้ำนั้นใหญ่มากเหมือนกับหมู่บ้านเล็กๆ ถนนและบ้านเรือนต่างๆ ตั้งเรียงกัน จะเห็นได้ว่าชาวลัทธิมารใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้างที่หลี้ภัยแห่งนี้ แต่น่าเสียดาย ..

สถานที่แห่งนี้ ก็ยังไม่สามารถปกป้องลัทธิมารไว้ได้

เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินเดินเข้าไปจนสุด จนกระทั่งเดินไปถึงห้องโถงในถ้ำ ถึงได้หยุดลง

“ท่านอ๋อง” เมื่อทหารม้าทมิฬเห็นเสด็จลุงเก้าเข้ามา ก็ยืนตรงและโค้งคำนับให้เสด็จลุงเก้าพร้อมเพรียงกัน

“อืม” เสด็จลุงเก้าเหลือบมองสถานการณ์ในห้องโถง และพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

ในห้องโถง ทหารม้าทมิฬได้ควบคุมไว้หมดแล้ว และนำสมาชิกที่ยังมีชีวิตอยู่ของลัทธิมารมาแล้วล้อมพวกเขาไว้ในที่เดียวกัน

คนที่หลงเหลืออยุ่ในถ้ำนี้ล้วนแต่เป็นคนแก่ อ่อนแอ ป่วย และพิการ พวกเขาไม่มีพละกำลังที่จะต่อสู้กับทหารม้าทมิฬได้ และยัง...

เจ๋อเจ๋ออยู่ที่นี่

ถึงจะอยากทำเพื่อเจ๋อเจ๋อ คนเหล่านี้ก็ไม่กล้าต่อต้าน

เจ๋อเจ๋อในเวลานี้ มีความเป็นผู้นำตัวน้อย เขายืนอยู่ด้านหน้าของทุกคน ร่างเล็ก ๆ ของเขาตั้งตรง เมื่อเขาเห็นเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินเข้ามา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

เมื่อมองขึ้นไป เขาเห็นโต้วโต้วที่ลากชวีซีฮวาเข้ามาด้วย ดวงตาของเจ๋อเจ๋อเบิกกว้างทันที จากนั้นเขาก็ดูสงบลง โดยยืนอยู่จุดเดิมด้วยสีหน้าไม่แสดงอาการใด ๆ แต่มือเล็กๆ ของเขาก็กำหมัดแน่น ราวกับกำลังพยายามอดทนอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ