นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1169

หลังจากออกมาจากลัทธิมารแล้ว เฟิ่งชิงเฉินและโต้วโต้วฉลาดพอที่จะไม่ไปถามว่าด้านในกล่องไม้มีอะไร เสด็จอาเก้าถึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการโจมตีลัทธิมารเช่นนี้

ทุกคนยังคงนิ่งเงียบ และเสด็จเอาเก้าก็ไม่คิดที่จะพูดถึงมัน ราวกับว่าไม่เคยมีกล่องไม้กล่องอยู่เลย

หลังจากเดินออกมาจากอานาเขตห้องโถงของลัทธิมารแล้ว ทหารม้าทมิฬก็หายตัวไป โต้วโต้วก็แสดงท่าทีเสียดาย และอยากจะติดตามทหารม้าทมิฬไป

สำหรับทรัพย์สินที่ถูกขนมาจากลัทธิมาร และแน่นอนทหารม้าทมิฬได้นำกลับไปด้วย มีเพียงยาไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้เพื่อเป็นการชดเชยให้กับท่านปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี

แม้ว่าท่านปรมาจารย์จะไม่พอใจ แต่เมื่อเห็นท่าทางเงียบขรึมของเสด็จอาเก้า เขาก็ไม่กล้าพูดมากกว่านี้ ทำได้แค่รายงานให้เสด็จอาเก้ารับทราบ จากนั้นจึงเดินทางกลับไปที่หุบเขาซวนยีทันที

กัวเป่าจี่ยังต้องการศึกษาวิธีใช้หนอนศพกับท่านปรมาจารย์ และตามคำเชิญของท่านปรมาจารย์ เขาก็ตามไปที่หุบเขาซวนยีด้วย

ชื่อเหลี่ยนสุ่ยในฐานะที่เป็นเงาตามตัวของกัวเป่าจี่ ถึงแม้ว่าเขาไม่ค่อยเต็มใจ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะไปเยี่ยมชมหุบเขาซวนยีด้วย

ก็เป็นไปตามนั้น สมาชิกกลุ่มของพวกเขาต่างแยกตัวออกไปเกือบครึ่ง เมื่อท่านอาจารย์ของโต้วโต้วเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ และรู้สึกว่าไม่มีเหตุผลที่เขาจะอยู่ต่อ หากเขาจงใจอยู่ที่นี่ต่ออาจยิ่งทำให้คนอื่นสงสัยได้ เมื่ออธิบายและบอกลากับโต้วโต้วเป็นการส่วนตัวแล้วก็ลาจากไปอีกคน

เสด็จอาเก้าก็ไม่คิดรั้งเขาไว้ แต่เขามองดูอาจารย์ของโต้วโต้วด้วยสายตายากที่จะเดาได้ ซึ่งทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกแปลก ๆ แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้พูดอะไรมาก

อาจารย์โต้วโต้วเป็นเพียงแขกที่ผ่านมาเท่านั้น ทางที่พวกเขาต้องเดินทางยังอีกยาวไกล สำหรับหนทางต่อจากไป จะเหลือเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินและโต้วโต้วเพียงสามคนเท่านั้น

เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินดีหน่อย พวกเขาสองคนไม่ใช่คนช่างพูด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยากคุย พวกเขาก็มีคนคุยด้วย ตลอดการเดินทางก็ไม่ได้น่าเบื่อ

แต่น่าสงสารโต้วโต้ว รอบตัวเขาไม่มีใครให้พูดคุยด้วยเลย ทำให้เขารู้สึกเบื่อถึงกับดึงใบไม้ใบหญ้ามาเล่น บางครั้งก็กระแอมสองสามครั้งเพื่อดึงดูดความสนใจของเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉิน แต่ก็เหมือนก้อนหินที่จมลงทะเล ไร้เสียงตอบกลับใด ๆ

เฟิ่งชิงเฉินและเสด็จอาเก้าสองคนช่างใจร้าย ไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของโต้วโต้วเลย พวกเขามั่วแต่ชุกตัวอยู่แต่ในรถม้า ทำเหมือนโต้วโต้วเป็นคนสัญจรผ่านไปมา และปล่อยให้โต้วโต้วคร่ำครวญไปโดยไม่ส่งเสียงใดๆ

ในวันนี้ ขณะที่โต้วโต้วร้องตะโกนเสียงดังอยู่ข้างนอก เฟิ่งชิงเฉินและเสด็จอาเก้ากำลังรับฟังรายงานจากผู้คุ้มกันอยู่

มีข้อความระบุไว้บรรทัดแรกว่าในวันที่สามหลังจากที่พวกเขาจากไป ชวีซีฮวาก็เสียชีวิตด้วยยาพิษ และเจ๋อเจ๋อก็กลายเป็นผู้นำคนใหม่ของลัทธิมารในวัยหกขวบ วันแรกที่ขึ้นเป็นผู้นำก็สั่งฆ่าคนที่ไม่พอใจไปสิบหกคนในวันเดียวกันนั้น

เมื่อได้รับข่าวนี้ เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินไม่รู้สึกแปลกใจ ชวีซีฮวาสามารถอยู่รอดได้สามวันนับว่าไม่เลว แต่เจ๋อเจ๋อ เขาไม่ใช่คนที่มีเมตตาความกรุณาหรือใจอ่อน เจ๋อเจ๋อจะยอมจำนนต่อคนที่แข็งแกร่งกว่าตัวเขาเองเท่านั้น เช่นเสด็จอาเก้า

หลังจากที่เจ๋อเจ๋อขึ้นเป็นผู้นำ สิ่งแรกที่เขาทำคือจัดการทรัพย์สินของลัทธิมาร และพาผู้คนที่เหลือไปอยู่อย่างสันโดษ

แม้แต่คนของเสด็จอาเก้าก็ยังไม่รู้ว่าพวกเขาย้ายไปอยู่ที่ไหน

“มีสถานที่ซ่อนหลายแห่งเพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติ อย่างที่คิดไว้ลัทธิมารนั้นมีทางหนีทีไล่ไว้จริงๆ” เสด็จอาเก้าไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้

ลัทธิมารนั้นเป็นศัตรูของเหล่ายุทธจักร พวกเขากลัวตาย และมีศัตรูมากมาย แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ให้ตัวเอง

“นี่คือเหตุผลที่ท่านไม่ฆ่าพวกเขาทั้งหมดใช่หรือไม่?” เพราะสงสัยว่าพวกลัทธิมารยังคงมีความสามารถอีกหนึ่งอย่างซ่อนอยู่ ดังนั้นถึงได้ไม่ทำร้ายคนเหล่านี้ใช่ไหม?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ