นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1187

น้ำเกลือหมดไปขวดแล้วขวดเล่า ร่างกายของโต้วโต้วยังคงสกปรกเช่นเคย แต่มือของเฟิ่งชิงเฉินกลับอ่อนระทวย

มันน่าช่างน่าเสียดายจริง ๆ นี่มันใช้หมดไปขวดต่อขวดเลยนะ

แต่จะไม่ใช้ก็ไม่ได้ เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็ต้องปฏิบัติต่อโต้วโต้วเหมือนกับมนุษย์คนหนึ่ง

หลังจากสิ้นเปลืองน้ำเกลือไปมากกว่าสิบขวด ในที่สุดเฟิ่งชิงเฉินก็ทำให้โต้วโต้วกลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง จากนั้นนางก็ค่อย ๆ หันไปมองเสด็จอาเก้า

ลงมือได้เลย!

เสด็จอาเก้าใช้ความคิดกับเรื่องนี้อยู่นาน เขาไม่ยอมลงมือสักที สุดท้ายเขาถามออกมาว่า “ทำให้เขาฟื้นขึ้นมาได้หรือไม่”

เมื่อฟื้นขึ้นมาแล้ว ต่อให้คลานโต้วโต้วก็ต้องคลานกลับไป ด้วยสภาพเช่นนี้ของโต้วโต้ว อย่าพูดถึงโรครักความสะอาดเลย ต่อให้ไม่ชอบความสะอาดเขาก็ไม่อยากที่จะแตะต้องโต้วโต้ว

แม้ว่าโต้วโต้วจะกลับมาเป็นผู้เป็นคนแล้ว แต่กลิ่นบนร่างกายของเขาก็ยังคงอยู่

“เรื่องนี้......”

สุดท้ายเสด็จอาเก้าก็ยอมลากโต้วโต้วกลับไป เรื่องจากเฟิ่งชิงเฉินบอกว่าโต้วโต้วไม่มีทางฟื้นขึ้นมาในช่วงระยะเวลาอันสั้น

เสด็จอาเก้าไม่มีทางเลือก อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีทางปล่อยให้เฟิ่งชิงเฉินเป็นคนลากโต้วโต้วกลับไปได้

ระงับความรังเกียจในหัวใจ เสด็จอาเก้าลากโต้วโต้วกลับไปยังที่พักชั่วคราวของพวกเขา จากนั้นเฟิ่งชิงเฉินก็ทำการตรวจร่างกายของโต้วโต้วต่อไป

ต้องบอกเลยว่าโต้วโต้วโชคดียิ่งนัก ร่างกายที่ฟกช้ำจนกลายเป็นสีดำของเขา มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออวัยวะภายในเลยแม้แต่น้อย มันเป็นเพียงแค่บาดแผลภายนอกเท่านั้น

เฟิ่งชิงเฉินใช้ยาแก้อักเสบและแก้บวมให้กับโต้วโต้ว จากนั้นก็ทิ้งโต้วโต้วไว้ด้านข้างโดยไม่สนใจเขา

โต้วโต้วนี่มันตัวสร้างปัญหาอย่างแท้จริง!

“เวลานี้พวกเราควรทำเช่นไร?” เฟิ่งชิงเฉินชำเลืองมองไปที่โต้วโต้วซึ่งกำลังนอนหมดสติอยู่บนพื้นและถามออกมา

จริงอยู่ว่าพลังในการฟื้นฟูของโต้วโต้วนั้นแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป แต่ไม่ว่าพลังแห่งการฟื้นฟูของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถทนต่อบาดแผลที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้

“อีกนานแค่ไหนกว่าเขาจะฟื้น?” ความโกรธของเสด็จอาเก้าพุ่งขึ้นถึงขีดสุดแล้ว โชคดีที่โต้วโต้วหมดสติและยังไม่ฟื้นขึ้นมา หากโต้วโต้วฟื้นขึ้นมา เสด็จอาเก้าคงเตะโต้วโต้วจนสลบกลับไปอีกครั้ง

ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ เขาไม่เคยเจอใครที่เป็นตัวปัญหาเหมือนกับโต้วโต้วผู้นี้มาก่อน

“เร็วที่สุดก็สามชั่วโมง หากช้าที่สุดก็......น่าจะพรุ่งนี้” อาการป่วยของก่อนหน้านี้รวมกับอาการป่วยในเวลานี้ มันช่างเป็นเรื่องราวอันเลวร้าย เฟิ่งชิงเฉินเกรงว่าโต้วโต้วจะมีไข้ขึ้นสูงอีกครั้ง

“หากจะออกไปจากที่นี่จริง ๆ เกรงว่าคงต้องแบกเขาออกไป” เฟิ่งชิงเฉินแอบครุ่นคิดอยู่ในใจ “แน่นอน คนที่แบกก็ต้องเป็นเสด็จอาเก้า”

เสด็จอาเก้าสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็หลับตาลง ในตอนที่เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความนิ่งสงบ ความโกรธหายไปจนหมดสิ้น “เช่นนั้นก็รออีกวัน”

เฟิ่งชิงเฉินแอบชื่นชมในหัวใจ เสด็จอาเก้าช่างเป็นคนที่มีจิตใจแข็งแกร่งยิ่งนัก

“รออีกวันก็ดี ที่นี่เป็นดินแดนของฝูงหมาป่า ดูจากหมาป่าที่หิวโหยจนกัดกินร่างเพื่อนในฝูงของตัวเอง เห็นได้ชัดว่ารอบ ๆ คงไม่มีสัตว์ร้ายอื่นใดอาศัยอยู่ การที่พวกเราอาศัยอยู่ที่นี่ก็ถือเป็นเรื่องปลอดภัย” นี่ถือเป็นประโยคที่มีไว้เพื่อปลอบโยนตัวเองเช่นกัน

ต่อให้ที่นี่ปลอดภัยมากแค่ไหน พวกเขาก็ไม่มีเวลามากพอที่จะมาทิ้งไว้ที่นี่ พวกเขาไม่ได้มาเที่ยวเล่น พวกเขามาเพื่อฆ่าคน

สองวันผ่านไป ไม่รู้ว่าซีหลิงเทียนเหล่ย หนานหลิงจิ่นสิงและตงหลิงจื่อลั่วเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งสามฝ่ายต่อสู้กัน ซีหลิงยังคงต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้อันดุเดือดอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ไม่แน่ว่าอีกไม่กี่วันซีหลิงเทียนเหล่ยอาจจะถูกโจมตีจะล่าถอยกลับมายังป่าควันพิษ หากเวลานั้นพวกเขาไม่พบร่องรอยของซีหลิงเทียนเหล่ย ปล่อยให้ซีหลิงเทียนเหล่ยหนีไปได้ เช่นนั้นจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่

เมื่อนึกถึงจุดนี้ เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก

โต้วโต้ว......เจ้าช่างเป็นตัวปัญหาจริง ๆ

เนื่องจากโต้วโต้วได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินจึงทำได้เพียงพักรอและอาศัยอยู่ที่เดิม ไม่สามารถเดินทางต่อไปเพื่อหาร่องรอยสถานที่พักตั้งค่ายก่อนหน้านี้ของซีหลิงเทียนเหล่ยได้ จึงไม่ต้องพูดถึงการหาสถานที่สุ่มโจมตี

แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะผิดไปจากแผนที่พวกเขาวางไว้ แต่เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ใช่คนที่จะโกรธหรือใช้อารมณ์ในการตัดสินใจเมื่อพบเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทั้งสองใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยกันเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ศึกในครั้งนี้ซีหลิงเทียนเหล่ยจะต้องตายสถานเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ