ในขณะที่กำลังพูดคุยกัน ซีหลิงเทียนเหล่ยก็เดินเข้ามาพร้อมกับคนสนิทของเขา จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เสด็จอาเก้าจะไม่ตอบคำถามของโต้วโต้ว
ราชาจอมทัพ!
หากเอาคำว่า “โอวหยาง” แซ่นี้ออกไป แล้วเปลี่ยนเป็น “เฟิ่งหลี” มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เฟิ่งหลีได้เป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงมากมาย ว่ากันว่าในเชื่อสายตระกูลของเฟิ่งหลีนั้นมีความสามารถสายตรงของนายพล
แน่นอนว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่มาคิดเรื่องพวกนี้ พวกของซีหลิงเทียนเหล่ยมาแล้ว มันคือเวลาที่ควรคิดว่าจะสังหารพวกเขาอย่างไร
“โต้วโต้ว เข้าไปสังเกตสถานการณ์ของพวกเข้าใกล้ ๆ” ป่าควันพิษนั้นมองเห็นได้ยาก ต่อให้พลังในการมองเห็นของเสด็จอาเก้านั้นยอดเยี่ยมแค่ไหน แต่ในระยะที่ไกลขนาดนี้ เขาก็เห็นแค่เพียงเงาของคนพวกนั้น แต่ไม่อาจมองเห็นสถานการณ์ทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
โต้วโต้วยังหมกมุ่นอยู่กับเรื่องของราชาจอมทัพ แต่เมื่อถูกเสด็จอาเก้ามองด้วยสายตา เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เขาลากสังขารของเขาไปอย่างเชื่อฟัง เข้าไปด้านหน้าเพื่อเฝ้ามองสถานการณ์ของฝ่ายตรงข้าม
ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เขาเป็นมือสังหาร และคุ้นเคยกับการทำเรื่องพวกนี้
แม้ว่าโต้วโต้วจะพึ่งพาไม่ได้ แต่เขาก็มีความสามารถอยู่ไม่น้อย ไม่นานเขาก็กลับมา “ข้างกายของซีหลิงเทียนเหล่ยมีคนสนิทอยู่ห้าคน มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีวรยุทธ์ คนอื่น ๆ เป็นเพียงแค่ยอดฝีมือทั่วไป ทั้งหกคนอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช เกรงว่าหลายวันที่ผ่านมาคงพบเจอกับความยากลำบากมาไม่น้อย”
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งหลุมพรางในป่าควันพิษ สถานที่แห่งนี้ไม่มีอาหาร หากไม่นำอาหารเข้ามาด้วยก็ทำได้เพียงหิวโซ สิ่งของที่อยู่ในนี้ไม่มีสิ่งใดที่สามารถกินได้อยู่เลย
เสด็จอาเก้าได้ยินเสียงของโต้วโต้ว ความเยือกเย็นฉายออกมาจากดวงตาของเขา เขาลุกขึ้นพร้อมสะบัดแขนเสื้อ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ออกไปเจอกับองค์รัชทายาทเหล่ยกันหน่อยเถอะ”
ใช้ประโยชน์จากความเจ็บป่วยของเจ้าเพื่อสังหารเจ้า ในเมื่อซีหลิงเทียนเหล่ยทั้งหิ้วทั้งเหนื่อย เช่นนั้นพวกเขาจะต้องรออะไร พวกเขาควรจัดการกับซีหลิงเทียนเหล่ยให้เร็วที่สุด เขาถึงจะ “รอด” กลับมาได้ ต้องรู้ก่อนว่าเวลานี้เขาเป็นมนุษย์
เฟิ่งชิงเฉินเองก็ลุกขึ้นยืน “ไม่ได้เจอกันนาน ชิงเฉินเองก็ระลึกถึงบุญคุณขององค์รัชทายาทเหล่ยเช่นกัน”
หากในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินพูดออกมา จิตสังหารบนใบหน้าของนางลดลงสักเล็กน้อย บางทีมันอาจจะดูน่าเชื่อถือมากกว่านี้
โต้วโต้วถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว เขารับรู้อยู่ในหัวใจ เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่คนที่เขาสามารถเข้าไปยุ่งวุ่นวายได้ พวกเขาทั้งสองช่างน่ากลัวยิ่งนัก
เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังต้องการเอาชีวิตของซีหลิงเทียนเหล่ย แต่พวกเขากลับพูดออกมาด้วยคำพูดอันหอมหวาน
มันช่างโหดร้ายยิ่งนัก
โต้วโต้วรักษาระยะห่างไว้ประมาณสามก้าว เดินตามไปด้านหลังของเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตนเองหลงทาง
ซีหลิงเทียนเหล่ยและไป๋หลี่อู๋หยานหลงทางในป่าควันพิษ แม้ว่าจะไม่พบเจอกับอันตราย แต่ในมือของพวกเขาก็ไร้ซึ่งอาหารและน้ำ สามวันที่ผ่านพวกเขาฆ่าม้าศึกของตัวเอง กินเนื้อม้าพวกนั้น ดื่มเลือดม้าเพื่อประทังชีวิต ถึงสามารถมีชีวิตรอดมาถึงตอนนี้ได้ ตอนนี้พวกเขาทั้งเหนื่อยทั้งหิว กำลังเตรียมนำอาหารและน้ำที่เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ออกมา แต่คิดไม่ถึงว่า......
“เสด็จ เสด็จอาเก้า?” ท่าทางของซีหลิงเทียนเหล่ยในตอนนั้นเหมือนกับคนที่เห็นผีไม่มีผิด เขาเดินเซไปสองสามก้าว จากนั้นก็ล้มลงพื้น
ในสายตาของซีหลิงเทียนเหล่ย นี่มันเหมือนเป็นการเจอวิญญาณหลอกหลอน เสด็จอาเก้า “ตาย” ไปแล้ว แต่กลับมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ มันหมายความว่าอย่างไร
หมอกในป่าควันพิษปกคลุมไปทั่วใบหน้าของเสด็จอาเก้า ประกอบกับรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเขา ทำให้ซีหลิงเทียนเหล่ยรู้สึกสงสัยว่าตนเองกำลังเห็นผี
โชคดีที่ไป๋หลี่อู๋หยานยังนิ่งสงบ ตอบสนองได้อย่างทันท่วงที ลากตัวของซีหลิงเทียนเหล่ยออกมาก่อน ปกป้องไว้ด้านหลังของเขา ชักดาบออกมาด้านหน้า “เสด็จอาเก้า ได้โปรดหยุดแต่เพียงเท่านี้”
“ปัง......” โต้วโต้วไม่สนใจดาบในมือของไป๋หลี่อู๋หยาน พุ่งเข้าไปตบบ้องหูของเขา จากนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่งสอน “นายท่านของข้ากำลังคุยกับเจ้านายของพวกเจ้า เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครถึงกล้าสอดปากเข้ามายุ่ง”
ด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่แสดงออกไป มันคือท่าทางขององครักษ์ของราชาผู้หยิ่งผยอง เฟิ่งชิงเฉินระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ในตอนนั้นซีหลิงเทียนเหล่ยถึงสังเกตเห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินก็อยู่ที่นั่นด้วย
“เฟิ่งชิงเฉิน คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเจ้าจะยังไม่ตาย?” ตอนแรกคิดว่าเสด็จอาเก้าน่าจะตายไปก่อน ซีหลิงเทียนเหล่ยจึงใช้ความคิดนี้ในการปลอบใจตัวเอง ถือว่าตนเองไม่ใช่ผู้พ่ายแพ้ไปเสียทีเดียว แต่เวลานี้?
“น่าเสียดายที่มันไม่ได้เป็นไปตามความปรารถนาของฝ่าบาท” เฟิ่งชิงเฉินยิ้มออกมาพร้อมกับทำความเคารพซีหลิงเทียนเหล่ยอย่างสุภาพ “ไม่เจอฝ่าบาทมานาน ฝ่าบาทช่างสง่างามยิ่งนัก”
นี่คือการเย้ยหยันที่รุนแรง ร่างกายของซีหลิงเทียนเหล่ยทั้งสกปรกและเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็น ประกอบกับความพ่ายแพ้ที่ได้รับ เขาในตอนนี้อยู่ในสภาพเสื่อมโทรม นี่คือการเย้ยหยันอย่างแท้จริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...