นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1190

ตุบ......

หมัดของเสด็จอาเก้าเต็มไปด้วยพลัง ทำให้หน้าผากของซีหลิงเทียนเหล่ยบิดเบี้ยว และไม่สามารถพูดออกมาได้อีกต่อไป

ซีหลิงเทียนเหล่ยล้มลงพื้นและพูดไม่ออก แต่มันก็ไม่สามารถขัดขวางสายตาที่น่ารังเกียจที่เขาจ้องมองไปยังเฟิ่งชิงเฉินได้

เขาไม่เชื่อว่าคำพูดที่เขาพูดออกไปเมื่อครู่ไม่อาจทำให้เสด็จอาเก้าสั่นคลอนได้ ขอแค่เสด็จอาเก้ายังมีความปรารถนาต่อเฟิ่งชิงเฉิน เช่นนั้นชะตากรรมของเฟิ่งชิงเฉินก็เป็นสิ่งที่สามารถทำนายได้เช่นกัน

เวลานี้เขาไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะสังหารเสด็จอาเก้า แต่เขาเสามารถทำลายเฟิ่งชิงเฉินด้วยคำพูดของเขาได้

ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เฟิ่งชิงเฉินยังคงไม่พูดอะไรออกมา นางยืนอยู่ตรงนั้นด้วยแววตาที่เยือกเย็น

ทุกอย่างที่ซีหลิงเทียนเหล่ยพูดออกมานั้นเป็นความจริง มันเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว นางไม่สามารถตอบโต้และปฏิเสธได้ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่เสด็จอาเก้ารู้ตั้งแต่แรกแล้ว หากเสด็จอาเก้าไม่เต็มใจ พวกเขาก็ไม่มีทางมีวันนี้

ปากของซีหลิงเทียนเหล่ยยังคงปิด ๆ เปิด ๆ เหมือนว่าอยากพูดอะไรออกมาอีก แต่เสด็จอาเก้าไม่เปิดโอกาสให้เขา ในตอนที่ซีหลิงเทียนเหล่ยล้มลงพื้น เสด็จอาเก้าคุกเข่าลงข้างกายของเขา ใช้มือข้างหนึ่งจับไปที่ลำคอ จากนั้นก็ยกร่างของเขาขึ้นมา

ซีหลิงเทียนเหล่ยไม่รู้ว่าเสด็จอาเก้าต้องการจะทำอะไร แต่เขารู้ว่าเสด็จอาเก้าไม่มีวันปล่อยเขา และเขาก็ไม่ดิ้นรน เผชิญหน้ากับสายตาของเสด็จอาเก้า จ้องมองเสด็จอาเก้าด้วยสายตาที่ไม่เกรงกลัว

แม้ว่าคนอย่างเขาซีหลิงเทียนเหล่ยจะเกรงกลัวต่อความตาย แต่ก็ไม่มีวันอ้อนวอนอีกฝ่ายเพื่อร้องขอชีวิต

แต่คิดไม่ถึงว่าเสด็จอาเก้าจะไม่มีทีท่าว่าจะสังหารเขาเลย แต่กลับเข้ามากระซิบข้างหูของเขา “ซีหลิงเทียนเหล่ย เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าทำอะไรผิด?”

คือ?

ซีหลิงเทียนเหล่ยมองไปที่เสด็จอาเก้าด้วยท่าทีแปลก ๆ เสด็จอาเก้าไม่ได้ต้องการสังหารเขา แต่กลับพูดกับเขาเช่นนี้ มันหมายความว่าอย่างไร?

เสด็จอาเก้าไม่ได้คาดหวังในคำตอบของเสด็จอาเก้า เขาพูดออกมาด้วยตัวเอง “ซีหลิงเทียนเหล่ย ข้าจะบอกเจ้าให้รู้เอาไว้ เจ้าได้พลาดสมบัติอันล้ำค่าที่สุดในชีวิตไป......”

เขาต้องการให้ซีหลิงเทียนเหล่ยตาย และตายไปพร้อมกับความเสียใจ

“ซีหลิงเทียนเหล่ย เจ้ารู้หรือไม่ว่าเฟิ่งชิงเฉินมีชาติกำเนิดมาจากตระกูลลู่แห่งโจรสลัดในท้องทะเล และพ่อของนางก็อยู่ในตระกูลเฟิ่งหลี” เสด็จอาเก้าเน้นคำที่ว่า “เฟิ่งหลี” อย่างชัดเจน ในฐานะองค์รัชทายาทแห่งซีหลิง ซีหลิงเทียนเหล่ยเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเฟิ่งหลีนั้นหมายถึงอะไร

เป็นไปไม่ได้!

ดวงตาของซีหลิงเทียนเหล่ยเบิกกว้างขึ้นมาทันใด

หากเป็นเช่นนี้ก็แสดงว่าเฟิ่งชิงเฉินนั้นเป็น......

“ใช่ เฟิ่งชิงเฉินก็คือลูกสาวโดยชอบธรรมของตระกูลเฟิ่งหลี เวลานี้เจ้ารู้แล้วใช่หรือไม่ว่าเจ้าพลาดอะไรไป” เสด็จอาเก้ากล่าวออกมาด้วยหัวใจอันเลวร้าย เป็นไปอย่างที่คิด เขาเห็นความเสียใจปรากฏออกมาจากแววตาของซีหลิงเทียนเหล่ย

ไม่ เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้

เวลานี้ซีหลิงเทียนเหล่ยไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เขาเพียงส่ายหน้าเพื่อที่จะปฏิเสธมัน

เฟิ่งชิงเฉินจะเป็นลูกสาวโดยชอบธรรมของตระกูลเฟิ่งหลีได้อย่างไร เรื่องนี้มันจะเป็นไปได้อย่างไร......เขาพลาดโอกาสที่ดีถึงเพียงนี้เลยอย่างนั้นหรือ บ้าที่สุด

หากวันนั้น หากวันนั้นเขาได้ครอบครองความบริสุทธิ์ของเฟิ่งชิงเฉิน นั่นก็เท่ากับความเขาจะต้องรับการสนับสนุนจากตระกูลเฟิ่งหลีใช่ไหม?

เสียใจ เวลานี้ซีหลิงเทียนเหล่ยรู้สึกเสียใจจนอยากตาย

เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่ไกล เสียงของเสด็จอาเก้าแผ่วเบา แน่นอนว่านางไม่ได้ยินในสิ่งที่เสด็จอาเก้าพูด เมื่อเห็นสายตาของซีหลิงเทียนเหล่ยที่จ้องมองมาหานาง มันก็ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

เสด็จอาเก้ายังคงไม่ปล่อยซีหลิงเทียนเหล่ยให้หลุดมือไป หลังจากพูดเรื่องราวของเฟิ่งชิงเฉิน เขาก็กระซิบข้างหูของซีหลิงเทียนเหล่ยอีกว่า “ลืมบอกองค์รัชทายาทเหล่ยไปเลย ตัวข้านั้นแซ่หลาน มีชื่อว่า จิ่วชิง”

ตู้ม......

ประโยคนี้เป็นประโยคสุดท้ายที่ตอกร่างของซีหลิงเทียนเหล่ยลงสู่ฝาโลง เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ซีหลิงเทียนเหล่ยตกอยู่ในความตะลึงงัน ดวงตาของเขาเบิกกว้างไม่สามารถขยับไปไหนได้

เยี่ยมมาก นี่คือผลลัพธ์ที่เขาต้องการ

องค์รัชทายาทเหล่ย เจ้าจงลิ้มรสกับความเสียใจเสียเถิด!

เสด็จอาเก้าเก็บสายตาของเขากลับมาอย่างพึงพอใจ ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางอันเยือกเย็น น้ำผ้าออกมาหนึ่งผืน เช็ดมือตนเอง เมื่อหันไปเห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้เคลื่อนไหว เสด็จอาเก้าจึงกล่าวออกมาว่า “ชิงเฉิน เจ้าอยากจะสังหารเขาด้วยมือของตัวเองไม่ใช่หรือ ได้เวลาแล้ว”

“เขาเป็นอะไรไปอย่างนั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินก้าวออกมาด้านหน้า ชี้ไปที่ซีหลิงเทียนเหล่ยที่เหมือนกับสุนัขจนตรอก ร่องรอยแห่งความสับสนปรากฏออกมาจากแววตาของนาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ