ตระกูลชุย ตระกูลเซี่ย และตระกูลหวัง ทั้งสามตระกูลได้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในราชสำนักยามเช้า แม้แต่......สายลับของพวกเขาที่อยู่ในพระราชวังก็รู้เรื่องที่องค์รัชทายาทเข้าไปกล่าวอำลา ถอนตัวเองออกจากตำแหน่งองค์รัชทายาท เพื่อปล่อยให้ผู้ที่เหมาะสมขึ้นมาแทนที่
ตอนนี้ทั้งสามตระกูลร้อนรนเป็นอย่างมาก ข่าวการเข้าอำลากระจายออกมา ไม่ว่าใครก็ไม่มีเวลาไปสนใจ “เรื่องเล็ก ๆ” ของเสด็จอาเก้า เมื่อเทียบกับตำแหน่งองค์รัชทายาท คนที่ตายไปเพียงไม่กี่คนเหล่านั้นมันไม่สำคัญเลยด้วยซ้ำ
ในตำหนักหลักของตระกูลหวัง เหล่าผู้อาวุโสและผู้ดูแลต่างจ้องมองมาที่หวังจิ่นหลิง พวกเขากำลังรอให้หวังจิ่นหลิงตัดสินใจ
ครั้งนี้ตระกูลหวังสูญเสียเป็นอย่างมาก คนกลุ่มหนึ่งต้องสูญเสียด้วยเนื้อมือของเสด็จอาเก้าอย่างไร้เหตุผล หากตระกูลหวังไม่แสดงท่าทีหรือชดใช้บางสิ่งบางอย่าง เกรงว่าหลังจากนี้ตระกูลหวังคนไร้ที่ยืน และคนอื่น ๆ จะมองตระกูลหวังอย่างไร
คนในตระกูลหวังต่างกล่าวว่า จำเป็นต้องโจมตีเสด็จอาเก้าอย่างรุนแรงสักครั้ง ทำให้เสด็จอาเก้าได้รู้ว่าตระกูลหวังของพวกเขาไม่ได้อ่อนแอและถูกกลั่นแกล้งได้ง่ายถึงเพียงนี้ แต่ความคิดนี้ถูกหวังจิ่นหลิงปัดทิ้งไป และเหตุผลก็คือ......
ให้ดูสถานการณ์ไปก่อน เรื่องแก้แค้นยังไม่จำเป็นต้องรีบร้อน
รอจนกระทั่งผ่านไปแล้วสามวัน รอจนจักรพรรดิไม่อาจทำอะไรเสด็จอาเก้าได้ รอองค์รัชทายาทสละตำแหน่ง
“นายท่าน ท่านจะต้องรีบตัดสินใจ อย่าปล่อยให้คนอื่นดูถูกตระกูลหวังเช่นนี้” เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลหวัง แม้ว่าจะเคารพในตัวของหวังจิ่นหลิงเป็นอย่างมาก แต่เรื่องนี้นั้นเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของตระกูล มีชื่อเสียงของตระกูลเป็นเดิมพัน พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้หวังจิ่นหลิงทำตามใจของตัวเองได้
ความรุ่งโรจน์ของตระกูลนั้นยิ่งใหญ่กว่าท้องฟ้า สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด
“ข้าเองก็อยากสวนกลับเสด็จอาเก้าอย่างรุนแรงเช่นกัน แต่เจ้าคิดว่าควรลงมือจากตรงไหน? ความแข็งแกร่งในพระราชวังของเสด็จอาเก้าลดลงไปแล้วครึ่งหนึ่ง คนสนิทที่ไว้ใจของเขาถูกสังหารไปมากมาย ถูกกวาดล้างแทบสิ้นซาก รอบตัวของเขาไม่มีช่องว่างให้พวกเราโจมตี และที่เสด็จอาเก้ากล้าโจมตีใส่พวกเรา นั่นเป็นเพราะว่าเขาเองก็สูญเสียมามากพอแล้ว เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แต่พวกเราไม่อาจทำเช่นนั้นได้” ตระกูลหวังเป็นตระกูลอันยิ่งใหญ่ มีกิ่งก้านสาขาอยู่มากมาย นี่คือความภาคภูมิใจของตระกูลหวัง ความแข็งแกร่งของตระกูลหวัง มันก็เป็นเหมือนกับความอ่อนแอของตระกูลหวังเช่นเดียวกัน
“เช่นนั้นจะทำอย่างไร? เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิไม่อาจทำอะไรเสด็จอาเก้าได้ เวลานี้......องค์รัชทายาทได้สละตำแหน่งของตนเองไปแล้ว ลั่วอ๋องและโจวอ๋องเองก็เอาแต่ยุ่งกับเรื่องการแย่งชิงตำแหน่งผู้สืบทอดคนถัดไป พวกเขาไม่มีเวลามาสนใจเสด็จอาเก้า หรือว่าจะปล่อยให้คนของพวกเราจากไปอย่างไร้ประโยชน์เช่นนี้?” การลงมือครั้งนี้ของเสด็จอาเก้าเป็นเหมือนการตบหน้าตระกูลหวัง แต่นอนว่าคนตระกูลหวังไม่มีทางยอมกล้ำกลืนความโกรธในครั้งนี้เป็นแน่
ตระกูลหวังของพวกเขาปฏิบัติตามกฎหมายมาโดยตลอด เสด็จอาเก้าถูกโจมตีแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเขา ต่อให้เสด็จอาเก้าตาย พวกเขาก็ไม่ได้ประโยชน์อันใด สำหรับตระกูลหวังอย่างพวกเขาแล้ว ใครจะได้เป็นจักรพรรดิต่างไม่สำคัญ พวกเขาไม่มีทางยื่นมือเข้าไปแทรกแซงเกี่ยวกับตำแหน่งของจักรพรรดิ พวกเขาตระกูลหวังเพียงแค่ภักดีกับผู้ได้ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งนั้น ไม่เห็นต้องสนใจว่าผู้ที่ขึ้นมาจะเป็นใคร
“เหล่าผู้อาวุโสไม่จำเป็นต้องโกรธ ข้ารู้ว่าพวกท่านกำลังทำเพื่อตระกูลหวัง ตระกูลหวังของพวกเราสืบทอดกันมาผ่านบทกวี เรื่องการฆ่าฟันขอให้กล่าวถึงให้น้อยที่สุดจะดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เป็นผลร้ายต่อผู้สืบทอดรุ่นถัดไป” หวังจิ่นหลิงเพิกเฉยต่อความโกรธของเหล่าผู้อาวุโสและญาติพี่น้องของตนเอง เขากล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา
เมื่อเขากล่าวออกมาเช่นนี้ ใบหน้าของแต่ละคนก็กลายเป็นสีแดง
พวกเขาต่างคิดว่าตนเองเป็นผู้ผดุงความยุติธรรม แต่คำพูดคำจาของพวกเขาไม่ต่างอะไรกับโจร การที่พวกเขาทำเช่นนี้มันต่างอะไรกับสิ่งที่เสด็จอาเก้าทำลงไป
“เช่นนั้นพวกเราต้องทำเช่นไร?” ทุกคนมองมาที่หวังจิ่นหลิง แม้ว่าหวังจิ่นหลิงยังอายุน้อย แต่เขาก็เป็นหัวใจสำคัญ เป็นผู้นำของตระกูลหวัง โดยเฉพาะหลังจากเหตุการณ์ที่หวังจิ่นหลิงปราบปรามความวุ่นวายในเหตุการณ์นองเลือดของตระกูลหวัง ก็ไม่มีผู้ใดในตระกูลหวังไม่ยอมรับเขา
“จะเอาแต่ฆ่าฟันไม่ได้ ต้องเปลี่ยนวิธีการ ก่อนหน้านี้จักรพรรดิให้ตระกูลหวังของพวกเราส่งบุตรสาวของตระกูลหวังไปยังจวนชุนอ๋องเพื่อแต่งตั้งเป็นพระสนมไม่ใช่หรือ แต่ตระกูลหวังของพวกเราไม่มีผู้หญิงที่ได้กลายเป็นประชายา อย่าว่าแต่พระชายาเลย แม้จะมีผู้หญิงจากตระกูลหวังได้รับการแต่งงานเข้าไป แต่ผู้หญิงเหล่านั้นก็ได้แต่แต่งงานเข้าไปในครอบครัวเล็ก ๆ ไม่มีทางกลายเป็นพระสนมผู้ยิ่งใหญ่” เมื่อพูดถึงเรื่องพวกนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของเหล่าผู้อาวุโสและญาติผู้ใหญ่ของเขา หากไม่ใช่เพราะพวกเขาตกลงเรื่องการแต่งงานกับตระกูลชุย จักรพรรดิจะบีบบังคับให้ตระกูลหวังของพวกเขาส่งลูกหลานของตระกูลหวังเข้าไปเป็นพระสนมได้อย่างไร
หากพูดว่าเป็นความอับอาย นี่ถึงเป็นความอับอายที่แท้จริงของตระกูลหวัง หากตระกูลหวังส่งไปตามคำขอ เช่นนั้นพวกเขาก็จะต้องอับอายต่อผู้คนในใต้หล้า หากไม่ส่งไปตามคำขอ เช่นนั้นก็จะกลายเป็นว่าพวกเขาขัดขืนพระราชโองการ
เมื่อหวังจิ่นหลิงกล่าวออกมาเช่นนี้ ทุกคนก็หุบปากและไม่กล้าพูดอะไรออกมา พวกเขาหลบตา ไม่กล้ามองมาที่หวังจิ่นหลิง
หวังจิ่นหลิงเองก็ไม่ได้โกรธ แค่นี้ก็ถือเป็นการกล่าวตักเตือนที่รุนแรงพอสมควรแล้ว หวังจิ่นหลิงกวาดตามองไปที่ทุกคน เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่มีร่องรอยแห่งการขัดขืนหรือต่อต้านหลงเหลืออยู่แล้ว หวังจิ่นหลิงจึงลุกขึ้นมาและกล่าวว่า “เรื่องนี้ข้าจะเป็นคนไปหาเสด็จอาเก้าด้วยตัวเอง ให้เขาเป็นคนจัดการ ผู้หญิงของตระกูลหวังไม่มีทางยอมเป็นพระสนม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...