นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1206

สรุปบท บทที่ 1206 ไร้ยางอาย, ให้จักรพรรดิเป็นคนตัดสินใจ: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอน บทที่ 1206 ไร้ยางอาย, ให้จักรพรรดิเป็นคนตัดสินใจ จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1206 ไร้ยางอาย, ให้จักรพรรดิเป็นคนตัดสินใจ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หมดลมหายใจแล้ว จักรพรรดิน้อยหมดลมหายใจแล้ว!

ตุบ......สนมเอกเซี่ยรับความเจ็บปวดครั้งนี้ไม่ไหว นางหมดสติไปในทันที

จักรพรรดิได้ยินเช่นนั้นก็รีบวิ่งเข้ามา ถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “องค์ชายแปดเป็นอะไรงั้นหรือ?”

“องค์ชายแปดจากไปแล้ว” หมอหลวงพยายามควบคุมตนเองและกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันสั่นเทา

“จากไปแล้ว? ข้าให้พวกเจ้ารักษาองค์ชายแปดอย่างสุดความสามารถ แต่เจ้ากลับบอกว่าองค์ชายแปดจากไปแล้ว” ความโกรธของจักรพรรดินั้นเป็นของจริง เขาเป็นห่วงเรื่องความเป็นความตายขององค์ชายแปดมาโดยตลอด เรื่องนี้ทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก

จักรพรรดิเป็นอะไรไปงั้นหรือ?

จักรพรรดิโกรธมาก ผลที่ตามมาย่อมรุนแรง เขามองหาว่าเฟิ่งชิงเฉินอยู่ที่ไหน ปรากฏว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้คุกเข่าอยู่ที่นี่ แต่ใช้โอกาสตอนที่ทุกคนไม่สนใจวิ่งเข้าไปข้างเตียงของจักรพรรดิน้อย และสัมผัสลูบคลำไปบนร่างกายของเขา

“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้ากำลังทำอะไร?” จักรพรรดิตะโกนด้วยความโกรธ ความโกรธของเขาระเบิดออกมาแล้ว แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับดูหมิ่นอำนาจของจักรพรรดิ

เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้หันกลับมา แต่เขาพูดออกมาว่า “ฝ่าบาท ตอนนี้ยังสามารถช่วยองค์ชายแปดได้ ฝ่าบาทได้โปรดให้โอกาสข้าสักครั้ง ให้ข้าได้ลองดู”

“ว่าไงนะ? เจ้าบอกว่ายังสามารถช่วยชีวิตองค์ชายแปดได้อย่างนั้นหรือ?” อย่าว่าแต่จักรพรรดิเลย แม้แต่หมอหลวงที่อยู่ตรงนั้นก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

“เพคะ ฝ่าบาท ลมหายใจขององค์ชายแปดอ่อนลงเป็นอย่างมาก แต่หัวใจยังคงเต้นอยู่” นี่เป็นเพียงแค่สภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้อธิบายออกมาชัดเจนถึงเพียงนั้น นางแค่ออกไปจากตรงนั้นเพื่อให้หมอหลวงเข้ามาตรวจสอบเพื่อความแน่ใจ หลังจากหมอหลวงสองคนเข้ามาตรวจสอบ พวกเขาก็พยักหน้าและไม่กล้าพูดอะไรออกมามาก

ลมหายใจขององค์ชายแปดเหมือนจะยังคงอยู่ แต่มันก็ไม่อาจรักษาไว้ได้ แต่ในเมื่อเฟิ่งชิงเฉินบอกว่าช่วยได้ พวกเขาก็จะไม่หักล้าง เนื่องจากหากปล่อยให้เรื่องราวจบลงเช่นนี้ พวกเขาก็ต้องรับโทษอยู่ดี

“ดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะให้โอกาสเจ้า หากเจ้าช่วยองค์ชายแปดได้ ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างงาม แต่หากช่วยเอาไว้ไม่ได้.....” คำพูดหลังจากนั้น จักรพรรดิไม่ได้พูดออกมา แต่ด้วยน้ำเสียงและอารมณ์ของเขา ทุกคนต่างเข้าใจเป็นอย่างดี

หากองค์ชายแปดตายจากไป แน่นอนว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่มีทางรอดเป็นแน่

ในวินาทีนั้น เฟิ่งชิงเฉินเกลียดตนเองที่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้ โรคของจักรพรรดิและหลานชายติดต่อกันง่ายถึงเพียงนี้เลยงั้นหรือ แต่ว่า......

ที่บ้านของนาง ซือสิงกำลังหดหู่ใจเกี่ยวกับเรื่องการจากไปของพ่อ นางไม่อยากเห็นสนมเอกเซี่ยเป็นบ้าเพราะเสียลูกชาย และเรื่องที่จักรพรรดิต้องการชีวิตของนาง มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายถึงเพียงนั้น

เฟิ่งชิงเฉินตอบตกลง ขอร้องจักรพรรดิให้พาคนทั้งหมดออกไป จักรพรรดิจัดการให้ตามคำขอ แต่หมอหลวงไม่ได้จากไปไหน พวกเขาไปดูแลอาการของสนมเอกเซี่ยอยู่ด้านข้าง

ในห้องเหลือเพียงแค่เฟิ่งชิงเฉินเพียงลำพัง นางไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป เฟิ่งชิงเฉินรีบนำกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะออกมา หยิบเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจออกมาพร้อมกับเครื่องกระตุ้นหัวใจ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการกระตุ้นหัวใจให้จักรพรรดิน้อย

ร่างกายเล็ก ๆ สั่นสะเทือนจากคลื่นไฟฟ้า มองดูแล้วช่างน่าตกใจ โชคดีที่เวลานี้ไม่มีคนนอกอยู่ด้วย ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงคิดว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้วจริง ๆ

ร่างกายของจักรพรรดิน้อยอ่อนแอ เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่กล้าละเลย หลังจากทำการกระตุ้นด้วยไฟฟ้า เฟิ่งชิงเฉินก็รีบทำการปั๊มหัวใจให้กับจักรพรรดิน้อยในทันที เมื่อหัวใจของจักรพรรดิน้อยกลับมาเต้นเป็นปกติ เฟิ่งชิงเฉินก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

เด็กตัวเล็กแค่นี้ นางไม่กล้าที่จะทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า เนื่องจากทุกการกระทำนั้นเป็นอันตรายถึงชีวิต

นางเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก จากนั้นก็ทำการตรวจสอบร่างกายของจักรพรรดิน้อยอีกครั้ง แม้ลมหายใจจะเบาบาง แต่เขาก็ได้รับการช่วยเหลือกลับมาแล้ว

หลังจากผ่านประตูนรก มันก็แสดงให้เห็นเลยว่า แม้องค์ชายแปดจะเกิดมาในตระกูลที่เพียบพร้อม แต่เขาก็ยังเป็นคนที่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก เด็กน้อยตัวผอมบาง ผิวสีม่วงที่ได้แต่นอนอยู่บนเตียง สิ่งนี้มันทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเจ็บปวดหัวใจยิ่งนัก

กระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะแสดงผลการวินิจฉัยออกมา จักรพรรดิน้อยถูกวางยาพิษ!

จักรพรรดิต่อว่าหมอหลวงเหล่านั้นว่าไร้ความสามารถในทันที หมอหลวงเหล่านั้นได้เพียงแต่ยอมรับและบอกว่ามันไม่มีหนทางที่ดีกว่านี้แล้ว จักรพรรดิเองก็หมดหนทาง ทำได้เพียงยอมผ่อนปรนและยอมให้พวกเขาไปปรุงยา

หากเป็นคนอื่น เฟิ่งชิงเฉินจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย แต่จักรพรรดิน้อยเป็นคนที่นางทำคลอดเองกับมือ นางไม่สามารถทนมองจักรพรรดิน้อยเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตาของนางได้

เฟิ่งชิงเฉินก้าวออกมา พูดกับจักรพรรดิว่า “ฝ่าบาท ในมือของข้ามียาถอนพิษที่ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีสร้างขึ้นมาอยู่หนึ่งเม็ด หากหมอหลวงเหล่านี้ไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเป็นพิษชนิดใด ฝ่าบาทคิดจะลองใช้มันดูหรือไม่”

“มียาถอนพิษของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีอยู่ เหตุใดเจ้าจึงไม่ยอมบอกตั้งแต่แรก?” จักรพรรดิโกรธเป็นอย่างมาก คิดว่าเฟิ่งชิงเฉินจงใจหาผลประโยชน์จากพวกเขา

หมอหลวงหลายคนเห็นเช่นนั้น พวกเขาก็กล่าวเสริมออกมาว่าเฟิ่งชิงเฉินจงใจจะยืดเวลาในการรักษาอาการป่วยของจักรพรรดิน้อย

เฟิ่งชิงเฉินขี้เกียจจะสนใจพวกเขา เพียงแค่อธิบายออกมาให้จักรพรรดิฟังว่า “ฝ่าบาท ยาถอนพิษที่ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีสร้างขึ้นมานั้นมีฤทธิ์รุนแรง มันเป็นยาสำหรับผู้ใหญ่ ข้าเกรงว่าจักรพรรดิน้อยจะไม่สามารถทนต่อฤทธิ์ยาได้ ตอนแรกข้าจึงไม่เอ่ยถึงมัน แต่เวลานี้ เนื่องจากหมอหลวงพวกนี้บอกว่าไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าจักรพรรดิน้อยนั้นถูกพิษชนิดใด ข้าจึงอยากจะลองดู”

“หมอเฟิ่งพูดถูก ยิ่งยาถอนพิษมันสรรพคุณยอดเยี่ยมเพียงใด ผลข้างเคียงของมันก็จะยิ่งรุนแรง ร่างกายของจักรพรรดิน้อยอ่อนแอเป็นอย่างมาก เกรงว่าอาจจะรับไม่ไหว” ในกลุ่มของหมอหลวงก็มีหลายคนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเฟิ่งชิงเฉิน เห็นด้วยกับเฟิ่งชิงเฉินเป็นอย่างมาก ดังในนั้นเวลานี้จึงไม่ลังเลที่จะยืนเคียงข้างของเฟิ่งชิงเฉิน

“หมอหลวงหูพูดถูก ข้าเกรงว่าผลข้างเคียงของยาจะรุนแรงเกินไป จักรพรรดิน้อยอาจจะรับไม่ไหว ฝ่าบาท พระองค์คิดว่าควรจะใช้ยาชนิดนี้กับจักรพรรดิน้อยหรือไม่?” เอาละ เฟิ่งชิงเฉินยอมรับว่าตนเองน่ารังเกียจ ไม่ต่างอะไรกับหมอหลวงพวกนี้ที่ยกการตัดสินใจทั้งหมดให้กับจักรพรรดิ

ด้วยวิธีนี้ การมีชีวิตรอดของจักรพรรดิน้อยจึงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของจักรพรรดิ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมากับจักรพรรดิน้อยมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนาง ก่อนหน้านี้นางพูดไปหมดแล้วว่ายาชนิดนี้มีผลข้างเคียง ร่างกายของจักรพรรดิน้อยอาจทนไม่ไหว แต่หากจักรพรรดิยินดีที่จะใช้มัน แน่นอนว่าต้องยอมรับผลที่ตามมา

เฟิ่งชิงเฉินทำให้จักรพรรดิลำบากใจได้สำเร็จ จักรพรรดิมองมาที่ยาในมือของเฟิ่งชิงเฉิน จากนั้นก็มองไปที่องค์ชายแปดที่กำลังนอนทุกข์ทรมาน ในตอนนั้นเขาเองก็ไม่รู้ว่าควรตัดสินใจเช่นไรดี

จะใช้ยาชนิดนี้ดีหรือไม่?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ