นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1208

สรุปบท บทที่ 1208 ปั่นหัว, หมดตั้งแต่ครั้งแรก: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปตอน บทที่ 1208 ปั่นหัว, หมดตั้งแต่ครั้งแรก – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

ตอน บทที่ 1208 ปั่นหัว, หมดตั้งแต่ครั้งแรก ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

แน่นอนว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่เคยคิดมาก่อนเกี่ยวกับเรื่องการตอบแทนบุญคุณของสนมเอกเซี่ย ที่นางพยายามช่วยชีวิตจักรพรรดิน้อยอย่างเต็มที่ ทั้งหมดก็เพราะเป็นสัญชาตญาณของหมอ นางไม่สามารถมองดูคนไข้โดยไม่ให้ความช่วยเหลือ และปล่อยให้คนไข้จากไปโดยไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม

นางพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปฏิบัติตามที่โชคชะตากำหนดไว้ และนางก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจักรพรรดิน้อยจะรอดชีวิตกลับมาได้

คำพูดของสนมเอกเซี่ย เฟิ่งชิงเฉินไม่เคยเก็บมาใส่ใจ ชาติก่อนไม่รู้ว่ามีครอบครัวของคนไข้มากมายแค่ไหนพูดกับนางเช่นนี้ สุดท้ายก็ไม่มีใครทำได้อย่างที่พูด ดีที่สุดก็แค่โทรศัพท์มาหานางเพื่อชื่นชม ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง

นางไม่เคยคาดหวังการตอบแทนบุญคุณในคำพูดจากปากของครอบครัวผู้ป่วย ดังนั้นนางจึงไม่เคยผิดหวังกับมัน

เฟิ่งชิงเฉินสั่งให้คนนำเก้าอี้มาให้นางหนึ่งตัว นางนั่งลงด้านข้างของจักรพรรดิน้อยเพื่อเฝ้าดูแลจักรพรรดิน้อยอย่างใกล้ชิด

ภายในระยะเวลาสิบสองชั่วโมง มันถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสำคัญ เฟิ่งชิงเฉินจำเป็นจะต้องจับตามองทุกการเคลื่อนไหว และจะปล่อยให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้เป็นอันขาด

เด็กน้อยนั้นอ่อนแอกว่าผู้ใหญ่อย่างเห็นได้ชัด จำเป็นจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทุกครึ่งชั่วโมง เฟิ่งชิงเฉินจะทำการตรวจให้จักรพรรดิน้อยหนึ่งครั้ง เห็นอาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของจักรพรรดิน้อย ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินก็ดูดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

สำหรับคนเป็นหมอแล้ว ความสำเร็จที่ดีที่สุดก็คือการเห็นอาการของคนไข้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และมีร่างกายที่แข็งแรง

ในตอนพลบค่ำ สนมเอกเซี่ยเดินเข้ามาเยี่ยมในห้อง เมื่อเทียบกับสภาพก่อนหน้านี้ของนางแล้ว สนมเอกเซี่ยในตอนนี้มีท่าทางที่ดีกว่าตอนแรกมาก หลังจากถามไถ่อาการของจักรพรรดิน้อยเป็นอันเรียบร้อย สนมเอกเซี่ยก็ไม่ได้ถามอะไรออกมาอีก และไม่ได้ต้องการให้เฟิ่งชิงเฉินรับประกันว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับจักรพรรดิน้อย

สนมเอกเซี่ยเข้ามาพูดคุยกับจักรพรรดิน้อย ระงับความรู้สึกไม่สบายใจเอาไว้ จากนั้นถอยกลับมาและเดินจากไป เนื่องจากเกรงว่าหากอยู่ที่นี่ต่อไปอาจจะส่งผลและรบกวนกับการรักษาของเฟิ่งชิงเฉิน

ในกลางดึก เฟิ่งชิงเฉินไล่เหล่าองครักษ์และสาวใช้ในพระราชวังออกไป ให้พวกเขาไปรออยู่นอกตำหนัก ในห้องจึงเหลือแค่นางเพียงคนเดียวที่ให้การดูแลจักรพรรดิน้อย เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับอาการของจักรพรรดิน้อย เฟิ่งชิงเฉินจึงไม่รู้สึกง่วงนอนเลยแม้แต่น้อย

เวลาค่อย ๆ ผ่านไปทีละน้อย ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินคิดว่าอาการของจักรพรรดิน้อยคงที่แล้ว และอาการก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จู่ ๆ ร่างกายของจักรพรรดิน้อยก็กระตุกขึ้นมาพร้อมกับน้ำลายฟูมปาก

อาการกำเริบ!

เฟิ่งชิงเฉินกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ร่างกายของนางเต็มไปด้วยพลัง นางรีบนำกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะออกมา พร้อมกับหยิบอุปกรณ์และยามากมายออกมาจากด้านในของกระเป๋า จากนั้นก็รีบทำการรักษาให้กับจักรพรรดิน้อย

หลังจากการรักษาสิ้นสุดลง ในที่สุดอาการกระตุกของจักรพรรดิน้อยก็หายไป แต่กลับมีไข้ขึ้นมาแทน

หลังจากเฟิ่งชิงเฉินตรวจอาการของจักรพรรดิน้อยเรียบร้อยพบว่าพิษในร่างกายของจักรพรรดิน้อยนั้นยังไม่หมดไป นางจึงใช้ยาถอนพิษอีกหนึ่งในแปดส่วน แต่จักรพรรดิน้อยก็ยังคงอาเจียนออกมา

สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการถ่ายพิษออกจากร่างกายของจักรพรรดิน้อย ไม่อย่างนั้นทุกอย่างที่ทำมาจะสูญเปล่า เฟิ่งชิงเฉินหมดหนทาง ทำได้เพียงหาหนทางในการป้อนยาลงไปเท่านั้น

ยาถอนพิษชนิดนี้ไม่สามารถฉีดเข้าไปโดยตรงในกระแสเลือดได้ นางไม่สามารถล้อเล่นกับชีวิตของจักรพรรดิน้อย

จักรพรรดิน้อยอาเจียนออกมาอย่างรุนแรง เฟิ่งชิงเฉินเพียงคนเดียวไม่อาจรับมือไหว นางจึงคิดที่จะออกไปเรียกสาวใช้เข้ามาเพื่อให้ความช่วยเหลือ แต่เมื่อหันหลังไปกลับพบ......

คนผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของนางโดยไม่ส่งเสียงออกมาแต่อย่างใด โดยใบหน้าของเขาขยายใหญ่อยู่ในรูม่านตาของนาง

น่าตกใจเป็นอย่างมาก!

อร๊าย......เฟิ่งชิงเฉินกระโดดด้วยความตกใจ นางเกือบจะล้มลงพื้น คนผู้นั้นยื่นมือออกมาเพื่อพยุงเฟิ่งชิงเฉิน “เหตุใดถึงไม่ระวัง แค่เดินยังเดินให้ดีไม่ได้เลยงั้นหรือ?”

นี่เขาโทษนางอย่างนั้นหรือ?

เฟิ่งชิงเฉินขมวดคิ้ว กัดฟันและกล่าวออกไปว่า “หลานจิ่วชิง เจ้าไม่รู้หรือไงว่าความตกใจนั้นสามารถฆ่าคนได้ เจ้าปรากฏตัวออกมาต่อหน้าข้ากะทันหันเช่นนี้ หากข้าเป็นคนขวัญอ่อนเกรงว่าคงตกใจตายไปแล้ว”

คำพูดประโยคนี้ไม่ได้เกินกว่าความเป็นจริงแต่อย่างใด เวลานี้หัวใจของนางเต้นแรงจนน่าตกใจ

“นี่ เบาหน่อย เจ้าอยากจะเรียกทุกคนเข้ามาเลยอย่างนั้นหรือ?” หลานจิ่วชิงบินเข้ามาปิดปากของเฟิ่งชิงเฉินไว้

“หมอเฟิ่ง เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นหรือ” เสียงในห้องดังขึ้นมา ทำให้สาวใช้ที่อยู่ด้านนอกตกใจ

เฟิ่งชิงเฉินตบมือของหลานจิ่วชิง จากนั้นกล่าวออกมาว่า “ไม่มีอะไร ข้าแค่กำลังป้อนยาจักรพรรดิน้อย” พูดจบนางก็ถอยไปด้านหลังเพื่อเว้นระยะระหว่างตนเองกับหลานจิ่วชิง

ภายใต้หน้ากาก หลานจิ่วชิงขมวดคิ้วอย่างไม่มีความสุข แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ที่แท้เด็กตัวเล็กและอ่อนแอถึงเพียงนี้ เหมือนกับว่าสามารถทำลายร่างกายของอีกฝ่ายได้ด้วยฝ่ามือ

“ดังนั้นเจ้าต้องเบา ๆ หน่อย อย่างทำให้เขาได้รับบาดเจ็บเป็นอันขาด ผิวหนังของเด็กนั้นบอบบาง กระดูกยังไม่แข็ง อย่าใช้แรงมากจนเกินไปจนทำให้ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บ” เฟิ่งชิงเฉินเน้นย้ำอีกฝ่าย ทำให้จักรพรรดิน้อยสบายกว่าเดิมเล็กน้อย ส่วนหลานจิ่วชิงจะเป็นอย่างไร จะเหนื่อยหรือไม่ เรื่องนี้นางไม่สนใจ

“ข้าไม่อุ้มได้ไหม ข้าขอเป็นคนป้อนยาให้เขาเอง” มือของหลานจิ่วชิงแข็งทื่อ ตอนนี้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลยแม้แต่น้อย มันเหนื่อยกว่าการที่เขาไปลอบสังหารผู้อื่นเสียอีก แค่อุ้มเด็กตัวเล็ก ๆ มันก็ทำให้เขาเหงื่อตกได้ถึงเพียงนี้

“เจ้าป้อนเป็นอย่างนั้นหรือ?”

“ไม่เป็น แต่ข้าสามารถเรียนรู้ได้” หลานจิ่วชิงพูดอย่างเย็นชา มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าเวลานี้มีเหงื่อจำนวนมากแค่ไหนไหลออกมาจากฝ่ามือของเขา

ความกดดันในการอุ้มเด็กตัวเล็ก ๆ นี่มันช่างยิ่งใหญ่ยิ่งนัก

“น่าเสียดาย จักรพรรดิน้อยรอไม่ไหวแล้ว เจ้าอุ้มให้ดี ๆ อย่าขยับ ข้าจะป้อนยาให้เขา” เฟิ่งชิงเฉินค่อย ๆ เปิดปากของจักรพรรดิน้อย ใช้ผ้าสะอาดเช็ดคราบน้ำลายรอบปากของเขาจนสะอาด จากนั้นก็ค่อย ๆ หยดยาลงไปในปากของจักรพรรดิน้อยทีละหยด

หลังจากหยดยาเข้าไปเรียบร้อยแล้ว เฟิ่งชิงเฉินใช้ช้อนกดปากของเขาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เขาสำรอกยาออกมาอีกครั้ง

แม้ว่าการเคลื่อนไหวของเฟิ่งชิงเฉินจะเฉียบคม แต่มันก็อ่อนโยนเป็นอย่างมาก มันไม่ได้ทำให้จักรพรรดิน้อยบาดเจ็บแต่อย่างใด มีอีกข้างหนึ่งของนางลูบไปบนร่างกายของจักรพรรดิน้อยเบา ๆ เกลี้ยกล่อมให้เขาด้วยเสียงอันแผ่วเบา......

หลานจิ่วชิงจ้องมองเฟิ่งชิงเฉินด้วยความตะลึงงัน เขาคิดไม่ถึงเลยว่าบนร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินจะมีรัศมีแห่งความรักของแม่ไหลเวียนอยู่ มันต่างจากที่นางเป็นในยามปกติ เนื่องจากในเวลานี้เฟิ่งชิงเฉินอ่อนโยนและอบอุ่นเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาเขาเคยเห็นเฟิ่งชิงเฉินในสภาพที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและเข้มงวดเท่านั้น

หัวใจ หัวใจของเขาเต้นแรง รอยยิ้มปรากฏออกมาภายใต้หน้ากาก บ่งบอกถึงร่องรอยแห่งความคาดหวังที่ต่างออกไป

รักและห่วงใยลูกของผู้อื่นถึงเพียงนี้ เฟิ่งชิงเฉินคงจะชื่นชอบเด็กเป็นอย่างมาก

ได้เห็นเฟิ่งชิงเฉินในสภาพเช่นนี้ หลานจิ่วชิงรู้สึกว่าค่ำคืนนี้ช่างแสน......คุ้มค่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ