แน่นอนว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่เคยคิดมาก่อนเกี่ยวกับเรื่องการตอบแทนบุญคุณของสนมเอกเซี่ย ที่นางพยายามช่วยชีวิตจักรพรรดิน้อยอย่างเต็มที่ ทั้งหมดก็เพราะเป็นสัญชาตญาณของหมอ นางไม่สามารถมองดูคนไข้โดยไม่ให้ความช่วยเหลือ และปล่อยให้คนไข้จากไปโดยไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม
นางพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปฏิบัติตามที่โชคชะตากำหนดไว้ และนางก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจักรพรรดิน้อยจะรอดชีวิตกลับมาได้
คำพูดของสนมเอกเซี่ย เฟิ่งชิงเฉินไม่เคยเก็บมาใส่ใจ ชาติก่อนไม่รู้ว่ามีครอบครัวของคนไข้มากมายแค่ไหนพูดกับนางเช่นนี้ สุดท้ายก็ไม่มีใครทำได้อย่างที่พูด ดีที่สุดก็แค่โทรศัพท์มาหานางเพื่อชื่นชม ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
นางไม่เคยคาดหวังการตอบแทนบุญคุณในคำพูดจากปากของครอบครัวผู้ป่วย ดังนั้นนางจึงไม่เคยผิดหวังกับมัน
เฟิ่งชิงเฉินสั่งให้คนนำเก้าอี้มาให้นางหนึ่งตัว นางนั่งลงด้านข้างของจักรพรรดิน้อยเพื่อเฝ้าดูแลจักรพรรดิน้อยอย่างใกล้ชิด
ภายในระยะเวลาสิบสองชั่วโมง มันถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสำคัญ เฟิ่งชิงเฉินจำเป็นจะต้องจับตามองทุกการเคลื่อนไหว และจะปล่อยให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้เป็นอันขาด
เด็กน้อยนั้นอ่อนแอกว่าผู้ใหญ่อย่างเห็นได้ชัด จำเป็นจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทุกครึ่งชั่วโมง เฟิ่งชิงเฉินจะทำการตรวจให้จักรพรรดิน้อยหนึ่งครั้ง เห็นอาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของจักรพรรดิน้อย ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินก็ดูดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
สำหรับคนเป็นหมอแล้ว ความสำเร็จที่ดีที่สุดก็คือการเห็นอาการของคนไข้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และมีร่างกายที่แข็งแรง
ในตอนพลบค่ำ สนมเอกเซี่ยเดินเข้ามาเยี่ยมในห้อง เมื่อเทียบกับสภาพก่อนหน้านี้ของนางแล้ว สนมเอกเซี่ยในตอนนี้มีท่าทางที่ดีกว่าตอนแรกมาก หลังจากถามไถ่อาการของจักรพรรดิน้อยเป็นอันเรียบร้อย สนมเอกเซี่ยก็ไม่ได้ถามอะไรออกมาอีก และไม่ได้ต้องการให้เฟิ่งชิงเฉินรับประกันว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับจักรพรรดิน้อย
สนมเอกเซี่ยเข้ามาพูดคุยกับจักรพรรดิน้อย ระงับความรู้สึกไม่สบายใจเอาไว้ จากนั้นถอยกลับมาและเดินจากไป เนื่องจากเกรงว่าหากอยู่ที่นี่ต่อไปอาจจะส่งผลและรบกวนกับการรักษาของเฟิ่งชิงเฉิน
ในกลางดึก เฟิ่งชิงเฉินไล่เหล่าองครักษ์และสาวใช้ในพระราชวังออกไป ให้พวกเขาไปรออยู่นอกตำหนัก ในห้องจึงเหลือแค่นางเพียงคนเดียวที่ให้การดูแลจักรพรรดิน้อย เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับอาการของจักรพรรดิน้อย เฟิ่งชิงเฉินจึงไม่รู้สึกง่วงนอนเลยแม้แต่น้อย
เวลาค่อย ๆ ผ่านไปทีละน้อย ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินคิดว่าอาการของจักรพรรดิน้อยคงที่แล้ว และอาการก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จู่ ๆ ร่างกายของจักรพรรดิน้อยก็กระตุกขึ้นมาพร้อมกับน้ำลายฟูมปาก
อาการกำเริบ!
เฟิ่งชิงเฉินกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ร่างกายของนางเต็มไปด้วยพลัง นางรีบนำกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะออกมา พร้อมกับหยิบอุปกรณ์และยามากมายออกมาจากด้านในของกระเป๋า จากนั้นก็รีบทำการรักษาให้กับจักรพรรดิน้อย
หลังจากการรักษาสิ้นสุดลง ในที่สุดอาการกระตุกของจักรพรรดิน้อยก็หายไป แต่กลับมีไข้ขึ้นมาแทน
หลังจากเฟิ่งชิงเฉินตรวจอาการของจักรพรรดิน้อยเรียบร้อยพบว่าพิษในร่างกายของจักรพรรดิน้อยนั้นยังไม่หมดไป นางจึงใช้ยาถอนพิษอีกหนึ่งในแปดส่วน แต่จักรพรรดิน้อยก็ยังคงอาเจียนออกมา
สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการถ่ายพิษออกจากร่างกายของจักรพรรดิน้อย ไม่อย่างนั้นทุกอย่างที่ทำมาจะสูญเปล่า เฟิ่งชิงเฉินหมดหนทาง ทำได้เพียงหาหนทางในการป้อนยาลงไปเท่านั้น
ยาถอนพิษชนิดนี้ไม่สามารถฉีดเข้าไปโดยตรงในกระแสเลือดได้ นางไม่สามารถล้อเล่นกับชีวิตของจักรพรรดิน้อย
จักรพรรดิน้อยอาเจียนออกมาอย่างรุนแรง เฟิ่งชิงเฉินเพียงคนเดียวไม่อาจรับมือไหว นางจึงคิดที่จะออกไปเรียกสาวใช้เข้ามาเพื่อให้ความช่วยเหลือ แต่เมื่อหันหลังไปกลับพบ......
คนผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของนางโดยไม่ส่งเสียงออกมาแต่อย่างใด โดยใบหน้าของเขาขยายใหญ่อยู่ในรูม่านตาของนาง
น่าตกใจเป็นอย่างมาก!
อร๊าย......เฟิ่งชิงเฉินกระโดดด้วยความตกใจ นางเกือบจะล้มลงพื้น คนผู้นั้นยื่นมือออกมาเพื่อพยุงเฟิ่งชิงเฉิน “เหตุใดถึงไม่ระวัง แค่เดินยังเดินให้ดีไม่ได้เลยงั้นหรือ?”
นี่เขาโทษนางอย่างนั้นหรือ?
เฟิ่งชิงเฉินขมวดคิ้ว กัดฟันและกล่าวออกไปว่า “หลานจิ่วชิง เจ้าไม่รู้หรือไงว่าความตกใจนั้นสามารถฆ่าคนได้ เจ้าปรากฏตัวออกมาต่อหน้าข้ากะทันหันเช่นนี้ หากข้าเป็นคนขวัญอ่อนเกรงว่าคงตกใจตายไปแล้ว”
คำพูดประโยคนี้ไม่ได้เกินกว่าความเป็นจริงแต่อย่างใด เวลานี้หัวใจของนางเต้นแรงจนน่าตกใจ
“นี่ เบาหน่อย เจ้าอยากจะเรียกทุกคนเข้ามาเลยอย่างนั้นหรือ?” หลานจิ่วชิงบินเข้ามาปิดปากของเฟิ่งชิงเฉินไว้
“หมอเฟิ่ง เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นหรือ” เสียงในห้องดังขึ้นมา ทำให้สาวใช้ที่อยู่ด้านนอกตกใจ
เฟิ่งชิงเฉินตบมือของหลานจิ่วชิง จากนั้นกล่าวออกมาว่า “ไม่มีอะไร ข้าแค่กำลังป้อนยาจักรพรรดิน้อย” พูดจบนางก็ถอยไปด้านหลังเพื่อเว้นระยะระหว่างตนเองกับหลานจิ่วชิง
ภายใต้หน้ากาก หลานจิ่วชิงขมวดคิ้วอย่างไม่มีความสุข แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...