นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1215

สรุปบท บทที่ 1215 ตั้งครรภ์ไม่ได้, เจอคนป่วยที่ไร้ยางอาย จะต้องไร้ยางอายมากกว่าเขา: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

บทที่ 1215 ตั้งครรภ์ไม่ได้, เจอคนป่วยที่ไร้ยางอาย จะต้องไร้ยางอายมากกว่าเขา – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1215 ตั้งครรภ์ไม่ได้, เจอคนป่วยที่ไร้ยางอาย จะต้องไร้ยางอายมากกว่าเขา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เรื่องขององค์หญิงเหยาหวา ตี๋ตงหมิงไม่ได้รู้อย่างครอบคลุม ข้อมูลที่เขาได้มาคือข้อมูลที่ทุกคนต่างสามารถเข้าถึงได้ มันไม่ได้เป็นข้อมูลที่เป็นความลับแต่อย่างใด เพียงแค่เขารวดเร็วกว่าคนทั่วไปก้าวหนึ่งเท่านั้น

เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจตี๋ตงหมิงเป็นอย่างดี และรู้ว่าคงไม่สามารถสอบถามข้อมูลที่เป็นประโยชน์อะไรออกมาได้จากปากของตี๋ตงหมิง ไม่ใช่ตี๋ตงหมิงไม่ยอมพูดออกมา แต่เป็นเพราะแม้แต่ตัวของตี๋ตงหมิงเองก็ไม่รู้สิ่งที่นางอยากรู้เช่นกัน

ซุนซือสิงถือกล่องยาเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว เฟิ่งชิงเฉินหลีกทางให้กับซุนซือสิง ให้ซุนซือสิงเป็นคนพันแผลให้ตี๋ตงหมิง ส่วนนางก็ยืนมองอยู่ด้านข้าง ครุ่นคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อในช่วงที่ผ่านมาไม่นาน

ดูเหมือนว่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น อาจจะมีข้อมูลบางอย่างที่สามารถสืบหาได้จากการตายขององค์หญิงเหยาหวา แต่น่าเสียดายที่นางไม่อาจเข้าไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุใด

บาดแผลที่แขนของตี๋ตงหมิงรุนแรงจนน่าตกใจ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้บาดเจ็บถึงชั้นกระดูก ซุนซือสิงเย็บแผลให้เขาอย่างรวดเร็ว ในตอนที่เตรียมตัวใส่ยาให้กับตี๋ตงหมิง ตี๋ตงหมิงก็ดึงแขนของซุนซือสิงเบา ๆ จากนั้นก็กระซิบเกี่ยวกับเรื่องราวที่น่าขายหน้าของเขา

และสิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ ข้างกายของเขามีผู้หญิงอยู่มากมาย เหตุใดเขาจึงไม่สามารถทำให้ผู้หญิงเหล่านั้นตั้งท้องได้ เพื่อแสดงออกว่าตนเองไม่ได้ไร้น้ำยา ตี๋ตงหมิงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในห้องกับผู้หญิงเหล่านั้นออกมาอย่างไร้ยางอาย และใช้คำต่าง ๆ นานาเพื่อสาธยายว่าตนเองมีความสามารถในด้านนี้มากเพียงใด

ใบหน้าของซุนซือสิงกลายเป็นสีแดง ยิ่งได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้น ใบหน้าของเขาก็ยิ่งดูไม่ได้

เจ้าคิดจะพูดถึงอาการป่วยก็พูดออกมา จะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนเตียงออกมาชัดเจนขนาดนี้เพื่ออะไร เขาไม่ใช่ขันทีที่รับใช้ในห้องระหว่างที่คนทำเรื่องพวกนั้นอยู่เสียหน่อย

ใบหน้าของซุนซือสิงแสดงให้เห็นถึงความเขินอาย เขาพยายามหลบหลีกอยู่หลายครั้ง แต่ตี๋ตงหมิงก็จับมือของเขาไว้ไม่ยอมปล่อย

ท่านอาจารย์ ช่วยข้าด้วย

ซุนซือสิงจ้องมองมาที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยท่าทางอันน่าสงสาร หวังว่าเฟิ่งชิงเฉินจะช่วยเขาให้หลุดพ้นจากปีศาจตนนี้

เขาไม่เคยมีคนรักมาก่อน ตี๋ตงหมิงพูดเรื่องพวกนี้กับเขา แน่นอนว่าเขาไม่มีทางเข้าใจ

“ซือสิง เจ้าเข้าใจแล้วใช่หรือไม่? ข้ายังไหวจริง ๆ ข้าสามารถทำให้ผู้หญิงเหล่านั้นหมดสติได้ในคืนพรุ่งนี้ ร่างกายของข้านั้นยอดเยี่ยม แต่ด้วยชะตากรรมของข้า ทำให้ข้าไม่อาจทำให้ผู้หญิงเหล่านั้นตั้งท้องได้ เจ้าคิดว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกับข้า? ข้าจำเป็นต้องกินยาเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพหรือไม่? เจ้าช่วยจ่ายยาให้ข้าหน่อยเถอะ” ในที่สุดตี๋ตงหมิงก็พูดถึงประเด็นหลัก แต่ปัญหาก็คือ ซุนซือสิงที่ได้รับรู้เรื่องราวเหล่านั้นไม่เข้าใจกับสิ่งที่เขาพูดเลยแม้แต่น้อย

เฟิ่งชิงเฉินเป็นผู้หญิง ต่อให้นางไม่ได้ห้ามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ แต่นางก็ไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับโรคของผู้ชายกับซุนซือสิง และนางก็ไม่ได้ชำนาญเรื่องโรคของเพศชาย

เมื่อเผชิญหน้ากับความหวังของตี๋ตงหมิง ซุนซือสิงใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะนึกคำพูดออกมาได้ “เรื่องนี้......มันต้องตรวจชีพจรก่อนถึงจะรู้”

“เช่นนั้นเจ้าก็ช่วยตรวจชีพจรให้ข้า ลองดูว่าข้ามีปัญหาตรงไหนหรือไม่ หากเกิดปัญหาขึ้นมาจริง ๆ เจ้าก็ช่วยบอกข้าว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน” ทุกคนต่างเป็นผู้ชาย ตี๋ตงหมิงก็ไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองทำลงไปนั้นมันผิดไปแต่อย่างใด

บูม......ใบหน้าของซุนซือสิงกลายเป็นสีแดงราวกับเลือดจะระเบิดออกมา เขาใช้แรงในการสะบัดข้อมือออกจากมือของตี๋ตงหมิง จากนั้นวิ่งไปด้านข้างของเฟิ่งชิงเฉินด้วยใบหน้าแห่งความข้องใจ

“เป็นอะไรไปงั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินถามออกมาด้วยความเป็นห่วง

“ฮือ ฮือ ฮือ......ท่านอาจารย์ ช่วยข้าด้วย มีคนไข้ที่น่ารังเกียจอยู่ที่นี่ เขากำลังกลั่นแกล้งศิษย์ของท่าน” มันเป็นเพียงแค่ประโยคสั้น ๆ แต่ซุนซือสิงกลับพูดไม่ออก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเม้มปากเอาไว้และไม่พูดอะไร

เฟิ่งชิงเฉินขมวดคิ้ว มองไปที่ตี๋ตงหมิง “ตี๋ตงหมิง เจ้ารังแกลูกศิษย์ของข้าอย่างนั้นหรือ?”

“ว่าไงนะ? ไม่ ไม่ ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย” ตี๋ตงหมิงปฏิเสธวนไปวนมาอยู่อย่างนั้น

เขาก็แค่ถามเกี่ยวกับอาการป่วยของเขาไม่ใช่หรือ เขาทำอะไรผิด เหตุใดซุนซือสิงจึงวิ่งหนีไป

“ไม่ได้ทำอะไร? ไม่ได้ทำอะไร เหตุใดซือสิงถึงได้โกรธเช่นนี้?” เฟิ่งชิงเฉินไม่เชื่อ เหตุใดอยู่ดี ๆ ลูกศิษย์ของตนเองถึงได้โกรธขึ้นมา

“ข้า ข้า......” เรื่องแบบนี้ เรื่องแบบนี้เขาจะเอามาพูดกับผู้หญิงได้อย่างไร เขาไม่สามารถพูดมันออกมาได้

ตี๋ตงหมิงมองมาที่ซุนซือสิงด้วยสายตาแห่งความอ้อนวอน

นายน้อยซุนผู้ยิ่งใหญ่ ถือว่าขอร้องเจ้า รีบอธิบายให้อาจารย์ของเจ้าฟังด้วยเถิดว่าข้าไม่ได้กลั่นแกล้งเจ้าจริง ๆ

ซุนซือสิงก็คือซุนซือสิง เขาไม่มีทางพูดจาใส่ร้ายผู้อื่น สิ่งที่เขาพูดออกมามีเพียงความจริงเท่านั้น

ซุนซือสิงเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตี๋ตงหมิงเล่าให้เขาฟังออกมาหนึ่งรอบ แน่นอนว่าคำพูดที่ทำให้รู้สึกอึดอัดใจและเขินอาย ซุนซือสิงไม่มีทางพูดออกมา ทั้งหมดก็เพื่อจะไม่ทำให้หูอาจารย์ของเขาต้องแปดเปื้อน

พระเจ้า นี่มันอะไรกัน!

คำพูดเหล่านี้ทำให้ไม่สามารถคิดดีได้เลย

“พวกเจ้าเป็นอะไรไปงั้นหรือ?” พวกเจ้ากลายเป็นท่อนไม้ไปแล้วหรือไง?

“ไม่ ไม่ ไม่เป็นไร ข้ายังสบายดี” ตี๋ตงหมิงรีบเก็บสายตาของเขาในทันใด กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคอะเขิน ส่วนซุนซือสิงก็ยังคงติดอยู่ในความงุนงง

ตี๋ตงหมิงรู้สึกเขินอายเมื่อได้รับขวดแก้วใส ๆ ไว้ในมือ

แสร้งทำอย่างนั้นอย่างนี้ ขอให้เฟิ่งชิงเฉินตรวจสอบให้ครั้งแล้วครั้งเล่า มันไม่น่าอายเกินไปหน่อยหรือ?

ตี๋ตงหมิงจับขวดไว้ เขานั่งไม่ได้อีกต่อไป แม้แต่ยาก็ลืมหยิบออกไป วิ่งออกไปด้านนอกทั้งแบบนั้น

เฟิ่งชิงเฉินยิ้มออกมาด้วยความพอใจ

ใครใช้ให้เจ้ามารังแกลูกศิษย์ของข้า

“ท่านอาจารย์......” ซุนซือสิงเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเขา และเตือนเฟิ่งชิงเฉินเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของนางด้วยความเป็นห่วง

ในฐานะของหมอคนหนึ่ง การที่หยอกล้อผู้ป่วยเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

“แคก แคก......” เฟิ่งชิงเฉินกระแอมออกมาสองครั้ง จากนั้นกล่าวกับซุนซือสิงอย่างจริงใจ “ซือสิง วันนี้เจ้ายังทำได้ไม่ค่อยดีนัก ในฐานะที่เป็นหมอ พวกเราจะต้องพบเจอกับคนไข้ที่แปลกประหลาดมากมาย รวมถึงโรคที่ไม่เคยพบเจอ เจ้าจะต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับความแปลกประหลาดเหล่านั้น แม้ว่าในใจของเจ้าจะไม่รู้จักมันก็ตาม เจ้าควรแสดงออกอย่างสงบ มีเพียงเช่นนั้นคนไข้ถึงจะเชื่อมั่นในตัวเจ้า และเชื่อว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้”

“ข้ารู้แล้ว ท่านอาจารย์” ซุนซือสิงเชื่อฟังคำสอนจากใจจริง

“หลังจากนี้ห้ามปล่อยให้อารมณ์เป็นผู้ควบคุมอีกเด็ดขาด วันนี้คนที่เจ้าต้องเผชิญคือตี๋ตงหมิง หากเป็นคนไข้คนอื่น พวกเขาไม่มีทางเชื่อมั่นในตัวเจ้าเป็นแน่” ต่อให้รู้สึกเขินอาย มันก็ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในใจ

“ท่านอาจารย์ ข้าผิดไปแล้ว” ซุนซือสิงยอมรับความผิดจากใจจริง เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้ลงโทษอะไรเขา เพียงแค่ตบไหลของเขาเบา ๆ พร้อมกล่าวว่า “รู้ว่าผิดก็แค่เปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร......ซือสิง จดจำคำพูดของอาจารย์เอาไว้ให้ดี เมื่อเผชิญหน้ากับคนไข้ที่ไร้ยางอาย พวกเราจำเป็นต้องไร้ยางอายมากกว่าเขา”

อ่า...... 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ