นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1218

เฟิ่งชิงเฉินอยู่ในอ้อมแขนของหลานจิ่วชิง นางมองเขาด้วยความงุนงง สายตาทั้งสองคู่ประสานกัน เฟิ่งชิงเฉินยิ่งรู้สึกว่าความรู้สึกที่หลานจิ่วชิงให้กับนางช่างเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคยยิ่งนัก

ลมหายใจที่ต่างกัน แต่กลับนำมาซึ่งความรู้สึกที่เหมือนกัน

ก่อนหน้านี้นางไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่วันนี้นางได้ยินคำว่า “ตัวแทน” จากปากของนางสนมในจวนชุนอ๋อง มันจึงทำให้นางหยุดความคิดที่วุ่นวายไม่ได้

สาวสวยอยู่ในอ้อมกอด หลานจิ่วชิงก็ไม่ใช่สุภาพบุรุษที่จะผลักนางออกไป เขาระงับเสียงของเขา จากนั้นกระซิบข้างถามข้างหูของเฟิ่งชิงเฉินว่า “เป็นอะไรไปงั้นหรือ?”

ลมหายใจอุ่น ๆ พัดผ่านหู ทำให้อาการและสีหน้าของเฟิ่งชิงเฉินไม่มั่นคง เฟิ่งชิงเฉินกลืนน้ำลาย ดูถูกตัวเองว่าถูกล่อลวงด้วยความงามอีกครั้ง

เฟิ่งชิงเฉินรีบผลักหลานจิ่วชิงออกไป ยืนอย่างมั่นคงและกล่าวว่า “ไม่มีอะไร เมื่อครู่ขอบใจเจ้ามาก”

ไม่ได้ทำอะไรแต่กลับกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของคนอื่น คนที่ไม่รู้อะไรอาจคิดว่านางอยากถูกผู้อื่นกอดจนใจจะขาด เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกดูถูกตัวเอง หลังจากนี้นอกจากเสด็จอาเก้า นางจะต้องรักษาระยะห่างจากผู้ชายทุกคน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ร่างกายสัมผัสกัน

ความคลุมเครือเหล่านี้มันสามารถพรากชีวิตคนได้

หลานจิ่วชิงก้มลงมองสองมือที่ว่างเปล่า เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็แสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ “ไม่เป็นไร ถนนของจวนชุนอ๋องไม่เรียบ เจ้าต้องระวังให้มากและตามหลังข้ามา”

หลานจิ่วชิงกล่าวด้วยการเล่นสำนวน เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง แต่ในใจคิดว่านางต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถถอดหน้ากากของหลานจิ่วชิงออกมาได้?

เนื่องจากเกิดความสงสัย เช่นนั้นก็จำเป็นต้องพิสูจน์

เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่ที่เดิม ครุ่นคิดว่าควรจะเอ่ยปากขอร้องไปโดยตรงเลยดีหรือไม่ หลานจิ่วชิงจะยอมรับคำขอของนางหรือเปล่า?

หลานจิ่วชิงเข้ามาใกล้ห้องไว้ทุกข์อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อหันกลับไปแล้วพบว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ยอมตามเขามา จึงเป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเฟิ่งชิงเฉิน หลานจิ่วชิงจึงรีบวิ่งกลับไป แต่พบว่าเฟิ่งชิงเฉินยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขาจึงขมวดคิ้วและพูดออกมาว่า “เฟิ่งชิงเฉิน เหตุใดตอนนี้เจ้าถึงมายืนเหม่ออยู่ที่นี่?”

พวกเขาบุกเข้ามาในจวนชุนอ๋องยามค่ำคืน แถว ๆ นี้เต็มไปด้วยองครักษ์ แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับกล้ามายืนเหม่อลอยอยู่ตรงนี้ นางไม่เกรงกลัวเลยหรืออย่างไร

“ข้า......เขากำลังคิดถึงปัญหาอย่างหนึ่งอยู่” เมื่อถูกจับได้ เฟิ่งชิงเฉินเองก็รู้สึกไม่ค่อยดีจึงรีบหาเหตุผลในการตอบกลับไป

“กำลังคิดถึงปัญหา? ในเวลานี้เจ้ายังมีเรื่องสำคัญอะไรให้คิดอีกอย่างนั้นหรือ?” จะเหม่อลอยก็ต้องเลือกเวลาและสถานที่ด้วยเช่นกัน

ในเมื่อหลานจิ่วชิงถามออกมา เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่เกรงใจ นางตอบกลับไปโดยตรงว่า “ข้ากำลังคิดว่า ภายใต้หน้ากากของเจ้า จะมีรูปลักษณ์อย่างไรรออยู่กันแน่?”

“ทำไมหรือ? เจ้าอยากเห็นใบหน้าที่แท้จริงของข้า?” หลานจิ่วชิงยิ้มออกมาที่มุมปาก แต่น่าเสียดายที่ถูกหน้ากากบังเอาไว้ เฟิ่งชิงเฉินไม่อาจมองเห็นมันได้

เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าจากใจจริง แต่หลานจิ่วชิงกลับยิ้มออกมาอย่างล้อหลอก “ข้าคิดว่า เจ้าคงไม่มีวันสนใจใบหน้าที่แท้จริงของข้า”

เฟิ่งชิงเฉินรีบส่ายหน้า “จะเป็นไปได้อย่างไร ข้าอยากรู้มาโดยตลอด เพียงแต่.....ในเมื่อเจ้าใส่หน้ากากเอาไว้ แน่นอนว่าเจ้าไม่อยากให้ใครรู้ว่าใบหน้าที่แท้จริงของเจ้าเป็นอย่างไร ดังนั้นข้าจึงไม่อยากถาม”

เป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่อยากรู้ นางเองก็เป็นคน เพียงแต่นางสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี ภายใต้สถานการณ์ทั่วไป นางไม่มีทางแสดงความอยากรู้อยากเห็นของตนเองออกมาเป็นแน่

“งั้นหรือ? ข้ามองไม่ออกจริง ๆ ว่าเจ้าเคยสนใจเกี่ยวกับเรื่องหน้าตาของข้าด้วย” หลานจิ่วชิงพูดจาดูถูกตัวเอง “เฟิ่งชิงเฉิน พวกเรารู้จักกันมาปีกว่า ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าพูดเรื่องนี้ออกมา เจ้าอยากรู้ว่าใบหน้าของข้าเป็นอย่างไร หรือแค่เจ้ารู้สึกว่าตัวข้านั้นคล้ายกับเสด็จอาเก้าในบางเรื่องกันแน่”

ไม่โทษที่หลานจิ่วชิงคิดมาก นั่นเป็นเพราะ......

เฟิ่งชิงเฉินไม่เคยพูดเช่นนี้ออกมาเพียงเพราะต้องการตอบสนองความสงสัยในใจของตัวเอง

“ข้ายอมรับว่าสิ่งที่เจ้าพูดออกมามันก็เป็นหนึ่งเหตุผล เจ้าให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยกับข้า ข้ารู้สึกว่าข้าน่าจะเคยเห็นใบหน้าภายใต้หน้ากากของเจ้า แต่ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร” ใบหน้าที่เปิดเผยออกมาครึ่งหนึ่งของหลานจิ่วชิงนั้นหล่อเหล่าเป็นอย่างมาก แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่รู้ว่าใบหน้าอีกครึ่งที่เหลือของเขานั้นเป็นอย่างไร และนางก็ไม่อาจจินตนาการได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ