ใต้หล้าไม่เคยสงบสุขมาก่อน หยุดเพื่อพักฟื้น จากนั้นก็สู้กันใหม่อีกครั้ง!
หลานจิ่วชิงชี้ไปที่ห้องไว้ทุกข์และกล่าวออกมา “องค์หญิงเหยาหวาตายในดินแดนตงหลิง สิ่งนี้สำหรับซีหลิงแล้วถือเป็นโอกาสอันดียิ่ง ถึงเวลานั้น ซีหลิงจะใช้การตายขององค์หญิงเหยาหวาเป็นข้ออ้างในการยกทัพมายังตงหลิง”
หลานจิ่วชิงพูดสิ่งเหล่านี้ออกมาโดยไม่ลังเล ทำให้เฟิ่งชิงเฉินตกใจเป็นอย่างมาก “ซีหลิงจะยกทัพออกมา? ซีหลิงคิดจะโจมตีตงหลิงอย่างนั้นหรือ? พวกเขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า”
ซีหลิงเพิ่งจะสูญเสียทหารไปมากกว่าสามแสนนาย หากยกทัพมาโจมตีจริง ๆ ฝ่ายที่เสียเปรียบก็คือฝ่ายของซีหลิงเอง แล้วซีหลิงจะได้ประโยชน์อะไรจากสิ่งนี้?
เฟิ่งชิงเฉินไม่เข้าใจ!
เฟิ่งชิงเฉินไม่เข้าใจ หลานจิ่วชิงก็ไม่ได้มีความคิดที่จะอธิบายให้นางฟัง ไม่นานร่างเงาสีดำสามคนที่อยู่ในห้องไว้ทุกข์ก็หนีออกไป ทำให้หลานจิ่วชิงและเฟิ่งชิงเฉินได้ประโยชน์ในครั้งนี้ไปโดยปริยาย
ทันทีที่หลานจิ่วชิงเข้าไป เขาตรวจสอบศพของผู้คุ้มกันที่เสียชีวิต “เป็นวิธีการสังหารของทหารซีหลิงอย่างที่คิด”
เฟิ่งชิงเฉินเดินมาด้านข้างศพขององค์หญิงเหยาหวา ไม่รู้ว่านางหยิบถุงมือออกมาจากที่ไหน นางเริ่มตรวจสอบศพขององค์หญิงเหยาหวา “องค์หญิงเหยาหวาถูกคนอื่นฆ่าตาย นางไม่ได้ถูกรัดคอตาย ที่คอของนางมีบาดแผลสด น่าจะเป็นฝีมือของสามคนเมื่อครู่ พวกเขาสร้างร่องรอยปลอมแปลงขึ้นมาว่าองค์หญิงเหยาหวาถูกรัดคอตาย จากนั้นนำมาแขวนคอ ช่างเป็นวิธีการที่ต่ำช้าเป็นอย่างมาก”
เฟิ่งชิงเฉินเม้มริมฝีปากด้วยความรังเกียจ
หากพี่สาวของนางอยู่ที่นี่ นางจะต้องดูหมิ่นผู้ที่ก่ออาชญากรรมเช่นนี้เป็นแน่ นี่มันไม่เป็นมืออาชีพเอาเสียเลย ฆ่าผู้อื่นแต่กลับไม่รอบคอบ มันไม่สมกับคำว่ามืออาชีพจริง ๆ
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?” ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ เวลานี้หลานจิ่วชิงได้ลอยมาอยู่ข้างกายของเฟิ่งชิงเฉินแล้ว
ที่ใช้คำว่าลอยมา นั้นเป็นเพราะเวลาที่หลานจิ่วชิงเดิน มันไม่มีเสียงดังขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย
ครั้งนี้เฟิ่งชิงเฉินชี้ไปที่ศพขององค์หญิงเหยาหวา จากนั้นเปิดปากขององค์หญิงเหยาหวาออก “มันง่ายมาก หากตายเพราะแขวนคอ ลิ้นจะต้องยื่นออกมา มันก็เหมือนกับผีที่ตายเพราะการผูกคอตายที่ทุกคนพูดถึง การตายด้วยการแขวนคอเป็นวิธีการที่แสนทุกข์ทรมาน ลมหายใจจะค่อย ๆ หมดไปอย่างช้า ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด บิดเบี้ยวไปทีละน้อย เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดเหล่านั้น มือทั้งสองข้างของผู้ตายจะต้องจับเชือกเอาไว้ ดังนั้นจะต้องมีร่องรอยของเชือกอยู่บนฝ่ามือ และข้าทั้งสองข้างจะต้องแกว่งไปมาบนอากาศ ซึ่งจะต้องมีบาดแผลเกิดขึ้นเป็นแน่ แต่เจ้าลองดูศพขององค์หญิงเหยาหวาในเวลานี้?”
ตามคำกล่าวของเฟิ่งชิงเฉิน นางค่อย ๆ แสดงร่องรอยแต่ละจุดบนร่างกายขององค์หญิงเหยาหวาออกมาให้หลานจิ่วชิงเห็น
แม้ว่านางจะไม่ใช่แพทย์นิติเวชที่เป็นมืออาชีพ แต่พี่สาวของนางนั้นใช่ การที่นางรู้เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
หลานจิ่วชิงพยักหน้า ไม่ได้แตะต้องศพขององค์หญิงเหยาหวาแต่อย่างใด แม้ว่าเหยาหวาจะเป็นผู้หญิงที่งดงาม แต่ต่อให้งดงามแค่ไหนนางก็เสียชีวิตมาแล้วสองถึงสามวัน ศพของนางจึงไม่ค่อยดูดีเสียเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อากาศร้อนจัดเช่นนี้ ชุนอ๋องไม่ได้นำน้ำแข็งมาวางไว้รอบศพของเหยาหวา เวลานี้ศพของนางเริ่มเน่า ในห้องไว้ทุกข์ก็มีกลิ่นเหม็นโชยออกมา
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าสาเหตุการตายที่แท้จริงของนางคืออะไร?” หลานจิ่วชิงบอกให้เฟิ่งชิงเฉินออกไปด้านนอกก่อนแล้วค่อยว่ากัน
สถานที่แห่งนี้ไม่อาจอยู่ได้เป็นเวลานาน
“ไม่ได้ ข้ายังหาสาเหตุการตายของนางไม่เจอ ข้าขอตรวจสอบอีกเล็กน้อย” เฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่แพทย์นิติเวชมืออาชีพ นางไม่มีความสามารถในการคาดการรูปแบบของคดี
หลานจิ่วชิงส่ายหน้าพร้อมปฏิเสธออกมา “ไม่จำเป็น นางจะตายด้วยวิธีใดนั้นไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญก็คือ พวกเรารู้แล้วว่านางไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่เป็นการตายที่ไม่คาดฝัน”
“พูดเช่นนี้ เจ้ารู้แล้วหรือว่าเป็นฝีมือของใคร? ใครคือฆาตกร?” เฟิ่งชิงเฉินถามออกมา
“ฆาตกรเป็นใครข้าเองก็ไม่รู้ แต่ข้ารู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังของฆาตกรเป็นใคร หากไม่ใช่ราชวงศ์ซีหลิงก็น่าจะเป็นราชวงศ์ตงหลิง หากเป็นฝีมือของราชวงศ์ตงหลิง เรื่องทั้งหมดมันก็เกิดขึ้นจากความยินยอมของราชวงศ์ซีหลิงเช่นกัน การจากไปขององค์หญิงเหยาหวาเป็นเพียงข้ออ้างในการทำสงครามของทั้งสองประเทศ สิ่งเหล่านี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา” หลานจิ่วชิงจับแขนของเฟิ่งชิงเฉินและลากนางออกมาด้านนอก
และมือของเฟิ่งชิงเฉินก็เพิ่งจะสัมผัสกับศพมาหมาด ๆ
ทั้งสองคนเดินกลับไปทางเดิม กลับมายังห้องของตนเอง หลานจิ่วชิงจุดตะเกียงขึ้นมา เฟิ่งชิงเฉินถอดถุงมือและทำความสะอาดมือของนาง ตอนแรกนางคิดจะพูดคุยกับหลานจิ่วชิงเกี่ยวกับเรื่องการตายขององค์หญิงเหยาหวา แต่หลานจิ่วชิงกลับพูดออกมาว่า “พรุ่งนี้ให้รีบกลับไปยังจวนเฟิ่ง ข้ายังมีเรื่องต้องให้ไปจัดการ ขอตัวก่อน” จากนั้นเขาก็หายตัวไป
“รอก่อน......” เฟิ่งชิงเฉินคิดจะไล่ตามไป แต่นางมองไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา เช่นนั้นนางจะตามไปได้อย่างไร?
และแสงเทียนที่สว่างขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้ดึงดูดความสนใจของเหล่าผู้คุ้มกัน “แม่นางเฟิ่ง ท่านเป็นอะไรไปงั้นหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...