อ่านสรุป บทที่ 1224 ไม่ยอมคุกเข่า, ให้เกียรติไม่รับเกียรติ จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บทที่ บทที่ 1224 ไม่ยอมคุกเข่า, ให้เกียรติไม่รับเกียรติ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาช้าย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เจ้าเคยเห็นผู้ต้องสงสัยที่โอหังต่อเจ้าหน้าที่อย่างนั้นหรือ?
หากเป็นก่อนหน้านี้อาจจะไม่เคยเห็น เช่นนั้นวันนี้ก็ดูเสียให้ดี ผู้ต้องสงสัยที่โอหังกว่าเจ้าหน้าที่เป็นร้อนเท่านั้นเป็นเช่นไร
เฟิ่งชิงเฉินบอกให้ซุนซือสิงและพ่อบ้านถอยออกไป ราชองครักษ์ยังอยากจะเอ่ยถึงสิ่งที่ซุนซือสิงกล่าวออกมาเมื่อครู่ แต่เขายังไม่ทันได้พูดออกมา เฟิ่งชิงเฉินก็พูดออกมาก่อนว่า “พ่อบ้าน จดบันทึกทุกคำพูดและการกระทำของเจ้าหน้าที่เหล่านี้ตั้งแต่เดินทางเข้ามาในจวนเฟิ่ง จากนั้นส่งกลับไปยังราชสำนัก บอกว่าราชองครักษ์ใช้คำสั่งขององค์จักรพรรดิในการกลั่นแกล้งราษฎร”
ใครร้ายและต่อว่าผู้อื่นด้วยคำพูดหยาบคาย ใครบ้างที่ทำไม่เป็น ช่วงเวลาสิบปีแห่งความโกลาหล คำพูดหยาบคายเหล่านั้น คนพวกนี้ยังไม่เคยได้ยินเลยด้วยซ้ำ
“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าจะทำเกินไปแล้ว อย่าคิดว่าพวกข้าไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้” สีหน้าของหัวหน้าราชองครักษ์เปลี่ยนไป จ้องเขม็งมาที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยสายตาที่ดุร้าย
“พ่อบ้าน วงประโยคเมื่อครู่เอาไว้ บอกว่าพวกเขากำลังข่มขู่ข้า” ท่าทางของเฟิ่งชิงเฉินดูเฉยเมย แต่พ่อบ้านดูกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ตอบรับคำสั่งอย่างจริงจัง
คนรับใช้ในจวนเฟิ่งต่างรู้หน้าที่ของตนเองเป็นอย่างดี หยิบพู่กัน น้ำหมึกและกระดาษออกมา จดทุกคำพูดของเฟิ่งชิงเฉิน
“พวกเจ้า......” ใบหน้าของราชองครักษ์ดูไม่ได้ “เชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถทำให้พวกเจ้า......”
พูดได้เพียงแค่ครึ่งเดียว อีกครึ่งหนึ่งไม่อาจพูดออกมาได้ เนื่องจากเกรงว่าเฟิ่งชิงเฉินจะกล่าวหาว่าเขาคุกคามนาง
“จะทำอะไรพวกข้าอย่างนั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวอย่างติดตลก ท่าทางที่เย่อหยิ่งของนางทำให้อีกฝ่ายโกรธจนแทบคลั่ง
หัวหน้าราชองครักษ์โกรธจนแทบกระอักเลือด ใบหน้าของเขากลายเป็นสีดำ ก้มหน้าพร้อมกล่าวว่า “แม่นางเฟิ่ง เมื่อครู่พวกข้าล่วงเกินแล้ว ด้วยความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของหมอผู้ยิ่งใหญ่อย่างแม่นางเฟิ่ง ได้โปรดอย่าถือโทษพวกข้าเลย ได้โปรดอย่าทำให้พวกข้าต้องลำบากใจ”
ผู้ชายสามารถอดทนต่อความยากลำบากได้ แต่พวกเขาไม่อยากจะเสียท่าภายใต้เนื้อมือของเฟิ่งชิงเฉิน ไม่กล้าเข้ามาพัวพันกับเฟิ่งชิงเฉินมากนัก เมื่อรู้แล้วว่าไม่อาจทำอะไรอีกฝ่ายได้ ดังนั้นก็แค่พาตัวอีกฝ่ายกลับไปที่พระราชวังแต่โดยดีแล้วค่อยจัดการทีหลังก็ยังไม่สาย
“หากเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรกมันก็ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องบังคับให้ข้าต้องหยิ่งผยอง” เฟิ่งชิงเฉินแสดงให้เห็นถึงตัวอย่างของการเชื่อฟัง ราชองครักษ์กัดฟันด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่กล้าคุกคามเฟิ่งชิงเฉินด้วยวาจาหรือการกระทำแต่อย่างใด
“ขอบคุณสำหรับบทเรียนของแม่นางเฟิ่ง” หัวหน้าราชองครักษ์กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มอันเสแสร้ง
ไม่ใช่ว่าพวกเขากลัวเฟิ่งชิงเฉิน แต่สิ่งที่พวกเขากลัวก็คือวิธีการของเฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินต้องการบอกพวกเขาว่า ต่อให้พวกเขาไม่ได้ทำอะไร พวกเขาก็สามารถถูกกล่าวหาหรือถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติมได้
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเฟิ่งชิงเฉินเข้าไปในพระราชวัง อย่างไรก็ต้องมีคนสั่งสอนบทเรียนให้นาง พวกเขาค่อยรอดูความสนุกในตอนนั้นจะดีกว่า
ซุนซือสิงและคนในจวนเฟิ่งปลอดภัย เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่อยากสร้างปัญหาให้กับราชองครักษ์ นางขึ้นรถม้าด้วยความร่วมมือเป็นอย่างดี ใบหน้าของนางยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม คนที่ไม่รู้เรื่องราวคงคิดว่านางกำลังเดินทางเข้าไปร่วมงานแต่งในพระราชวัง
ในพระราชวัง ไม่เพียงแต่จักรพรรดิเท่านั้นที่กำลังรอนางอยู่ แต่ทูตของซีหลิงก็กำลังรอการมาถึงของเฟิ่งชิงเฉินอยู่ด้วย เมื่อเห็นใบหน้าอันบึ้งบูดของพวกเขา ก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาไม่พอใจที่ตงหลิงโยนความผิดครั้งนี้ให้กับเฟิ่งชิงเฉิน
เฟิ่งชิงเฉินเหมือนกับมันฝรั่งร้อน ใครรับไปก็เท่ากับว่าคนผู้นั้นเป็นผู้โชคร้าย อย่าว่าแต่เรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้สังหารองค์หญิงเหยาหวาเลย ต่อให้นางเป็นคนสังหาร ซีหลิงก็ไม่มีทางพาตัวเฟิ่งชิงเฉินกลับไป
เจ้าว่าเมื่อถึงเวลา ซีหลิงจะสังหารเฟิ่งชิงเฉินหรือไม่?
หากสังหารเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้า ตระกูลหวังและเผ่าเสวียนเซียวกงไม่มีทางอยู่เฉยเป็นแน่ แต่หากไม่สังหาร เช่นนั้นราชวงศ์จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
ในตอนที่ทูตแห่งซีหลิงกำลังลังเล เฟิ่งชิงเฉินเดินเข้ามาในพระราชวัง ภายใต้การรายงานของขันทีใหญ่ เฟิ่งชิงเฉินเดินเข้ามาด้านในโดยไม่มีใครขัดขวาง
น่าเสียดายที่จักรพรรดิไม่ได้ชื่นชมท่าทางเช่นนั้นของเฟิ่งชิงเฉิน “ไม่สามารถคุกเข่าได้ เพราะเหตุใดงั้นหรือ? หรือว่าวันนี้เจ้านำปิ่นเฟิ่งติดตัวมาด้วยอีกแล้ว”
ใบหน้าของจักรพรรดิเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน เมื่อนึกถึงปิ่นเฟิ่ง จักรพรรดิก็นึกถึงพระสนมซูที่ตายไปขึ้นมาทันที ความเจ็บปวดปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของจักรพรรดิ แต่เมื่อนึกถึงการแสดงออกของนางสนมที่งดงามในเรือนหลังของเขา ประกอบกับพลังกำลังที่เพิ่มขึ้นของตนเอง ทำให้จักรพรรดิก็คล้ายความโศกเศร้าได้เล็กน้อย
พูดถึงปิ่นเฟิ่ง ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินเองก็เผยให้เห็นถึงความเจ็บปวดเช่นกัน หากรู้ตั้งแต่แรกว่าแม้พระสนมซูตายไปแล้วก็จะไม่เกิดเรื่องอะไร เช่นนั้นนางคงไม่มอบปิ่นเฟิ่งให้กับจักรพรรดิ
ความเจ็บปวดก็คือความเจ็บปวด เวลานี้สิ่งที่ต้องทำมันก็ยังต้องทำ เฟิ่งชิงเฉินหยิบแผ่นป้ายคำสั่งที่ห้อยอยู่บนคอของนางออกมา จับไว้ในมือแล้วแสดงออกมา “ฝ่าบาท ข้ามีป้ายคำสั่งของเสด็จอาเก้าอยู่ เสด็จอาเก้ากล่าวว่าหากได้เห็นของสิ่งนี้มันก็เหมือนกับการได้พบหน้าของเสด็จอาเก้า ข้านำแผ่นป้ายคำสั่งของเสด็จอาเก้าติดตัวมา มันเป็นตัวแทนของเสด็จอาเก้า เมื่อเสด็จอาเก้าเข้าเฝ้าฝ่าบาท เสด็จอาเก้าก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ต้องคุกเข่า ข้าที่ครอบครองแผ่นป้ายคำสั่งของเสด็จอาเก้า จึงไม่จำเป็นต้องคุกเข่าเป็นเรื่องธรรมดา”
ความคิดของเฟิ่งชิงเฉินนั้นไร้เหตุผลและต่างจากความเป็นจริง เสด็จอาเก้าไม่ต้องคุกเข่า นั่นก็เพราะเขาคือเสด็จอาเก้า แต่แผ่นป้ายคำสั่งมันคืออะไรกัน มันไม่มีค่าอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นเหล่าเสนาบดีก็พยักหน้าเห็นด้วย
คำพูดนี้ของเฟิ่งชิงเฉินไม่มีสิ่งใดผิด เสด็จอาเก้าไม่ต้องคุกเข่าต่อหน้าจักรพรรดิ แผ่นป้ายคำสั่งนี้เป็นตัวแทนของเสด็จอาเก้า แน่นอนว่าผู้ที่ถือครองแผ่นป้ายคำสั่งก็ไม่จำเป็นต้องคุกเข่า หากคุกเข่าก็เท่ากับว่าเป็นการหยามเกียรติเสด็จอาเก้า ทำให้เสด็จอาเก้าต้องอับอายขายหน้า มันก็เปรียบเสมือนกับตบหน้าจักรพรรดิองค์ก่อน เนื่องจากการที่เสด็จอาเก้าไม่ต้องคุกเข่ามันคือคำสั่งของจักรพรรดิองค์ก่อน
ในตอนนั้นจักรพรรดิเองก็นึกไม่ออกว่าคำพูดประโยคนั้นของเฟิ่งชิงเฉินมีความผิดพลาดประการใด แน่นอน เวลานี้เขาไม่มีเวลาว่างไปคิดเกี่ยวกับมัน ตอนนี้ความสนใจส่วนใหญ่ของจักรพรรดิมุ่งไปแผ่นป้ายคำสั่งที่อยู่ในมือของเฟิ่งชิงเฉินเท่านั้น
แผ่นป้ายคำสั่งนั้นเป็นตัวแทนของเสด็จอาเก้า หรือก็คือแผ่นป้ายคำสั่งนี้สามารถรวมพลกองทหารทั้งเมืองจักรพรรดิ รวมถึงกองพลทหารเสินจีได้
เมื่อนึกถึงกองพลทหารเสินจีอันลึกลับ ร่างกายของจักรพรรดิก็สั่นไปทั้งตัว พูดกับเฟิ่งชิงเฉินอย่างตื่นเต้น “เอาป้ายคำสั่งนั้นมาให้ข้าดูหน่อย”
เมื่อไปถึงมือของจักรพรรดิแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็อย่าหวังว่าจะได้มันกลับคืนมา......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...