บัณฑิตสร้างปัญหา จักรพรรดิเดาว่าเกิดจากการยุยงอย่างลับ ๆ ของหวังจิ่นหลิง แต่เขาก็ไม่ได้ลงโทษหวังจิ่นหลิงโดยตรง นอกจากจะมีหลักฐานที่แน่ชัด และสิ่งที่สำคัญก็คือ หวังจิ่นหลิงไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวจนมากเกินไป เขาเพียงแค่พูดออกมาไม่กี่ประโยคเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะบัณฑิตเหล่านั้นไม่สามารถทนต่อความตื่นเต้นได้ หากคิดจะใช้โอกาสนี้ในการลงโทษหวังจิ่นหลิง เกรงว่าคงเป็นเรื่องยาก!
อีกอย่าง แทนที่จะกดดันให้เฟิ่งชิงเฉินออกมายอมรับความผิด จักรพรรดิกลับเลือกที่จะโยนความผิดให้กับคนพวกนั้นของซีหลิง เรื่องที่จะโยนความผิดให้แก่เฟิ่งชิงเฉิน มันก็ไม่ใช่ความคิดของจักรพรรดิมาแต่ไหนแต่ไร เป็นเพียงความคิดของขุนนางที่เอ่ยขึ้นมาในตอนนั้น เขาไม่ได้ปฏิเสธ แค่ยอมรับอย่างเงียบ ๆ เท่านั้น
หวังจิ่นหลิงมาเพื่อปกป้อง จักรพรรดิเองก็ต้องให้เกียรติอีกฝ่าย เนื่องจากเจ้าสำนักศึกษาจี้เซี่ยต้องมาศึกษาในดินแดนตงหลิง ช่วงนี้มีบัณฑิตชื่อดังหลายคนเดินทางมายังตงหลิง หากเรื่องวุ่นวายในครั้งนี้ต้องทำให้บัณฑิตถูกจับเข้าไปขังในเรือนจำ เกรงว่ามันก็คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จักรพรรดิจึงใช้สิ่งนี้เป็นข้ออ้าง โบยบัณฑิตที่สร้างปัญหาสิบหวาย จากนั้นก็ปล่อยตัวพวกเขาไป
เหล่าบัณฑิตเห็นว่าปัญหาที่สร้างขึ้นไม่มีโทษถึงตาย เช่นนั้นจะต้องกลัวอะไร ปัญหายิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น พวกเขาทำเหมือนกับว่าเป็นเรื่องน่าขบขัน เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่องค์หญิงเหยาหวาทำในตงหลิงออกมาอย่างชัดเจน
เหล่าบัณฑิตสาปแช่งว่าองค์หญิงเหยาหวาเป็นคนไร้ค่า และเน้นไปที่เรื่ององค์หญิงเหยาหวาทำรังแกเด็กกำพร้าผู้ไม่มีพ่อแม่ของเฟิ่งชิงเฉินอย่างไร เวลานี้ทูตจากซีหลิงกล่าวหาว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นฆาตกรผู้สังหารเหยาหวาโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการโยนความผิดเพื่อระบายความแค้นส่วนตัวที่มีต่อองค์หญิงเหยาหวา
ทูตจากซีหลิงบอกว่าพวกเขาถูกใส่ร้ายอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม บอกว่าเฟิ่งชิงเฉินคือฆาตกรไม่ใช่พวกเขา แต่เหล่าบัณฑิตแห่งตงหลิงจะเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แก้ตัวได้อย่างไร
แม้ว่าการกระทำของเหล่าบัณฑิตจะหุนหันพลันแล่นเกินไป แต่พวกเขาก็ได้เตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี หากต้องการสาปแช่งใครสักคน พวกเขาไม่มีทางสาปแช่งเพียงลมปากที่ไร้สมอง แต่มันเป็นคำพูดที่เสียงแทงหัวใจ ทำให้เจ้ารู้สึกอับอายจนอยากฆ่าตัวตายไปเลยจะดีกว่า
เรื่องราวรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ข่าวลือในหมู่ของราษฎรก็ร้อนแรงขึ้นเช่นกัน ในตอนที่จักรพรรดิสังเกตเห็นก็ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะไม่สามารถปกปิดหรือระงับไว้ได้อีกต่อไป จักรพรรดิจึงสั่งให้หยุดข่าวลือดังกล่าว จากนั้นก็รับปากว่าตงหลิงสอบถามซีหลิง และต้องการคำอธิบายเกี่ยวกับการฆาตกรรมเชื้อพระวงศ์อย่างองค์หญิงเหยาหวาผู้
เหล่าบัณฑิตเห็นทัศนคติที่แน่วแน่ของจักรพรรดิที่โยนความผิดทั้งหมดให้กับซีหลิงอย่างชัดเจน พวกเขาก็เลิกสร้างความวุ่นวายอีกต่อไป และเริ่มทำการยกย่องในคุณธรรมของจักรพรรดิขึ้นมาแทน
ทูตจากซีหลิงเหล่านั้น ตอนแรกได้รับหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ต้องการตงหลิงส่งฆาตกรที่สังหารองค์หญิงเหยาหวาออกมา จักรพรรดิแห่งตงหลิงเองก็ให้ความร่วมมือ และเพื่อปกป้องชุนอ๋อง ไม่อยากให้สาเหตุการตายที่แท้ขององค์หญิงเหยาหวารั่วไหลออกมา ดังนั้นจึงยอมรับเงื่อนไขของทูตจากซีหลิงอย่างเงียบ ๆ
แต่เนื่องจากไม่อยากให้บัณฑิตสร้างความวุ่นวาย จักรพรรดิจึงแสดงทัศนคติที่ชัดเจนกว่าเดิมออกมา ด้วยเหตุนี้ทูตจากซีหลิงจึงไม่สบายใจ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปพวกเขาคงไม่สามารถปกป้องชีวิตดวงน้อย ๆ ของพวกเขาได้ แล้วเช่นนี้จะทำอย่างไรดี?
หลายวันที่ผ่านมานี้ เฟิ่งชิงเฉินใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเป็นอย่างมาก นางเพียงแค่จับตาดูเรื่องราวที่เกิดขึ้น และระมัดระวังว่าจักรพรรดิจะเล่นอะไรกับนางอีก
การเคลื่อนไหวของเซี่ยหว่านล้มเหลว ตัวตนของนางถูกเปิดเผย จักรพรรดิจะต้องมีวิธีการรับมือที่เตรียมไว้แล้วเป็นแน่ แต่น่าเสียดายที่รออยู่หลายวัน เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่เห็นจักรพรรดิจะเล่นงานอะไรนาง
เป็นไปไม่ได้ที่จักรพรรดิจะล้มเลิกความคิดเกี่ยวกับเรื่องการแย่งชิงป้ายคำสั่ง เฟิ่งชิงเฉินคิดว่า จักรพรรดิน่าจะรอให้จัดการเรื่องของเหยาหวาให้เสร็จก่อน เมื่อเรื่องของเหยาหวาจบสิ้นอย่างสมบูรณ์ จักรพรรดิจะได้มุ่งเป้ามาที่นางได้อย่างอิสระ แต่น่าเสียดาย......เมื่อถึงเวลานั้น จักรพรรดิก็คงไม่มีเวลาว่างแล้ว
เรื่องขององค์หญิงเหยาหวา หากเป็นไปตามการคาดเดาของหวังจิ่นหลิง จักรพรรดิจำเป็นต้องหาบันไดในการปีนขึ้นไป ทำให้เขาสามารถโยนความผิดทั้งหมดไปให้กับซีหลิงได้ หวังจิ่นหลิงมอบบันไดขั้นนั้นให้กับจักรพรรดิ จักรพรรดิจึงต้องเดินไปตามกระแสอย่างเป็นธรรมชาติ
ความขัดแย้งระหว่างประเทศทั้งสองอย่างตงหลิงและซีหลิงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลานี้ ทั้งสองประเทศก็ไม่มีเวลามาจับตาดูเฟิ่งชิงเฉิน ถูกเฟิ่งชิงเฉินก่อกวนถึงเพียงนี้ ตงหลิงตอบโต้กลับไปทันที และไม่ยอมรับว่าการตายขององค์หญิงเหยาหวานั้นเกี่ยวข้องกับเขา แม้ซีหลิงจะตำหนิตงหลิงว่าไร้ยางอาย แต่ความไร้ยางอายที่พูดถึง มันก็ไม่ได้มากไปกว่าซีหลิงสักเท่าไหร่
ข่าวลือในชนชั้นล่างค่อย ๆ ซาลงเรื่องจากคำสั่งของจักรพรรดิ เรื่องนี้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เหล่าบัณฑิตเห็นว่าความวุ่นวายที่ตนเองสร้างขึ้นประสบความสำเร็จ พวกเขาก็ดีใจเป็นอย่างมาก พากันไปดื่มอย่างเปรมปรีดิ์ที่โรงเหล้า โรงน้ำชา ลุกขึ้นมากล่าวชื่นชมเกี่ยวกับการกระทำของตัวเอง แต่งบทกวีต่าง ๆ เพื่อยกย่องว่าสิ่งที่ตนเองทำลงไปนั้นเป็นเหมือนการพลิกหน้าประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่
“บัณฑิตผู้มากความสามารถก็เป็นเช่นนี้ เป็นหนุ่มนี้มันยอดเยี่ยมจริง ๆ ไม่ว่าอยากทำเรื่องอะไรก็สามารถลงมือทำให้สำเร็จได้” คุณชายหยวนซีถือถ้วยน้ำชา ท่าทางของเขาเหมือนกับคล้อยไปตามอารมณ์ของบัณฑิตเหล่านั้น แต่ในสายกลับเห็นความเย้ยหยันในสายตาของเขา
เฟิ่งชิงเฉินยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เก็บสายตาอันเฉยชาของนางกลับมา ผ่านไปพักใหญ่ถึงจะพูดออกมาว่า “คุณชายเลี้ยงข้าวข้า ก็เพื่อให้ข้าได้เห็นความน่ารักของบัณฑิตเหล่านี้อย่างนั้นหรือ?”
เด็กหนุ่มนั้นทำอะไรบ้าบิ่น ทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความสุดโต่ง ขาดประสบการณ์ชีวิต ทำเรื่องเพียงเล็กน้อยแต่กลับคิดว่าตนเองแสร้งบุญคุณอันยิ่งใหญ่ให้แก่ประเทศ และเป็นผู้กล้าหาญในยุทธภพ
บัณฑิตพวกนี้ไม่ได้ทำอะไรผิด เพียงแต่พวกเขายังเด็กเกินไป ประสบการณ์น้อย แค่ประสบความสำเร็จเล็กน้อยก็ทำให้ดีใจจนออกนอกหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...