ตอน บทที่ 1241 วิธีสกปรก, เกิดเรื่องขึ้นกับจักรพรรดิน้อย จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1241 วิธีสกปรก, เกิดเรื่องขึ้นกับจักรพรรดิน้อย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
การผ่าตัดขององค์ชายแปดเป็นไปอย่างราบรื่น เฟิ่งชิงเฉินทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเท่านั้น ซุนซือสิงไม่ต้องการคำชี้แนะจากนางเลยแม้แต่น้อย หลังจากมือของเขาสัมผัสมีด ไม่ว่าจะเป็นความประหม่า ความกังวล หรือว่าตื่นเต้น ทั้งหมดได้สลายหายไปจากหัวใจของซุนซือสิง
องค์ชายแปดเองก็ดี เด็กกำพร้าที่ไร้พ่อแม่เองก็ดี ซุนซือสิงคิดว่าพวกเขาไม่ได้มีความแตกต่างกันแต่อย่างใด เนื่องจากตอนที่อยู่หน้าเตียงผ่าตัด สิ่งที่เขาสามารถทำได้ก็มีอยู่เพียงเท่านี้
เฟิ่งชิงเฉินทำหน้าที่ผู้ช่วยได้อย่างงดงาม ไม่จำเป็นต้องให้ซุนซือสิงเอ่ยปาก นางเตรียมอุปกรณ์ที่ซุนซือสิงต้องใช้ในรายการถนัดไปเอาไว้ และส่งให้เขาทันทีเมื่อต้องการ
อาจารย์และศิษย์ทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ คนหนึ่งหยิบ อีกคนหนึ่งใช้ ไม่จำเป็นต้องใช้สายตาก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ต้องการให้บุคคลที่สามเข้ามาแทรกแซง
เฟิ่งชิงเฉินหยิบผ้าออกมาเช็ดหน้าให้กับซุนซือสิง จากนั้นก็จับจ้องการเครื่องไหวของซุนซือสิงต่อไป ดวงตาของนางไม่กะพริบเลยด้วยซ้ำ
ทักษะทางการแพทย์ของซุนซือสิงไม่ธรรมดา แต่เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรก เขาก็ต้องกังวลเป็นเรื่องธรรมดา และคนไข้ที่เข้ารับการรักษาก็คือองค์ชายแปด หากเกิดเรื่องอะไรผิดพลาดขึ้นมา จักรพรรดิไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปเป็นแน่
การผ่าตัดดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่ในตอนที่กำลังจะเย็บแผล มีเลือดไหลออกมาจากปาก สีหน้าของเฟิ่งชิงเฉินและซุนซือสิงเปลี่ยนไปอย่างมาก เฟิ่งชิงเฉินยังดี เนื่องจากรู้ว่าอาการเช่นนี้ไม่ได้ส่งผลถึงชีวิต นางจึงสงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว “กดเอาไว้”
ซุนซือสิงลุกลี้ลุกลนขึ้นมาทันใด จนกระทั่งเสียงของเฟิ่งชิงเฉินก้องเข้ามาในหูของเขา เขาถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ และทำตามคำสั่งของเฟิ่งชิงเฉิน
“ห้ามเลือด!”
ซุนซือสิงไม่ได้ลังเลแต่อย่างใด และไม่ได้บอกให้เฟิ่งชิงเฉินรับช่วงต่อจากเขา แต่เขากลับมีจิตใจที่มั่นคง ดำเนินขั้นตอนตามแผนฉุกเฉินที่พวกเขาได้ตกลงกันไว้ เฟิ่งชิงเฉินเห็นว่าซุนซือสิงไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนก นางเองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“หลังจากห้ามเลือดเสร็จแล้ว ให้ทำการตรวจสอบบาดแผลอีกครั้ง หากไม่มีปัญหาค่อยทำการเย็บแผล” เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้เฝ้าดูอีกต่อไป แต่นางเดินไปเตรียมยาให้กับองค์ชายแปด
เนื่องจากมีเพียงสองคนเท่านั้น เฟิ่งชิงเฉินจึงต้องทำหน้าที่ทุกอย่าง
ซุนซือสิงพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร จ้องมองไปที่ริมฝีปากขององค์ชายแปดอีกครั้ง หลังจากมั่นใจแล้วว่าไม่มีปัญหา เขาก็แสดงท่าทีใส่เฟิ่งชิงเฉิน เพื่อบอกให้เฟิ่งชิงเฉินเข้ามาเย็บแผลให้กับองค์ชายแปด
บาดแผลถูกเย็บติดกัน พันด้วยผ้าพันแผล จากนั้นเฟิ่งชิงเฉินก็เตรียมยาแก้ปวดและแก้อักเสบให้กับองค์ชายแปดด้วย
เฟิ่งชิงเฉินไม่ค่อยได้ใช้ยาแก้ปวด ไม่ว่าจะเป็นหวังจิ่นหลิง ชุยห้าวถิง หรือแม้แต่หยุนเซียว เนื่องจากคนพวกนี้แม้เลือดไหลออกมาก็ไม่มีน้ำตา ร่างกายของพวกเขาราวกับไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวด ยาแก้ปวดที่นางเตรียมไว้จึงไม่ค่อยถูกใช้งาน
แต่องค์ชายแปดนั้นต่างออกไป องค์ชายแปดยังเป็นแค่เด็ก หลังจากยาชาหมดฤทธิ์ เขาจะต้องร้องไห้ออกมาเป็นแน่ เพื่อไม่ให้บาดแผลเปิดออก เฟิ่งชิงเฉินต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดให้กับองค์ชายแปด
องค์ชายแปดยังเป็นเด็ก การที่จะหาเส้นเลือดแดงนั้นจึงเป็นเรื่องยาก ซุนซือสิงจึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการค้นหาและเจาะเข็มเข้าไปจ่ายยา ซุนซือสิงชำเลืองมององค์ชายแปดที่นอนอยู่บนเตียงผ่าตัด พยายามอย่างเต็มที่เพื่อระงับความตื่นเต้นในใจของเขา จากนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เงียบสงบ “ท่านอาจารย์ พวกเราทำสำเร็จแล้ว!”
“การผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดี ซือสิง เจ้ายอดเยี่ยมมาก!” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวชื่นชมออกมาอย่างไม่ลังเล
สำหรับลูกศิษย์อย่างซุนซือสิงผู้นี้ นับวันเฟิ่งชิงเฉินก็ยิ่งรู้สึกภูมิใจในตัวเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกนี้ไม่มีเรื่องอะไรยอดเยี่ยมไปกว่าการได้รับลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้มาเลี้ยงดู เฟิ่งชิงเฉินมั่นใจเป็นอย่างมากว่า ในอนาคต ซุนซือสิงจะต้องก้าวข้ามนางไปได้เป็นแน่
นางซึ่งเป็นอาจารย์เองก็ต้องพยายามอย่างสุดความสามารถ ไม่อย่างนั้นอาจจะถูกลูกศิษย์ผู้นี้ทิ้งห่างจนไม่อาจเอื้อมถึง
อาจารย์และลูกศิษย์เข็นองค์ชายแปดออกมานอกห้องผ่าตัด เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย พวกเขาถึงเข็นองค์ชายแปดออกมาด้านนอก ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก สนมเอกเซี่ยก็ก้าวเข้ามาทันใด มองมาที่เฟิ่งชิงเฉินและซุนซือสิงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล “เสี่ยวปาเป็นอย่างไรบ้าง?”
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้พูดอะไร แต่มองมาที่ซุนซือสิง ซุนซือสิงคือคนที่ทำการผ่าตัดในครั้งนี้ แน่นอนว่าเขาจะต้องเป็นคนประกาศข่าวดีให้กับญาติของคนไข้ได้รับรู้
ในตอนที่ซุนซือสิงอยู่หน้าเตียงผ่าตัด เขาสามารถสงบสติอารมณ์ ควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับสนมเอกเซี่ย เขาก็มีอาการประหม่าเล็กน้อย พูดติดอ่าง “เหนียงเหนียงไม่ต้องกังวล องค์ชายแปดปลอดภัยแล้ว”
“แต่เหตุใดเขาจึงยังไม่ฟื้นขึ้นมา?” สนมเอกเซี่ยถามออกมาอีกครั้ง
เวลานี้ความสนใจทั้งหมดของนางมุ่งเป้าไปที่องค์ชายแปด การที่นางถามออกมาเช่นนี้ไม่ได้แปลว่านางไม่เชื่อใจในตัวของซุนซือสิง
ฮือฮือฮือ......เดิมทีมันคืองานของซุนซือสิง แต่เวลานี้ทั้งหมดกลับตกเป็นหน้าที่ของนาง ช่วยไม่ได้ ตอนนี้ใครใช้ให้ซุนซือสิงเป็นผู้ดำเนินการผ่าตัด และนางเป็นเพียงแค่ผู้ช่วย
หลังจากทำความสะอาดห้องผ่าตัดเป็นอันเรียบร้อย เฟิ่งชิงเฉินก็เตรียมเครื่องมือที่ต้องใช้สำหรับการผ่าตัดในช่วงบ่าย ตอนบ่ายพวกเขายังมีการผ่าตัดรออยู่อีกสองครั้ง ไม่สามารถปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ได้
หลายวันหลังจากนั้น เฟิ่งชิงเฉินมีความรู้สึกว่าตนเองได้กลับไปในยุคปัจจุบัน ทุกวันล้วนต้องทำการผ่าตัด มีผู้ป่วยจำนวนมากรออยู่ เป็นการทำงานที่ไม่มีอันสิ้นสุด
เด็กที่พิการมาแต่โดยกำเนิดนั้นมีไม่มาก ส่วนใหญ่ก็ถูกจัดการไปตั้งแต่ตอนแรกเกิด แต่ก็ไม่ใช่พ่อแม่ทุกคนจะเลือดเย็นถึงเพียงนี้ มีหลายครอบครัวที่แอบเลี้ยงเด็กเหล่านั้นไว้ และหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือในอนาคต
การที่ซุนซือสิงปรากฏตัวออกมาในเวลานี้ สำหรับพวกเขาแล้วมันเหมือนกับการปรากฏตัวของพระเจ้า ครั้งนี้ซุนซือสิงพาเด็กกลับมาทั้งหมดสิบหกคน แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมีอาการปากแหว่ง ในหมู่ของเด็กพวกนั้นยังมีโรคอื่นอยู่ด้วย และช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เฟิ่งชิงเฉินและซุนซือสิงก็ยุ่งอยู่กับการรักษาเด็กทั้งสิบหกคน
เฟิ่งชิงเฉินและซุนซือสิงสองคน ต้องทำการรักษาให้กับเด็กทั้งสิบหกคน และรับผิดชอบในการดูแลหลังการผ่าตัด มันคือภาระงานที่หนักหน่วงเกินกว่าจะจินตนาการได้
สามวันหลังจากการผ่าตัดขององค์ชายแปด ในแต่ละวัน เฟิ่งชิงเฉินและซุนซือสิงได้นอนไม่เกินวันละสามชั่วโมง ซึ่งมันเป็นเหมือนการไม่เคารพต่อองค์ชายแปดเล็กน้อย
แม้สนมเอกเซี่ยจะไม่พอใจ แต่ในเมื่อองค์ชายแปดไม่ได้เป็นอะไร นางจึงไม่ได้พูดอะไรมาก ส่วนสาวใช้สองคนที่ถูกจักรพรรดิส่งมาก็ไม่พอใจเป็นอย่างมากเช่นกัน
หลังจากองค์ชายแปดฟื้นขึ้นมาแล้ว เนื่องจากอาการปวดของบาดแผล มันทำให้ยากที่จะดูแล สนมเอกเซี่ยมอบหน้าที่การดูแลองค์ชายแปดให้กับพวกเขาทั้งสองคน ทำให้หลายวันที่ผ่านมา สาวใช้ทั้งสองไม่ได้หลับไม่ได้นอน จึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเดินเพ่นพ่านในจวนเฟิ่งเพื่อขโมยแผ่นป้ายคำสั่ง
ทั้งสองคนไม่ได้นอน ภารกิจที่จักรพรรดิมอบหมายมาให้ก็ไม่สำเร็จ จึงทำให้พวกนางอดโมโหไม่ได้ ในคืนนั้น ทั้งสองคนก็ต้องรับหน้าที่ดูแลองค์ชายแปด ซึ่งองค์ชายแปดก็ร้องไห้ออกมากลางดึกถึงสองครั้ง
กว่าจะทำให้องค์ชายแปดสงบลงได้ ท้องฟ้าก็ใกล้จะสว่างแล้ว ทั้งสองดูเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก หลังจากที่มองหน้ากัน พวกนางก็ชำเลืองมองไปที่องค์ชายแปด ความชั่วร้ายปรากฏออกมาให้เห็นในแววตาของพวกนาง......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...