นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1242

สาวใช้ทั้งสองรู้เพียงแค่ความลำบากของตนเอง แต่ไม่รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินและคนในจวนเฟิ่งนั้นลำบากยิ่งกว่า

หลายวันที่ผ่านมานี้ ในแต่ละวัน เฟิ่งชิงเฉินและซุนซือสิงต้องทำการผ่าตัดสี่ถึงห้าครั้ง ผ่าตัดจนปวดมือไปหมดแล้ว และไม่ต้องพูดถึงเรื่องการดูแลพวกเขาหลังจากการผ่าตัด ให้ความสนใจกับการฟื้นตัวของพวกเขา

แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ ทั้งสองคนก็ยังสลับกันเฝ้าเด็กเหล่านั้นตลอดทั้งคืน เพื่อหลีกเลี่ยงหากเกิดเหตุการณ์คับขัน วันนี้เป็นหน้าที่ของเฟิ่งชิงเฉินที่จะต้องเฝ้าในช่วงกลางคืน ในทุกชั่วยาม เฟิ่งชิงเฉินจะต้องเดินไปยังห้องผู้ป่วยเพื่อตรวจความเรียบร้อยของผู้ป่วยตัวน้อยเหล่านั้น

ภาระงานอันหนักหน่วง ทำให้ไม่สามารถหยุดพัก แต่สภาพจิตใจของเฟิ่งชิงเฉินยังคนแจ่มใส สำหรับนางแล้ว การที่นางมีอะไรทำอยู่ตลอดเวลาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะหากนางมีเวลาว่าง นางก็คงอดคิดถึงเสด็จอาเก้าไม่ได้

เมื่อเห็นว่าท้องฟ้าใกล้สว่าง เฟิ่งชิงเฉินจึงเดินไปตรวจดูที่ห้องผู้ป่วยอีกครั้ง กล่าวทักทายหมอหญิงที่ดูแลเด็กเหล่านั้น และเมื่อเห็นว่ายังเป็นช่วงเช้าอยู่ เฟิ่งชิงเฉินจึงวางแผนว่าจะไปดูอาการขององค์ชายแปดบ้าง

ในแต่ละวัน เฟิ่งชิงเฉินจะมาตรวจดูอาการขององค์ชายแปดเพียงแค่หนึ่งครั้ง ทางด้านขององค์ชายแปดมีหมอหลวงสองคนคอยเฝ้าดูแลอยู่ตลอดเวลา และยังมีหมอหญิงสองคน สาวใช้อีกสองคนที่ผลัดกันมาดูแล

ห้าวันผ่านไป อาการขององค์ชายแปดก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลากลางวัน ผู้ที่ไปจ่ายยาให้กับองค์ชายแปดก็คือซุนซือสิง เมื่อเทียบกับเด็กคนอื่น ๆ องค์ชายแปดได้รับการดูแลที่ดีกว่าเป็นอย่างมาก

ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังเดินไปถึงด้านนอกลานที่พักขององค์ชายแปด นางก็ได้ยินเสียงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากด้านใน ประกอบกับเสียงเด็กร้อง สีหน้าของเฟิ่งชิงเฉินเปลี่ยนไปทันที นางจึงรีบวิ่งเข้าไปด้านใน

“แย่แล้ว แย่แล้ว องค์ชายแปดมีเลือดออก”

“เร็วเข้า เร็วเข้า หมอหลวง หมอหลวงอยู่ที่ไหน องค์ชายแปดมีเลือดออก”

......

ในตอนที่เดินเข้ามาใกล้ก็ได้ยินเสียงสาวใช้ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย เฟิ่งชิงเฉินตรงเข้าไปทันที เสียงเปิดประตูดังลั่น เห็นสาวใช้สองคนกำลังตะโกนส่งเสียงดังอยู่ข้างหูขององค์ชายแปด เฟิ่งชิงเฉินโกรธเป็นอย่างมาก ยกเท้าขึ้นถีบสาวใช้ทั้งสองทันที “ไสหัวไป!”

องค์ชายแปดยังอายุน้อย แน่นอนว่าไม่มีทางทนความตกใจเช่นนี้ได้ สาวใช้ทั้งสองตะโกนเสียงดังข้างหู แน่นอนว่าไม่ใช่เจตนาที่ดี

“หมอเฟิ่ง......” สาวใช้ทั้งสองเห็นการปรากฏตัวของเฟิ่งชิงเฉิน ความตื่นตระหนกฉายแววออกมาจากดวงตา พวกนางคำนวณเวลาเป็นอย่างดีว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่มีทางมาที่นี่เวลานี้

เฟิ่งชิงเฉินจ้องมองสาวใช้ทั้งสองด้วยแววตาอันดุร้าย ไม่สนใจพวกนาง เดินเข้าไปตรวจสอบอาการขององค์ชายแปด

ใบหน้าเล็ก ๆ ขององค์ชายแปดกลายเป็นสีแดง ร้องไห้ออกมาอย่างสุดเสียง ผ้าพันแผลที่อยู่ตรงปากชุ่มไปด้วยเลือด เมื่อเห็นเช่นนั้นเฟิ่งชิงเฉินก็รู้สึกโกรธจัด

อาการขององค์ชายแปดดีขึ้นมาแล้ว สองสามวันที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด ตอนกลางวันยังยิ้มแย้มเป็นอย่างดี จู่ ๆ มีอาการป่วยขึ้นมาเช่นนี้ จะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน

เฟิ่งชิงเฉินหันกลับมามองสาวใช้ทั้งสองด้วยสายตาอันดุร้าย “ทางที่ดีพวกเจ้าอย่าทำอะไรเลยจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าจะเอาชีวิตของพวกเจ้า”

เฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่หมอมือใหม่ หากบอกว่าจู่ ๆ อาการขององค์ชายแปดก็กำเริบขึ้นมาเอง ต่อให้ตายนางก็ไม่เชื่อ

เฟิ่งชิงเฉินอุ้มองค์ชายแปดขึ้นมากล่อมด้วยเสียงอันแผ่วเบา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็เอาไม่อยู่ องค์ชายแปดยังคงร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เฟิ่งชิงเฉินทำอะไรไม่ได้ นางไม่เก่งเรื่องการดูแลเด็กเล็กมาแต่ไหนแต่ไร นางจึงทำได้เพียงให้คนไปตามสนมเอกเซี่ยมา ส่วนสาวใช้สองคนนั้น เวลานี้ได้ถูกองครักษ์คุมตัวเอาไว้แล้ว

สาวใช้สองคนนี้ก็ถือว่าไม่ธรรมดา ตอนแรกพวกนางยังรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่เวลานี้กลับนิ่งสงบ มองไปที่เฟิ่งชิงเฉินอย่างไม่อ่อนแอ ความอยากจะเอาชนะเผยออกมาให้เห็นจากแววตาของพวกนาง

เฟิ่งชิงเฉินพ่นลมหายใจออกมา ไม่ได้สนใจพวกนางเลยแม้แต่น้อย

คิดว่ามีจักรพรรดิคอยให้การสนับสนุนแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นหรือ คนใช้ก็เป็นได้แค่คนใช้ตลอดไป จักรพรรดิไม่มีทางมาสร้างปัญหาให้กับนางเพราะคนรับใช้เพียงสองคนเป็นแน่

สนมเอกเซี่ยได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับองค์ชายแปด นางก็รีบสวมเสื้อคลุมแล้ววิ่งมา “เสี่ยวปาเป็นอะไรอย่างนั้นหรือ”

“มีเลือดออกที่บาดแผล เหนียงเหนียงไม่ต้องกังวล ก่อนอื่นกล่อมให้องค์ชายแปดหยุดร้องเสียก่อน” เฟิ่งชิงเฉินรีบอุ้มองค์ชายแปดมอบให้กับสนมเอกเซี่ย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ