นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1248

สรุปบท บทที่ 1248 ลดตำแหน่ง, ทหารส่วนพระองค์เป็นทรัพย์สินส่วนตัว: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปตอน บทที่ 1248 ลดตำแหน่ง, ทหารส่วนพระองค์เป็นทรัพย์สินส่วนตัว – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

ตอน บทที่ 1248 ลดตำแหน่ง, ทหารส่วนพระองค์เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ในตอนที่หยุนเซียวมาถึง พวกของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีทั้งสามคนกำลังคุยอยู่กับหวังจิ่นหลิง ทั้งสามคนเอาแต่ถามสิ่งต่าง ๆ กับหวังจิ่นหลิง และไม่มีใครสนใจหยุนเซียวเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ หยุนเซียวไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด เขาคุ้นชินกับมันตั้งนานแล้ว ที่ซึ่งมีหวังจิ่นหลิงอยู่ มันก็ไม่จำเป็นต้องมีเขา หลังจากกล่าวทักทายกับเฟิ่งชิงเฉิน เขาก็หาที่นั่งและฟังทั้งสี่คนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีและชื่อเลี่ยนฉุ่ยล้วนไม่ใช่คนที่สามารถพึ่งพาได้ แม้ว่ากัวเป่าจี้จะดูปกติที่สุด แต่ก็เป็นคนที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือพอ ๆ กัน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ทั้งสามคนเอาแต่พูดคุยกับหวังจิ่นหลิง ทำให้เฟิ่งชิงเฉิน หยุนเซียว และหวังชีทำได้เพียงนั่งอยู่กับพวกเขาจนฟ้าสว่าง

เฟิ่งชิงเฉินต้องไปตรวจที่ห้องผู้ป่วย นางจึงต้องออกไปก่อน ขณะเดียวกันก็พาชุนฮุ่ย เซี่ยหว่านและชิวฮว่าออกไปด้วย เพื่อให้พวกนางได้พักผ่อนบ้าง

หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินฉีดยาให้กับเหล่าผู้ป่วยตัวน้อย และตรวจสอบอาการของพวกเขาเป็นที่เรียบร้อย ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยียังคงพูดคุยกับหวังจิ่นหลิงไม่จบสิ้น เฟิ่งชิงเฉินเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของหวังจิ่นหลิง นางจึงจำเป็นต้องกล่าวออกมาเพื่อขัดจังหวะ “ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี วันข้างหน้ายังอีกยาวไกล พวกท่านพูดคุยกันมาทั้งคืนแล้ว พักผ่อนเสียบ้างเถิด”

เฟิ่งชิงเฉินกล่าวออกมาด้วยความหวังดี แต่ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีกลับไม่พอใจ “มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเจ้า พวกข้าพูดคุยกัน ไม่ได้คุยกับเจ้าเสียหน่อย เจ้าไปทำหน้าที่ของเจ้าเถอะ”

หวังจิ่นหลิงไม่ปล่อยให้เฟิ่งชิงเฉินต้องอับอาย เขายิ้มและกล่าวออกมาว่า “คุยกับพวกท่านสามคนอย่างสนุกสนานจนลืมวันลืมคืน ตอนนี้ฟ้าสว่างแล้ว จิ่นหลิงขอตัวลา”

“ขอตัวลาได้อย่างไร ยังคุยกันไม่จบเลย ช่างเถอะ......ไม่พูดแล้ว เจ้าเดินทางไปเจียงหนานพร้อมกับพวกข้า ส่วนแผนการทั้งหมดก็ยกให้เจ้าเป็นคนจัดการ” ชื่อเลี่ยนฉุ่ยขมวดคิ้วขึ้นมา ท่าทางของเขาเหมือนกับทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของข้า

เฟิ่งชิงเฉินหัวเราะออกมาอย่างหยาบคาย “จิ่นหลิงเป็นถึงผู้นำตระกูลหวัง ต่อให้เจียงหนานดีแค่ไหน มันก็เป็นเพียงสถานที่เล็ก ๆ จะให้จิ่นหลิงทิ้งหน้าที่ผู้นำตระกูลหวังอันยิ่งใหญ่ และเดินทางไปยังเจียงหนานเพื่ออะไร”

“เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้ามายุ่ง” ชื่อเลี่ยนฉุ่ยจ้องมองมาที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยสายตาอันดุร้าย จากนั้นก็หันไปพูดกับหวังจิ่นหลิงด้วยน้ำเสียงที่รื่นหู “ผู้นำตระกูลหวังอะไรนั่น เจ้าไม่ต้องไปเป็นมันแล้ว พยายามแทบตาย สุดท้ายก็ไม่ได้อะไร เดินทางไปเจียงหนานกับพวกข้า ข้าสัญญาว่าจะทำให้เจ้าเป็นหนึ่งในเจียงหนาน”

ตอนนี้เจียงหนานเป็นดินแดนขององค์รัชทายาทคนก่อน แต่ชื่อเลี่ยนฉุ่ยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา เนื่องจากในเจียงหนานไม่มีใครสามารถควบคุมเขาได้

“ตอนนี้จิ่นหลิงก็เป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ เหตุใดจะต้องเดินทางไปถึงเจียงหนาน” เห็นได้ชัดว่าเฟิ่งชิงเฉินพยายามบ่อนทำลายเขา ซึ่งทำให้ชื่อเลี่ยนฉุ่ยโกรธมาก

หวังจิ่นหลิงยิ้มและจ้องมองมาที่ทั้งสองคน จนกระทั่งชื่อเลี่ยนฉุ่ยพูดไม่ออกเพราะคำพูดของเฟิ่งชิงเฉิน เขาถึงพูดออกมาว่า “ขอบคุณสำหรับความหวังดีของผู้อาวุโสทั้งสามท่าน ตอนนี้จิ่นหลิงมีเรื่องราวเกี่ยวพันอยู่มากมาย รอหลังจากที่จัดการเรื่องพวกนี้เรียบร้อย จิ่นหลิงจะต้องไปทักทายผู้อาวุโสทั้งสามท่านถึงเจียงหนานเป็นแน่”

หวังจิ่นหลิงไม่ได้ให้คำมั่นสัญญา เขาเหลือทางออกไว้ให้ตัวเอง และมันก็ไม่ได้เป็นการทำลายเกียรติของพวกปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีทั้งสามคนแต่อย่างใด ทั้งสามคนจึงพยักหน้าด้วยความพอใจ และเดินออกมาส่งหวังจิ่นหลิงด้วยตัวเอง

หลังจากหวังจิ่นหลิงจากไปแล้ว หยุนเซียวและหวังชีก็คือสองคนที่จะเดินทางไปยังเจียงหนานอย่างแท้จริง พวกเขาถึงมีโอกาสได้พูดคุยกับพวกปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีทั้งสามคน

ความประทับใจแรกที่พวกของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีทั้งสามคนมีต่อหยุนเซียวและหวังชีนั้นดีมาก เมื่อครู่หวังจิ่นหลิงเอาแต่พูดคุยถึงเรื่องของทั้งสองคน เล่าเรื่องความคิดของหยุนเซียวและหวังชีให้กับพวกของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีทั้งสามคนได้รับรู้

ความประทับใจแรกของทั้งสองฝ่ายเป็นไปได้ด้วยดี เฟิ่งชิงเฉินรู้ได้ทันทีว่าเรื่องสำนักศึกษาหมอในเจียงหนานน่าจะไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องเป็นห่วง

หลังจากนั่งมาหนึ่งคืนเต็ม หยุนเซียวและหวังชีก็รู้สึกเหนื่อยล้าเช่นกัน มีพวกของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีทั้งสามคนอยู่ ทั้งสองจึงไม่อาจพูดเรื่องพวกนี้ออกมาได้ หลังจากทานอาหารมื้อเช้าในจวนเฟิ่งเป็นที่เรียบร้อย พวกเขาก็เข้าไปพักผ่อนในห้องรับแขกเป็นการชั่วคราว

เฟิ่งชิงเฉินเองก็อยากจะพักผ่อน แต่ซู่ชินอ๋องที่เข้าไปในพระราชวังตั้งแต่เมื่อคืนก็กลับมาอีกครั้ง เฟิ่งชิงเฉินเห็นใบหน้าที่น่าเกลียดของซู่ชินอ๋อง นางก็เดาได้ว่าเรื่องระหว่างจักรพรรดิกับซู่ชินอ๋องคงเป็นไปในทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

ต่อให้ตายนางก็ไม่เคยคิดถึงทหารส่วนตัว แต่ซู่ชินอ๋องกลับมอบทหารส่วนตัวให้นางหมื่นสองพันนาย นี่มัน นี่มัน นี่......

“ท่านอ๋อง ข้าไม่ต้องการ” เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกตื่นตระหนกในหัวใจ นางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แต่ปากของนางก็ยังคงพูดออกไปเช่นนั้น เนื่องจากนางยังไม่แน่ใจว่าท้ายที่สุดแล้วซู่ชินอ๋องต้องการทำอะไรกันแน่

“ต่อให้เจ้าไม่ต้องการเจ้าก็ต้องรับมันไว้ ทหารหมื่นสองพันนาย เวลานี้ข้าไม่อาจเลี้ยงดูพวกเขาได้อีกต่อไป นอกจากนี้ ตั้งแต่วันนี้ไม่ต้องเรียกข้าว่าท่านอ๋อง เวลานี้ข้าเป็นเพียงแค่ประชาชนธรรมดา” พูดจบซู่ชินอ๋องก็เดินเข้าไปในห้อง องครักษ์ส่วนตัวของเขาขวางอยู่ด้านหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน ไม่ให้เฟิ่งชิงเฉินเข้าไปด้านใน

อะไรนะ? ระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งวัน ซู่ชินอ๋องกลายเป็นคนธรรมดา เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเร็วไปหรือเปล่า

เฟิ่งชิงเฉินจ้องมองประตูที่ปิดสนิท เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้พูดอะไร คิดถึงเรื่องทหารส่วนตัว เฟิ่งชิงเฉินตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง นางไม่รู้ว่าจะสามารถรับทหารจำนวนนี้ไว้ได้หรือไม่ เพื่อความปลอดภัย เฟิ่งชิงเฉินเดินกลับไปที่ห้องเพื่อเขียนจดหมายหาเสด็จอาเก้า

ระยะเวลาเพียงแค่สองวัน เฟิ่งชิงเฉินเขียนจดหมายหาเสด็จอาเก้าทั้งหมดสามฉบับ และทั้งสามฉบับก็ถูกส่งออกไปในคนละช่วงเวลา สายลับรับจดหมายจากเฟิ่งชิงเฉิน ตอนนี้พวกเขาแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว

เขาสามารถบอกกับแม่นางเฟิ่งได้หรือไม่ว่าจดหมายสองฉบับก่อนหน้านั้นถูกส่งออกไปตั้งนานแล้ว และจดหมายฉบับนี้ พวกเขาก็คงต้องเดินทางไปส่งอีกรอบ

สายลับคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเสด็จอาเก้าจะรู้สึกอย่างไรเมื่อได้รับจดหมายจากเฟิ่งชิงเฉินวันละสองฉบับ แต่พวกเขาก็ไม่กล้ารอช้าหรือเก็บจดหมายไว้เพื่อไปส่งพร้อมกัน

หากมีจดหมายเพิ่งอีกสักสองฉบับ สายลับรับประกันได้เลยว่า สายลับทั้งจวนเฟิ่งจะลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพวกเขาคงไม่ต้องทำอะไร แค่ส่งจดหมายให้แม่นางเฟิ่งกับนายท่านในแต่ละวันก็หมดเวลาแล้ว...... 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ