ซื่อเฉิงไม่ได้นั่งอยู่บนหลังม้าและมองลงมาอย่างเย่อหยิ่ง แต่เขาลงมาจากหลังม้า จากนั้นก็เดินเข้ามา ยืนอยู่ตรงด้านหน้าของเสด็จอาเก้า รักษาระยะห่างจากเสด็จอาเก้าพอสมควร
ดวงตาทั้งสี่จ้องประสานกัน ใบหน้าของเสด็จอาเก้านิ่งสงบ แต่มือที่ถือดาบอยู่ด้านหลังกระชับขึ้นเล็กน้อย รูม่านตาของซื่อเฉิงดึงตัว รู้สึกได้ถึงเหงื่อเย็นที่ไหลออกมาจากด้านหลัง
ทั้งสองคนยืนเงียบอยู่กลางสนามรบ ทหารคนสนิทและสายลับของเสด็จอาเก้าต่างเฝ้ามองฉากที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครก้าวออกมาด้านหน้าแม้แต่คนเดียว
พวกเขาเชื่อใจในตัวนายท่านของตนเอง
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เสด็จอาเก้ายังคงอยู่ในตัวตนที่สูงส่ง จู่ ๆ ซื่อเฉิงก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง “แม่ทัพซื่อเฉิงคารวะเสด็จอาเก้า ขอให้พระองค์อายุยืน พันปี พัน พันปี”
“อ่า” เสด็จอาเก้าตอบรับอย่างมีศักดิ์ศรี มือที่ถือดาบด้านหลังเขาก็คลายลง จิตสังหารที่อยู่รอบกายของเขาก็สงบลงไม่น้อย
ท่าทางของเสด็จอาเก้าทำให้ซื่อเฉิงรู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาค่อย ๆ สลัดเหงื่อบนฝ่ามือ ซื่อเฉิงลุกขึ้นมาด้วยความยากลำบาก การคุกเข่าตอนที่สวมชุดเกราะนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนลุกขึ้นยืนก็เป็นเรื่องยากเช่นกัน ในตอนที่ลุกขึ้นมา ร่างกายของซื่อเฉิงสั่นไหวเล็กน้อย แต่มันก็เป็นจังหวะที่เสด็จอาเก้าเบือนหน้าหนี
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน
ซื่อเฉิงกล่าวขอโทษด้วยความเคารพ “ข้าไม่ทราบว่าเสด็จอาเก้าอยู่ที่นี่ เข้าใจผิดจนเกือบทำให้เสด็จอาเก้าได้รับบาดเจ็บ เสด็จอาเก้าได้โปรดอภัยให้ข้าด้วย”
“แม่ทัพหนุ่มซื่อปฏิบัติตามคำสั่ง จะมีโทษได้อย่างไร” ซื่อเฉิงต้องการปกปิดความจริงเรื่องนี้เอาไว้ แต่เสด็จอาเก้าไม่ยอมปล่อยเขาไป ต้องการให้ซื่อเฉิงเปิดเผยเหตุผลการลงมือที่แท้จริงออกมา
เสด็จอาเก้ากล่าวอย่างไม่เร่งรีบ ไม่ได้แสดงความรู้สึกใด ๆ แต่ซื่อเฉิงกลับรู้สึกได้ถึงความเย้ยหยัน ซื่อเฉิงจึงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ขอบคุณเสด็จอาเก้าที่ไม่ทรงโกรธหรือลงโทษข้า ข้าสังหารองครักษ์ของเสด็จอาเก้าไปโดยไม่ตั้งใจ เสด็จอาเก้ายินดีที่จะให้ข้าทำการคุ้มกันเสด็จอาเก้าหรือไม่”
นี่คือความหวังดีของตระกูลซื่อ แต่เสด็จอาเก้ากลับปฏิเสธออกไปโดยไม่คิด “ไม่จำเป็น แม่ทัพหนุ่มซื่อรับคำสั่งมาจากองค์จักรพรรดิ ข้าไม่อยากทำให้ท่านต้องเสียเวลา”
การนำกองทัพขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้เดินทางไปยังหนานหลิง มันเป็นเรื่องที่ดูเย่อหยิ่งเกินไป ระหว่างทางคงมีคนสนใจไม่น้อย
ซื่อเฉิงยังคงไม่ท้อแท้ เขาพูดต่อออกมาว่า “เสด็จอาเก้า รอบกายของท่านไม่มีใครคอยคุ้มกัน ข้าคิดว่าให้ทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อไปส่งท่านอ๋องจะดีกว่าหรือไม่?”
เสด็จอาเก้าไม่ได้พูดอะไร เขาจ้องมองไปยังซื่อเฉิงด้วยสายตาอันเยือกเย็น ราวกับกำลังบอกว่า ตระกูลซื่อของเจ้ากำลังคิดจะทำอะไรกันแน่?
ซื่อเฉิงเองก็ไม่ได้พูดอะไร ก้มหน้าอยู่กับความเงียบ เห็นเสด็จอาเก้าไม่เห็นด้วย ซื่อเฉิงจึงกล่าวออกมาอีกครั้ง “เสด็จอาเก้าโปรดวางใจ ทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อไม่มีทางทำอันตรายท่านเป็นแน่ ระหว่างช่วงระยะเวลาที่คุ้มกันท่าน ทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อจะฟังแค่เพียงคำสั่งของท่านเท่านั้น”
การแสดงน้ำใจไมตรีจิตโดยที่ไม่มีสิ่งใดติดค้างกัน มันจะต้องมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นแน่ เสด็จอาเก้ามั่นใจว่าตนเองไม่เคยมีความสัมพันธ์ใด ๆ กับตระกูลซื่อ การที่ตระกูลซื่อมี “จิตเมตตา” ให้ถึงเพียงนี้ มันทำให้เสด็จอาเก้าไม่เข้าใจจริง ๆ
ไม่เข้าใจก็คือไม่เข้าใจ แต่เสด็จอาเก้าก็ไม่ได้ถามมันออกมาแต่อย่างใด เขาเพียงจ้องมองไปที่ซื่อเฉิงอย่างลึกซึ้ง จากนั้น.....เขาก็ตอบรับทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อไว้
ดังนั้น แผนการลอบสังหารของจักรพรรดิไม่เพียงแต่จะล้มเหลวเท่านั้น แต่เสด็จอาเก้ายังได้ทหารม้าสิบแปดที่เก่งกาจแห่งตระกูลซื่อเข้ามาร่วมเดินทางในฐานะองครักษ์ส่วนตัวอีกด้วย
หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อย เสด็จอาเก้าก็พาทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อออกเดินทาง ทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อเต็มไปด้วยความเงียบงัน นอกจากปกป้องเสด็จอาเก้า พวกเขาก็ไม่สนใจเรื่องใดทั้งนั้น
ในคืนนั้น ตอนที่เสด็จอาเก้ากำลังสั่งให้ลูกน้องของตนไปสืบหาจุดประสงค์ของตระกูลซื่อ แต่เขายังไม่ทันได้ถ่ายทอดคำสั่งออกไป เขาก็ได้รับจดหมายจากเฟิ่งชิงเฉินเสียก่อน
เนื้อความในจดหมายมีไม่มาก ประโยคสำคัญมีเพียงแค่ประโยคเดียว “ซู่ชินอ๋องบุกเข้าไปในพระราชวัง สร้างความวุ่นวายให้กับจักรพรรดิ”
“ซู่ชินอ๋องลงมือได้รวดเร็วทันใจเสียจริง” เสด็จอาเก้าไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่เขาตกใจก็คือ อาการของตี๋ตงหมิงเลวร้ายถึงเพียงนั้นเลยงั้นหรือ แม้แต่ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยียังต้องใช้ระยะเวลาสามถึงห้าปีในการรักษา
เสด็จอาเก้าส่ายหน้า ไม่ได้เก็บจดหมายฉบับนี้ไว้ เขาเผามันโดยตรง ส่วนคำสั่งที่จะให้คนไปสืบเกี่ยวกับเรื่องตระกูลซื่อ เสด็จอาเก้าก็หยุดมันเอาไว้ก่อน
เวลานี้เขาพอจะเข้าใจมันบ้างแล้ว
และในตอนที่จดหมายฉบับที่สามถึงมือของเสด็จอาเก้า ในที่สุดเสด็จอาเก้าก็มั่นใจ ทั้งหมดที่ตระกูลซื่อทำไปนั้นไม่ได้มีสิ่งใดแอบแฝง
“ซู่ชินอ๋องช่างเด็ดขาดยิ่งนัก” เลี้ยงทหารส่วนตัวไว้ตั้งหลายปี คิดจะมอบให้คนอื่นก็มอบให้ แถมยังมอบมันให้กับเฟิ่งชิงเฉิน นี่ไม่ได้บ่งบอกถึงการเปิดศึกกับจักรพรรดิโดยชัดเจนอย่างนั้นหรือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...