สรุปตอน บทที่ 1267 ยินดีต้อนรับ, เสด็จอาเก้าเป็นคนพาเข้ามา – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
ตอน บทที่ 1267 ยินดีต้อนรับ, เสด็จอาเก้าเป็นคนพาเข้ามา ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ลั่วอ๋องเข้าไปในพระราชวังในวันนั้น ก็มีคนของพระราชวังส่งสาส์นมาถึงจวนเฟิ่ง ห้ามไม่ให้เฟิ่งชิงเฉินรบกวนประชาชน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อเมืองจักรพรรดิ
รักษาฟรีไม่มีปัญหา แต่ต้องได้รับการอนุญาตจากทางการเสียก่อน ห้ามทำการรักษาฟรีโดยพลการ
เฟิ่งชิงเฉินได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของนางก็เบิกกว้าง
สมองของจักรพรรดิได้รับการกระทบกระเทือนหรืออย่างไร ถึงห้ามไม่ให้นางทำการรักษาฟรี เฟิ่งชิงเฉินโกรธมาก หันหลังและทิ้งผู้ส่งสาส์นเอาไว้อย่างนั้น หันหลังและเดินกลับเข้ามาในห้อง
“ไป ไปสืบมาให้ข้า มีคนไปเป่าหูอะไรจักรพรรดิหรือไม่” เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก หากไม่ใช่เพราะว่ามีคนจงใจเอาเรื่องนี้ไปรายงานจักรพรรดิ เป็นไปได้อย่างไรที่จักรพรรดิจะหันมาสนใจหรือรับรู้เรื่องที่นางทำการรักษาฟรี
ทงจือและทงเหยากลับมารายงานในคืนนั้น “คุณหนู คนผู้นั้นก็คือลั่วอ๋อง”
“ลั่วอ๋อง? เขาอยู่เฉย ๆ ไม่เป็นหรืออย่างไร เขาพูดอะไรกับจักรพรรดิอย่างนั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าคนที่เอาเรื่องนี้ไปฟ้องจักรพรรดิจะเป็นลั่วอ๋อง เพราะช่วงนี้นางก็ไม่ได้ทำอะไรให้ลั่วอ๋องต้องขุ่นเคือง
ตั้งแต่สังหารซีหลิงเทียนเหล่ย นางก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบมาโดยตลอด นางกลัวว่าจักรพรรดิจะรู้เรื่องดังกล่าว ช่วงนี้นางจึงพยายามไม่ลงมือทำสิ่งใดหากไม่จำเป็น
“ข้าไร้ความสามารถ ไม่อาจสืบหาคำพูดเหล่านั้นได้” ทงจือและทงเหยาก้มหน้ารับโทษ เฟิ่งชิงเฉินโบกมือ ไม่ได้เอาเรื่องนี้มาใส่ใจแต่อย่างใด
สืบไม่พบก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ในพระราชวังเต็มไปด้วยดวงตา ไม่ง่ายเลยที่สายลับจะเข้าไปล้วงลับเรื่องเหล่านี้
วันต่อมา เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ออกไปทำการรักษา นางสั่งให้คนออกไปสืบหาเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายนอก พบว่าจักรพรรดิสั่งให้หมอหลวงมาทำการรักษาราษฎรโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายทุก ๆ สิบวัน เพื่อบรรเทาความลำบากของครอบครัวที่ยากจน
“ต้องการจะแย่งความดีความชอบไปจากข้าอย่างนั้นหรือ?” ในเวลานี้เฟิ่งชิงเฉินทนดูไม่ได้อีกต่อไป มันเป็นการแย่งชิงผลงานของนาง
เห็นได้ชัดว่าลั่วอ๋องต้องการให้การรักษาฟรีเพื่อหวังผลประโยชน์ มันคือการเก็บเกี่ยวจากสิ่งที่นางได้สร้างเอาไว้
“จักรพรรดิทำเกินไปจริง ๆ เขาบีบบังคับให้ข้าอยู่ในเมืองจักรพรรดิต่อไป อยู่อย่างไม่มีความสุข” ความโกรธของเฟิ่งชิงเฉินพลุ่งพล่านขึ้น การรักษาผู้คนทำให้นางสงบลงได้ แต่ลั่วอ๋องกลับทำลายทุกสิ่งที่นางสร้างขึ้นมา
ในเมืองจักรพรรดิที่ไม่มีเสด็จอาเก้า ไม่มีซือสิ่ง ไม่มีตี๋ตงหมิง ไม่มีหยุนเซียว มีเพียงแค่หวังจิ่นหลิง และช่วงนี้หวังจิ่นหลิงก็งานยุ่งเป็นอย่างมาก เขาหมกมุ่นอยู่กับการรับคณะบัณฑิต ไม่มีเวลาว่างมานั่งคุยเล่นกับนาง
ในเมืองจักรพรรดิอันยิ่งใหญ่ แต่กลับไม่มีสถานที่ซึ่งทำให้นางผ่อนคลายได้ เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกว่ายิ่งอยู่ในเมืองจักรพรรดิต่อไปก็มีแต่ความน่าเบื่อ นางจึงเรียกสายลับออกมา ให้พวกเขาเตรียมการให้ นางต้องการเดินทางไปยังหนานหลิงเพื่อไปช่วยเสด็จอาเก้า
ให้ตายนางก็ไม่พูดว่านางคิดถึงเสด็จอาเก้า และนางก็ไม่มีทางบอกว่านางไปเพื่อหาข้อมูลของเด็กคนนี้
สายลับได้ยินคำสั่งของเฟิ่งชิงเฉิน แม้จะไม่เข้าใจว่าเฟิ่งชิงเฉินจะเดินทางไปที่หนานหลิงเพื่ออะไร เนื่องจากอีกไม่นานเสด็จอาเก้าก็จะเดินทางกลับมาแล้ว แต่ในฐานะที่เป็นลูกน้อง พวกเขาก็ทำได้เพียงปฏิบัติตามคำสั่งของนายท่านอย่างกระตือรือร้นเท่านั้น
แม้ว่าจะไม่เข้าใจ แต่สายลับก็ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว จัดเตรียมสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินต้องการอย่างครบครัน
“ดูแลบ้านและเด็กคนนั้นให้ดี มีเรื่องอะไรก็ไปหาหวังจิ่นหลิง หากมีใครรังแกพวกเจ้า ก็ส่งจดหมายไปหาข้า เกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ไปที่จวนอ๋องเก้า อย่าปล่อยให้คนอื่นรังแกอยู่ฝ่ายเดียว” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนเดินทาง ฉวยโอกาสในค่ำคืนที่มืดครึ้มและลมแรง ค่อย ๆ เดินทางออกจากเมือง จุดหมายก็คือ เมืองหลวงของหนานหลิง
ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินเดินทางออกจากตงหลิง เสด็จอาเก้ายังคงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนั้นของหนานหลิง ทำสงครามเย็นกับจักรพรรดิหนานหลิง ทั้งสองฝ่ายต่างระงับอารมณ์ของตัวเอง เสด็จอาเก้าอยู่ในหมู่บ้านแห่งนั้นเป็นเวลาครึ่งเดือน และไม่มีวี่แววว่าจะเดินทางเข้าเมือง
อย่าว่าแต่หนานหลิงจิ่นฝานเลย แม้แต่จักรพรรดิแห่งหนานหลิงเองก็รู้สึกกังวล สงครามระหว่างตงหลิงกับซีหลิงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ตงหลิงได้เปรียบเพียงเล็กน้อย ถึงตอนนี้แล้ว เหตุใดเสด็จอาเก้าจึงยังไม่ยอมเคลื่อนไหว
“จิ่นฝาน พรุ่งนี้เจ้าเดินทางไปที่หมู่บ้านเพื่อขอเข้าเฝ้าเสด็จอาเก้า จากนั้นก็ทำการขอโทษเข้า” ในที่สุดจักรพรรดิแห่งหนานหลิงก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป เขาวางแผนที่จะให้หนานหลิงจิ่นฝานก้มหัวให้กับเสด็จอาเก้า
หากมีแค่เป่ยหลิงยังไม่เท่าไหร่ แต่ในขณะเดียวกัน ชายแดนระหว่างตงหลิงกับหนานหลิงเองก็ไม่ค่อยสงบเท่าที่ควร และมีรายงานมาว่าตงหลิงกำลังระดมพลกองทหาร
“นี่มันเป็นไปไม่ได้ เสด็จอาเก้าเป็นแค่อ๋องธรรมดาเพียงคนเดียว เขามีอำนาจในการระดมพลกองทหารมากขนาดนี้เลยงั้นหรือ” หนานหลิงจิ่นฝานยังคงไม่เชื่อ “เสด็จพ่อ ต่อให้เสด็จอาเก้าสามารถระดมพลกองทหารได้ แต่เป่ยหลิงล่ะ? ทหารของเป่ยหลิงจะเชื่อฟังคำสั่งของเขาได้อย่างไร นี่เป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ”
“เรื่องบังเอิญ? จิ่นฝาน เจ้าเป็นองค์ชายมากี่ปี เหตุใดถึงได้โง่เขลาเช่นนี้ ทั้งสองประเทศกำลังยกทัพมายังพรมแดนที่เชื่อมกับหนานหลิง เจ้าคิดว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ? ต่อให้เป็นแค่เรื่องบังเอิญ มันก็เป็นเรื่องบังเอิญที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยฝีมือของใครบางคน” จักรพรรดิหนานหลิงรู้เป็นอย่างดี สองเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับเสด็จอาเก้าเป็นแน่ ไม่เช่นนั้นเหตุใดเรื่องราวต่าง ๆ ถึงไม่เกิดขึ้นตั้งนาน แต่กลับมาเกิดขึ้นหลังจากที่หนานหลิงทำให้เสด็จอาเก้าต้องขุ่นเคือง
บังเอิญ ต่อให้เป็นเพียงแค่ความบังเอิญ พวกเขาเองก็ไม่กล้าเดิมพัน เนื่องจากการเดิมพันครั้งนี้เดิมพันด้วยหนานหลิงทั้งประเทศ พวกเขาไม่อาจยอมรับผลการเดิมพันได้
หนานหลิงจิ่นฝานโกรธจนแทบจะกัดลิ้นของตัวเอง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “หรือว่า พวกเราจะต้องก้มหัวให้กับตงหลิง?”
“ไม่เช่นนั้นเจ้าจะทำอย่างไร? จะเปิดศึกกับตงหลิงและเป่ยหลิงพร้อมกับเลยอย่างนั้นหรือ? ไม่ต้องพูดว่าพวกเราสามารถเอาชนะได้หรือไม่ ต่อให้เอาชนะได้แล้วอย่างไร หากปล่อยให้เกิดการต่อสู้ดังกล่าวขึ้น หนานหลิงจะยังคงเป็นหนานหลิงอยู่หรือไม่?” จักรพรรดิหนานหลิงรู้ดีว่าเรื่องนี้ร้ายแรงแค่ไหน หากมีเพียงแค่ตงหลิง เขาไม่กลัวที่จะก่อสงคราม แต่เมื่อมีเป่ยหลิงเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เขาก็ไม่กล้ายกทัพทหารของเขาออกไปทำสงครามจริง ๆ
“แต่เมื่อพวกเรายอมก้มหัวให้กับพวกเขาแล้ว เป่ยหลิงจะยอมถอนทัพอย่างนั้นหรือ? คนของเป่ยหลิงไม่ได้ฟังคำสั่งของเสด็จอาเก้าเสียหน่อย” หนานหลิงจิ่นฝานยังคงทำใจไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถจัดการกับเสด็จอาเก้าได้ที่นี่ แต่เวลานี้ทุกอย่างกลับล้มเหลว
“เสด็จอาเก้าเป็นคนพาพวกเขามา ดังนั้นเขาต้องมีวิธีทำให้อีกฝ่ายสงบได้โดยธรรมชาติ” จักรพรรดิหนานหลิงหลับตา ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก “ไป ไปเตรียมตัวให้เรียบร้อย ข้าจะเป็นคนไปต้อนรับเสด็จอาเก้าเข้าเมืองด้วยตัวเอง”
ในบ้านพักเล็ก ๆ ในตอนที่เสด็จอาเก้าได้รับข่าวนี้ รอยยิ้มอันเยือกเย็นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา......
กล้ามาเล่นกับเขา มาดูกันว่าใครจะเหนือกว่าใคร!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...