นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1276

เฟิ่งชิงเฉินเป็นคนที่ทำอะไรรู้จักขอบเขต เมื่อเห็นว่าเสด็จอาเก้าเริ่มจะโกรธ นางก็รีบเก็บรอยยิ้มของนางไว้ จากนั้นก็อธิบายออกมาอย่างจริงจัง “ช่างบังเอิญยิ่งนัก ในตอนที่ข้าเขียนจดหมายไปหาเจ้า ข้าเองก็ทำน้ำหมึกหกลงไปเช่นกัน ก่อนหน้านี้ข้าเขียนไปตั้งมากมาย ข้าขี้เกียจเขียนใหม่อีกครั้ง จึงส่งให้เจ้าไปทั้งเช่นนั้น”

เพื่อแสดงออกมาว่าตนเองไม่ได้โกหก เฟิ่งชิงเฉินมองไปที่เสด็จอาเก้าด้วยดวงตาอันกลมโต พยักหน้าอย่างรุนแรง

เหตุผลที่บ้าบอเช่นนี้ หากเสด็จอาเก้าเชื่อก็คงบ้าไปแล้ว แต่เหตุผลดังกล่าว ตนเองเป็นคนพูดออกมาเอง หากเขากลับคำ กล่าวหาว่าไม่จริง เขาก็ต้องเป็นคนเปิดเผยสาเหตุที่เขาขีดฆ่าด้วยหมึกดำออกมาก่อน

คิดจะเอาเปรียบผู้อื่น แต่สุดท้ายก็ถูกความคิดของตัวเองทำร้าย เสด็จอาเก้าแอบถอนหายใจ เก็บจดหมายฉบับนั้นกลับไปอีกครั้ง

ช่างเถอะ เขาไม่ถามแล้ว เขารู้แล้วว่ารอยขีดฆ่าสีดำดังกล่าวคือการแก้แค้นจากเฟิ่งชิงเฉิน

เฟิ่งชิงเฉินทำสีหน้าน่าสงสาร นางอยากที่จะใช้โอกาสนี้ในการถามเรื่องเด็กคนนั้น แต่เห็นว่าเสด็จอาเก้าไม่เอ่ยถึงมันขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย นางก็ทำได้เพียงระงับความคิดนี้เอาไว้

หากเด็กคนนั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเสด็จอาเก้า การที่นางถามเช่นนี้ออกไป นางจะต้องกลับไปเกลี้ยกล่อมเสด็จอาเก้าในภายหลัง ซึ่งมันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย

นางจึงอดทนไว้จะดีกว่า!

“นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเรากลับห้องกันเถอะ” เสด็จอาเก้าเดินออกมาจากโต๊ะทำงาน และจูงมือของเฟิ่งชิงเฉินโดยธรรมชาติ

“ตกลง” มือของเฟิ่งชิงเฉินคลายออก ประสานกับนิ้วทั้งห้าของเสด็จอาเก้า

ไม่มีใครอยู่ด้านนอกของห้องหนังสือ เสด็จอาเก้าก็ไม่ได้บอกให้ใครจุดไฟ เขาแค่ถือตะเกียงออกมาด้วยตัวเอง เปลวไฟสลัว ๆ ให้ความสว่างตลอดทาง เขาค่อย ๆ เดินจูงมือเฟิ่งชิงเฉินไปอย่างช้า ๆ

สายลมในยามค่ำคืนพัดผ่านมา เปลวไฟกวัดแกว่ง เงาของทั้งสองพัวพันกันเป็นครั้งคราว บางครั้งก็แยกออกจากกัน เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกว่าฉากดังกล่าวนั้นน่าสนใจเป็นอย่างมาก นางจ้องมองเงาของทั้งสองอยู่ตลอดเวลา ก้าวเท้าซ้ายและขวาสลับกัน เพื่อให้เหมาะกับทิศของแสงที่ส่องมา

เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ทำอะไรเด็ก ๆ เช่นนี้มานานแล้ว เวลานี้เมื่อเล่นออกมาก็รู้สึกไม่ค่อยคุ้นเคย เมื่อคนผู้หนึ่งกำลังเล่นกับเงาของตัวเอง

มุมปากของเสด็จอาเก้ากระตุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาแค่พยายามปกป้องและดูแลเฟิ่งชิงเฉินให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เฟิ่งชิงเฉินเดินสะดุดหรือไปจนกับอะไร

ในห้องนอน คนรับใช้ได้เตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว ทันทีที่ทั้งสองคนเข้าไป พวกเขาก็สามารถนอนได้ในทันที

เฟิ่งชิงเฉินปล่อยผมของนาง หาวออกมาหนึ่งครั้ง จากนั้นก็ขยี้ตา

เดินทางมาตลอดทั้งคืน จนกระทั่งมาถึงหนานหลิงก็ยังไม่ได้พักผ่อนอย่างสบายใจ เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเหนื่อยมากจริง ๆ

“เหนื่อยแล้วก็รีบพักผ่อนเสียเถิด” เสด็จอาเก้าก้าวไปด้านหน้า นวดไหล่ให้กับเฟิ่งชิงเฉินเบา ๆ ตอนที่นั่งรถม้ากลับมา เขาเห็นเฟิ่งชิงเฉินผล็อยหลับลงบนไหล่ของเขา คิดว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา เฟิ่งชิงเฉินเอาแต่พักผ่อนอยู่บนรถม้า มันคงเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากเป็นแน่

“อื้อ” เฟิ่งชิงเฉินผ่อนคลายร่างกายและจิตใจของตนเอง เอนกายลงบนร่างของเสด็จอาเก้า เบะปากเล็กน้อยอย่างเอาแต่ใจ

เสด็จอาเก้าก้มศีรษะลง หอมไปบนหน้าผากของเฟิ่งชิงเฉิน ดวงตาของเขาไม่อาจปกปิดความรักที่มีต่อเฟิ่งชิงเฉินได้เลยแม้แต่น้อย

มีผู้หญิงเช่นนี้อยู่ข้างกาย จะไม่ให้เขาหลงรักได้อย่างไร

แรงที่ฝ่ามือของเสด็จอาเก้าค่อย ๆ ลดน้อยลง เนื่องจากเกรงว่าเฟิ่งชิงเฉินจะเจ็บ แต่เฟิ่งชิงเฉินก็เหนื่อยมากจริง ๆ หลังจากเอนกายลงบนร่างของเสด็จอาเก้าได้ไม่นาน นางก็ผล็อยหลับไป ในตอนที่เสด็จอาเก้ารู้สึกตัว เฟิ่งชิงเฉินก็หลับอย่างสบายใจ มีเส้นไหมสีเงินไหลออกมาจากปากของนาง

นี่คือคู่นอนที่เขารอคอยอย่างนั้นหรือ?

เสด็จอาเก้ารู้สึกเสียใจกับการกระทำเมื่อครู่ของตนเอง เขาจะนวดไหล่ให้กับเฟิ่งชิงเฉินเพื่อเหตุใด เขาควรจะให้เฟิ่งชิงเฉินนอนลงบนเตียงเสียมากกว่า และเวลานี้......

เมื่อเห็นใบหน้าที่กำลังหลับใหลของเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้าเองก็ไม่อยากจะปลุกนางขึ้นมา

เฮ้อ......เสด็จอาเก้าถอนหายใจ ใช้แรงอุ้มเฟิ่งชิงเฉินวางลงบนเตียงเหมือนกับเจ้าชายอุ้มเจ้าหญิง และค่อย ๆ ถอดเสื้อคลุมให้กับนางอย่างระมัดระวัง

วันนี้เกรงว่าคงทำได้แค่ต้องนอน

แม้ว่าจะน่าเสียดาย แต่แค่สามารถกอดหลับพร้อมกับกอดเฟิ่งชิงเฉิน เท่านี้เขาก็สุขใจมากแล้ว ช่วงเวลาว่างในสองเดือนที่ผ่านมา เขาก็เอาแต่คิดถึงเฟิ่งชิงเฉิน โดยเฉพาะในช่วงค่ำคืนเช่นนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ