นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1279

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฟิ่งชิงเฉินเข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้ในพระราชวัง แต่มันเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าร่วมในฐานะแขกผู้มีเกียรติ

ในฐานะแขกผู้มีเกียรติ สิ่งที่นางต้องทำก็มีเพียงแค่แต่งตัวเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ เฟิ่งชิงเฉินไม่จำเป็นต้องกังวล มาอยู่ในฐานะคนสำคัญของหวังจิ่นหลิง ราชวงศ์หนานหลิงไม่กล้าแตะต้องนาง ในหนานหลิง นางได้รับการตอบรับดีกว่าเสด็จอาเก้าเสียด้วยซ้ำ

ภายใต้คำชี้นำของหนานหลิงจิ่นฝาน เหล่าขุนนางแห่งหนานหลิงต่างพากันเข้ามาสร้างความลำบากใจให้แกเสด็จอาเก้า หากเป็นผู้ชายคนอื่น เกรงว่าคงจะเอาแต่ปิดประตูไม่ยอมออกมาด้านนอก

แต่หนานหลิงจิ่นฝานประเมินเสด็จอาเก้าต่ำเกินไป เสด็จอาเก้าไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาทั่วไป แม้ว่าอุบายของหนานหลิงจิ่นฝานจะยอดเยี่ยม แต่มันก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเสด็จอาเก้าเลยแม้แต่น้อย

ในช่วงบ่ายวันนั้น แม้ว่าจักรพรรดิจะไม่ได้เชื้อเชิญเสด็จอาเก้า แต่ก็เสด็จอาเก้าไปร่วมงานเลี้ยงพร้อมกับเฟิ่งชิงเฉินราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ก่อนหน้านี้ ไม่มีใครคิดว่าเสด็จอาเก้าจะปรากฏตัวออกมาร่วมงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ ในฐานะแขกคนสำคัญ เฟิ่งชิงเฉินไม่จำเป็นต้องเข้างานเร็วเหมือนกับคนอื่น ๆ นางเพียงแค่ระวังตัวและมาให้ถึงก่อนจักรพรรดิเท่านั้น ในตอนที่ทุกคนเห็นเสด็จอาเก้าปรากฏตัวออกมา พวกเขาก็พากันอ้าปากค้าง

เสด็จอาเก้าผู้ถูกทำลายชื่อเสียงอย่างรุนแรง เดินเข้างานเลี้ยงมาพร้อมกับเฟิ่งชิงเฉินหน้าตาเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เฟิ่งชิงเฉินฝึกเขามาดีจริง ๆ

ขุนนางของหนานหลิงไม่เหมือนตงหลิง พวกเขาไม่ได้หวาดกลัวต่อเสด็จอาเก้า เห็นเสด็จอาเก้าเดินเข้ามาพร้อมกับเฟิ่งชิงเฉิน แต่ละคนต่างซุบซิบนินทา มองไปที่เสด็จอาเก้าด้วยใบหน้าที่มีเลศนัย

ชัดเจนและเปิดเผยถึงเพียงนี้ มีหรือว่าเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินจะไม่สังเกตเห็น เฟิ่งชิงเฉินหันกลับมายิ้มให้กับเสด็จอาเก้าโดยไม่ส่งเสียง “เจ้าเองก็มีวันนี้เช่นกัน!”

เสด็จอาเก้ามองมาที่เฟิ่งชิงเฉินอย่างมีความหมาย เบะปากโดยไม่ใส่ใจ ทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกสบายใจขึ้น

ภายใต้การนำทางของขันทีตัวน้อย ทั้งสองเดินมานั่งอยู่ที่นั่งแถวหน้าสุด มันคือที่นั่งของแขกคนสำคัญ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเหล่าองค์ชายแห่งหนานหลิง แต่องค์ชายเหล่านั้นยังมาไม่ถึง

ทั้งสองคนนั่งลง จากนั้นก็ได้ยินเสียงขันทีตะโกนรายงานขึ้นมา หนานหลิงจิ่นสิงและจิ่นฝานมาถึงแล้ว

สองพี่น้องที่ต่อสู้แย่งชิงกันอย่างดุเดือด เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่น พวกเขายังแสดงให้เห็นถึงเยื่อใยของพี่น้อง แม้ว่าจะมีนิสัยต่างกัน แต่ทั้งสองต่างเป็นคนที่งดงาม ชายหนุ่มรูปงามสองคนยืนอยู่คู่กัน ช่างเป็นภาพที่เลิศล้ำอย่างยิ่ง บางครั้งพวกเขามองหน้ากันและยิ้ม คนที่ไม่รู้เรื่องราวยังคิดว่าทั้งสองคนเป็นพี่น้องที่สนิทสนมกันจากใจจริง

“ก็แค่พวกชอบทำตัวเสแสร้งไม่ใช่หรือ? ลูกหลานของราชวงศ์ก็เป็นเช่นนี้กันทั้งนั้น” เสด็จอาเก้าหยิบถ้วยสุราขึ้นมาเล่น ไม่มีทีท่าว่าจะดื่มมันเข้าไป

“ไม่ได้เสแสร้งเท่ากับองค์ชายแห่งตงหลิงเหล่านั้น” เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยากให้องค์รัชทายาทคนเก่าตายไปจากโลกนี้ แต่ทุกคนที่องค์รัชทายาทคนเก่าล้มป่วย พวกเขาต่างเดินเข้ามาเยี่ยมด้วยความเป็นห่วง เช่นนั้นแหละที่เรียกว่าจอมปลอม

“เจ้ามีอคติต่อพวกเขา” ไม่ว่าอย่างไรตนเองก็เป็นลูกหลานของราชวงศ์ แน่นอนว่าเสด็จอาเก้าจะต้องปกป้อง

หนานหลิงจิ่นฝานและจิ่นสิงเดินเข้ามา พวกเขาไม่ได้ไปนั่งโดยตรง แต่เดินมาด้านหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน ทำให้เวลานี้เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินต้องหยุดที่จะพูดคุยกันเสียก่อน

หนานหลิงจิ่นฝานจ้องมองไปที่เฟิ่งชิงเฉิน มุมปากของเขายกขึ้น กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่น่ารังเกียจ “แม่นางชิงเฉิน พวกเราได้พบกันอีกแล้ว อ่า......เสด็จอาเก้าเองก็อยู่ด้วยงั้นหรือ? ขอโทษที่เสียมารยาท ข้าคิดว่าวันนี้ท่านจะไม่มาแล้วเสียอีก”

น้ำเสียงและท่าทางของเขาราวกับว่าเพิ่งจะเห็นเสด็จอาเก้า แต่ความสุขและความยอกย้อนในดวงตาของเขาไม่อาจปกปิดไว้ได้เลย

“องค์ชายจิ่นฝานสุภาพเกินไปแล้ว” เสด็จอาเก้ารู้อยู่แล้วว่าคนขี้แค้นอย่างหนานหลิงจิ่นฝานไม่มีทางปล่อยโอกาสเช่นนี้ให้หลุดลอยไป เป็นอย่างที่คิด หนานหลิงจิ่นฝานพูดออกมาอีกว่า “เสด็จอาเก้าต่างหากที่ขี้เกรงใจ เพียงแต่นี่เป็นเพียงงานเลี้ยงเล็ก ๆ แม้ว่าท่านจะไม่มาก็คงไม่มีใครพูดถึงบาดแผลที่ท่านเพิ่งจะได้รับมา”

“แคก แคก......” หนานหลิงจิ่นสิงยืนอยู่ด้านข้าง เห็นเฟิ่งชิงเฉินขมวดคิ้วขึ้นมา เขาก็รีบขัดจังหวะ เขาก้าวออกมาด้านหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน “พี่สาว ไม่เจอกันนานเลย ท่านยังสบายดีไหม?”

ในสถานการณ์เช่นนี้ เรียกเฟิ่งชิงเฉินออกมาว่าพี่สาว เห็นได้ชัดว่าหนานหลิงจิ่นสิงไม่เคยคิดที่จะล้ำเส้นที่เฟิ่งชิงเฉินได้ขีดเอาไว้ แต่เมื่อนึกถึงความสำคัญที่เฟิ่งชิงเฉินมีต่อหวังจิ่นหลิง สิ่งนี้มันก็สามารถเข้าใจได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ