นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1286

สรุปบท บทที่ 1286 ร่วมมือกับศัตรู เพื่อความรุ่งโรจน์ครั้งสุดท้าย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปตอน บทที่ 1286 ร่วมมือกับศัตรู เพื่อความรุ่งโรจน์ครั้งสุดท้าย – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

ตอน บทที่ 1286 ร่วมมือกับศัตรู เพื่อความรุ่งโรจน์ครั้งสุดท้าย ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เฟิ่งชิงเฉินจากไปอย่างรีบร้อน และไม่ได้กล่าวลาต่อเหวินหยวน หลังจากที่เหวินหยวนรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเขาก็ไม่ได้โกรธ แต่เขากลับว่ากล่าวจั่นเหยียนไปหนึ่งที

คำพูดเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงควรจะพูด ทันทีที่เธอพูดคำเหล่านั้นออกมา คนที่ไม่รู้ก็คงคิดว่าหญิงสาวในตระกูลจั่นไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน เปิดปากพูดก็มีแต่เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เท่านั้น

แม้ว่าเหวินหยวนจะไม่ถือเคร่งในประเพณี แต่เขาก็ไม่สามารถยอมรับสิ่งที่แหกกฎมากเกินไปได้ จั่นเหยียนรู้ว่าเธอผิด ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าโต้เถียงและยอมรับความผิด แต่ในใจเธอกลับไม่ได้รู้สึกเสียใจเลย

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จั่นเหยียนก็ไม่กล้าพูดถึงเรื่องนี้อีก และเดินทางไปตงหลิงพร้อมกับเหวินหยวน เมื่อเหวินหยวนเห็นลูกสาวของเขาเป็นเช่นนี้ ก็แอบถอนหายใจ

เขาจะไม่รู้ความคิดของลูกสาวของเขาได้อย่างไร เป็นเพราะเขารู้เขาถึงได้เชิญเฟิ่งชิงเฉินมา เพื่อให้จั่นเหยียนเห็นว่า หวังจิ่นหลิงนั้นชอบผู้หญิงแบบไหน

เฟิ่งชิงเฉินนั่นแตกต่างจากผู้หญิงในยุคนี้ เธอเป็นคนใจกล้าและบ้าระห่ำกว่าผู้ชาย ซึ่งจุดนี้ที่จั่นเหยียนไม่สามารถทำได้ จุดประสงค์ที่เขาเชิญเฟิ่งชิงเฉินมาก็เพื่อให้เธอตายใจ ว่าผู้หญิงที่หวังจิ่นหลิงชอบนั้นไม่ใช่ผู้หญิงแบบเธอ แต่...

แต่เมื่อคิดถึงความโง่เขลาของจั่นเหยียน ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ทำไมเขาถึงได้อบรมสั่งสอนลูกชายและลูกสาวออกมาเป็นคนแบบนี้ได้ สิ่งที่เขาทำมันผิดใช่ไหม

ทั้ง ๆ ที่เขาอบรมสั่งสอนเด็กสองคนนี้ให้ทำตัวสมเป็นผู้ดีมีวงศ์ตระกูล ไม่ว่าทำเรื่องอะไรต้องรู้จักใช้วิธีกลอุบายในการทำสิ่งต่าง ๆ แต่ทำไมสองคนนี้ถึงเรียนรู้ไปแค่ครึ่งเดียว อีกครึ่งหนึ่งทำไมไม่รู้จักเรียนรู้บ้าง?

จิ่นหลิงกลับไม่ทำอะไรเลย ได้แต่เฝ้าดูคนที่ชอบอยู่กับคนอื่น เหยียนเอ๋อยิ่งโง่เขลากว่า เธอยังช่วยจิ่นหลิงตามจีบเฟิ่งชิงเฉิน เด็กสองคนนี้ช่าง...

เฮ้อ.....

เหวินหยวนนั้นเป็นคนร่าเริงใจกว้าง ไม่มีอะไรทำให้เขากังวลได้นาน แต่เรื่องของหวังจิ่นหลิงและจั่นเหยียนเขากลับกลุ้มใจมากจนผมหงอกหมดหัว

ที่คนกลัดกลุ้มยังมีอีกคนคืนหนานหลิงจิ่นสิง

จดหมายที่เสด็จอาเก้ามอบให้เขา และเพราะเขาเปิดจดหมายนั่น ถึงทำให้เขารู้สึกเป็นกังวล

จดหมายนั้นเป็นจดหมายที่องค์หญิงใหญ่แห่งซีหลิงเขียนให้หนานหลิงจิ่นฝาน เหมือนเป็นการหยั่งเชิงถึงความร่วมมือกัน

ลูกที่เพิ่งคลอดขององค์หญิงใหญ่แห่งซีหลิงตายแล้ว นั้นหมายถึงเธอได้สูญเสียข้อต่อรองในการชิงบัลลังแห่งซีหลิงไปแล้ว และที่ซีหลิงก็ไม่มีที่ที่ให้เธออยู่ต่อไปได้

ซีหลิงเทียนอวี่เป็นทายาทเพียงคนเดียวแห่งซีหลิง ถึงแม้ว่าซีหลิงเทียนอวี่จะไม่ทำอะไรเลย แต่ผู้คนที่ต้องการอาศัยบารมีของเขา ก็แสดงตนเป็นปฏิปักษ์กับองค์หญิงใหญ่เป็นเรื่องธรรมดา และยึดเอาโทษขององค์หญิงใหญ่เพื่อที่จะสวามิภักดิ์ต่อซีหลิงเทียวอวี่

องค์หญิงใหญ่อยู่ในซีหลิงอย่างยากลำบาก เธอเป็นคนที่เริ่มสงครามระหว่างตงหลิงและซีหลิง เดิมทีเธอต้องการขุดหลุมพรางให้ซีหลิงเที่ยนอวี่ตกลงไป แต่สุดท้ายกลับเป็นเธอเสียเองที่ตกหลุมพราง

ตอนนี้ซีหลิงมีแต่ล่าถอยอย่างต่อเนื่อง ผู้คนที่มากไม่ว่าเจ้าหน้าที่พลเรือนและทหารในราชสำนัก รวมถึงราษฎรแห่งซีหลิงต่างก็วิพากษ์วิจารณ์และประนามว่าองค์หญิงใหญ่นำหายนะมาสู่บ้านเมือง

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ องค์หญิงใหญ่จะต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง ประนีประนอมกับซีหลิงเทียนอวี่ หรือไม่ก็สู่สุดกำลังแล้วยึดอำนาจมา ในฐานะที่องค์หญิงใหญ่อยู่ในศูนย์กลางแห่งอำนาจ มีหรือองค์หญิงใหญ่จะยอมประนีประนอมและลดอำนาจในมือของเธอลง ดังนั้น...

องค์หญิงใหญ่จึงตัดสินใจร่วมมือกับหนานหลิงจิ่นฝาน ก่อนอื่นเธอจะใช้คนที่มีอยู่ในมือลอบสังหารหนานหลิงจิ่นสิง และผลักดันให้หนานหลิงจิ่นฝานขึ้นเป็นองค์รัชทายาท

เมื่อหนานหลิงจิ่นฝานขึ้นเป็นเป็นองค์รัชทายาท เธอก็จะใช้การแก้แค้นให้กับหนานหลิงจิ่นสิงเป็นฉากบังหน้า เมื่อซีหลิงเปิดฉากโจมตี เธอก็จะใช้กลอุบายในสงครามครั้งนี้ แล้วอาศัยโอกาสยึดอำนาจและขึ้นครองบัลลังก์

องค์หญิงใหญ่เป็นผู้หญิงที่เสียสติไปแล้ว เพื่อตำแหน่งนั้น เธอใช้ราษฏรและทหารของทั้งสองเมืองเป็นเบี้ย ส่งไปตายตามอำเภอใจของเธอ

“หรือข้าคิดมากเกินไปหรือเปล่า?” หนานหลิงจิ่นฝานขมวดคิ้วและถามตัวเอง ผู้นำตระกูลซูแสร้งทำเป็นรู้และพูดว่า: "ฝ่าบาททรงกังวลมากเกินไป แม้ว่าในหนานหลิงเสด็จอาเก้าจะเป็นมังกร แต่เขาก็ยังต้องอยู่ภายใต้อำนาจของฝ่าบาท ส่วนเรื่องในอนาคต ฝ่าบาทยิ่งไม่ต้องเป็นกังวล แม้ว่าเสด็จอาเก้าคิดจะทำอะไรก็ตาม แม้มีใจแต่ก็ไร้ซึ่งอำนาจ เขาไม่สามารถหนีออกไปจากหนานหลิงได้ "

หนานหลิงจิ่นฝานพยักหน้า ระงับความไม่สบายใจในใจแล้วถามว่า "ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือยัง?"

ไม่ว่าเสด็จอาเก้าจะคิดทำอะไรก็ตาม แต่ถ้าเขาตายไป เขาก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้อีก

ผู้นำตระกูลซูกล่าวอย่างมั่นใจ: "ฝ่าบาทวางใจได้ ศาลาเสวียนชิงรับคำสั่งไปแล้วจะต้องทำสำเร็จแน่ ถึงแม้พวกเธอจะไม่ใช่นักฆ่า แต่การทำงานของพวกเธอก็ขึ้นชื่อเช่นกัน พวกเธอจะไม่ยอมลามือถ้าเสด็จอาเก้าไม่ตาย ถ้าแผนล้มเหลว เสด็จอาเก้าโชคดีหนีรอดไปได้ ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรา เราไม่ได้ออกหน้าโดยตรง ถึงจะสืบก็ไม่มีวันสาวมาถึงพวกเราได้อย่างแน่นอน”

ศาลาเสวียนชิงในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสี่ลัทธิสำคัญ ที่ตั้งอยู่ในเมืองหนานหลิง ลูกศิษย์ของสำนักล้วนเป็นผู้หญิง และทั้งหมดเป็นผู้หญิงที่ถูกผู้ชายทำร้ายมาก่อน พวกเธอลงมือเหี้ยมโหดและไร้ความปราณี โดยเฉพาะกับผู้ชาย

ศาลาเสวียนชิงไม่ใช่นักฆ่าและไม่รับภารกิจฆ่าคน ถึงจะอยู่ในยุทธภพก็ยังต้องใช้เงิน หนานหลิงจิ่นฟานเสนอเงินจำนวนมากขนาดนี้ให้กับพวกเธอ เพื่อขอให้พวกเธอฆ่าชายคนหนึ่ง พวกเธอไม่มีทางที่จะปฏิเสธอยู่แล้ว

“จับตาดูให้ดี อย่าทำงานพลาดอีก ปิดปากพวกมันให้หมด” หนานหลิงจิ่นฟานสั่งอย่างเข้มงวด ผู้นำตระกูลซูสะดุ้งและยืนยันอีกครั้ง: "ฝ่าบาท แต่ว่าองค์หญิงหมิงเว่ย และแม่นางจั่นก็อยู่ที่นั่นด้วย "

“ฆ่าให้หมด” หนานหลิงจิ่นฟานไม่ลังเลเลย แต่ในส่วนลึกของดวงตาเขารู้สึกไม่เต็มใจเล็กน้อย

ผู้นำตระกูลซูรู้สึกหนาวสั่นอยู่ข้างหลังเขา และพยักหน้าซ้ำๆ เมื่อนึกถึงความเหี้ยมโหดไร้ความปราณีของหนานหลิงจิ่นฝานแล้วเขาต้องมองเขาใหม่

เขาสามารถฆ่าน้องสาวและผู้หญิงที่เขารักได้ง่าย ๆ เช่นนี้ ถ้าวันใดที่เขาหมดผลประโยชน์ เขาเองก็จะถูกฆ่าด้วยหรือไม่?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ