นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1292

การคาดเดาของเฟิ่งชิงเฉินนั้นถูกต้อง หลานจิ่วชิงตัวปลอมที่อยู่ด้านหน้าของนางก็คือหนานหลิงจิ่นฝาน และเป้าหมายของเขาก็ไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสเหวินหยวนคนเดียวเท่านั้น

หนานหลิงจิ่นฝานค่อย ๆ ตัดโซ่ให้นางอย่างช้า ๆ ไม่นานก็มีร่องรอยปรากฏออกมาบนโซ่เล็กน้อย อย่าคิดมาก หนานหลิงจิ่นฝานไม่ได้กำลังทุ่มเทอย่างสุดกำลัง โซ่เหล็กเหล่านี้เป็นเพียงแค่โซ่เหล็กธรรมดา มันไม่ได้เป็นโซ่เหล็กพิเศษอะไรเหมือนกับที่หนานหลิงจิ่นฝานพูด ของแบบนั้นแม้แต่ในราชวงศ์ทั้งสี่ประเทศเองยังไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำ

ในตอนที่หนานหลิงจิ่นฝานกำลังติดโซ่ ฉวยโอกาสตอนที่เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้สังเกต เฝ้ามองปฏิกิริยาของเฟิ่งชิงเฉิน เมื่อเห็นความเชื่อมั่นบนใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินที่มองมาที่เขา ไม่ได้มีปฏิกิริยาที่ผิดแปลกแต่อย่างใด หนานหลิงจิ่นฝานก็ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

ดูจากท่าทางแล้ว เหมือนว่าเฟิ่งชิงเฉินจะผ่านการทดสอบในด่านแลกของเขา

หลานจิ่วชิง คนที่เข้าใจได้ยาก ไม่สามารถตัดสินได้ว่าเป็นคนดีหรือคนเลว เป็นอีกคนที่เหมือนกับเสด็จอาเก้า คือมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีกับเฟิ่งชิงเฉิน และตัวตนดังกล่าวก็ถูกออกแบบมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ

เขาจะใช้ตัวตนดังกล่าวในการส่งมอบ “ของขวัญชิ้นใหญ่” ให้กับเสด็จอาเก้า

เมื่อคิดถึงตรงนี้ การเคลื่อนไหวของหนานหลิงจิ่นฝานก็เป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ทางด้านของเฟิ่งชิงเฉินกลับเป็นฝ่ายที่ตื่นตระหนก นางอยากจะให้โซ่ที่พันธนาการนางไว้ขาดให้เร็วที่สุด

เมื่อเป็นอิสระแล้ว ต่อให้หนานหลิงจิ่นฝานจะทำอะไรบ้า ๆ ขึ้นมากะทันหัน นางก็มีความมั่นใจสองส่วนว่าสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ แต่หากถูกล่ามโซ่อยู่บนเตียงเช่นนี้ นางก็ทำได้เพียงแค่นอนร้องขอความเมตตาเท่านั้น

ในสมองของเฟิ่งชิงเฉิน นางกำลังคิดหาวิธีการต่าง ๆ ไม่ยอมหยุด แต่เสียงที่ดังขึ้นจากการกระทบกันของมีดกับโซ่ มันได้ทำลายความคิดทุกอย่างในสมองของนาง ทำให้เฟิ่งชิงเฉินไม่อาจสงบสติอารมณ์ของนางได้

ช่างมัน เลิกคิดได้แล้ว ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ทางที่ดีควรประนีประนอม เป้าหมายของหนานหลิงจิ่นฝานนั้นเคยจะเป็นอาวุโสเหวินหยวน ขอแค่ไม่ได้เผชิญหน้ากับอาวุโสเหวินหยวน หนานหลิงจิ่นฝานก็ไม่มีทางสังหารเขาได้สำเร็จ

เอาเท่านี้ก่อนแล้วกัน ที่เหลือก็ค่อย ๆ จัดการและแก้ไขไปทีละอย่าง สุดท้ายหากยังมีชีวิตอยู่ก็ยังมีหนทางในการแก้ปัญหา

แคร่ง......ในที่สุดเสียงที่เฟิ่งชิงเฉินรอคอยก็ดังขึ้นมา มือซ้ายของนางเป็นอิสระ เฟิ่งชิงเฉินจ้องมองไปยังบาดแผลที่ข้อมือของตนเอง สะบัดข้อมือเล็กน้อย หลังจากมั่นใจแล้วว่าไม่ได้เป็นไรมาก มุมริมฝีปากของนางก็ยกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ความตื่นเต้นเผยออกมาให้เห็นบนใบหน้า หันไปหาหนานหลิงจิ่นฝานซึ่งปลอมตัวเป็นหลานจิ่วชิง “โชคดีจริง ๆ ที่ได้พบเจ้า ไม่อย่างนั้นข้าจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ไม่รู้”

หนานหลิงจิ่นฝานส่งเสียงตอบรับกลับไป ครั้งนี้การเคลื่อนไหวของเขาค่อนข้างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว เขาใช้เวลาไม่ถึงครึ่งหนึ่งในการปลดโซ่ที่ข้อมือขวาออก และมือข้อมือขวาของนางก็ถูกหนานหลิงจิ่นฝานขีดข่วนจนเป็นรอยเช่นกัน

เห็นได้ชัดว่าหนานหลิงจิ่นฝานจงใจจะทำเช่นนี้ แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้โกรธแต่อย่างใด ไม่เพียงเท่านั้น นางยังปลอบใจหนานหลิงจิ่นฝานว่าทั้งหมดเป็นเพียงอุบัติเหตุ นางไม่ได้บาดเจ็บแม้แต่น้อย

หลังจากที่มือทั้งสองข้างถูกปลดพันธนาการ คราวนี้ก็เหลือแต่เท้า ครั้งนี้หนานหลิงจิ่นฝานไม่ได้คิดที่จะทรมานเฟิ่งชิงเฉิน เนื่องจากจำเป็นต้องใช้ขาทั้งสองข้างในการเดินทาง หากขาของเฟิ่งชิงเฉินได้รับบาดเจ็บ เช่นนั้นมันก็ถือเป็นปัญหาสำหรับเขาเช่นกัน

เมื่อได้รับอิสระ เฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เริ่มทำแผล ระงับความเกลียดชังและครั่นเนื้อครั่นตัว นางจับมือของหนานหลิงจิ่นฝานพร้อมกับเดินออกไป “พวกเรารีบไปกันเถอะ หากถูกเจอตัวเข้าจะต้องไม่ดีแน่”

“ได้” หนานหลิงจิ่นฝานเดินตามหลังของเฟิ่งชิงเฉินอย่างไม่เร่งรีบ มีดสั่นในมือของเขาจ่ออยู่ที่เอวของเฟิ่งชิงเฉินตลอดเวลา หากเฟิ่งชิงเฉินแสดงท่าทีผิดปกติ เขาก็จะพรากชีวิตของนางในทันใด

แต่เขาอาจจะไม่รู้ ในตอนที่เขาระมัดระวังเฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่ได้ปล่อยให้อีกฝ่ายเอาเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว มือของนางจับอยู่ตรงตำแหน่งหลอดเลือดแดงเส้นใหญ่ของหนานหลิงจิ่นฝาน ขอแค่ออกแรงเพียงน้อยนิด นางก็สามารถทำลายชีพจรของหนานหลิงจิ่นฝานได้ในทันใด

เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าที่นี่คือพระราชวังใต้คิด เมื่อมองเห็นเส้นทางอันมืดมิด นางก็ไม่ได้รู้สึกตกใจแต่อย่างใด นางเพียงถามหนานหลิงจิ่นฝานที่อยู่ด้านหลังของนางว่า “เมื่อครู่เจ้าเข้ามาในนี้ได้อย่างไร พวกเขาใช้วิธีนั้นออกไปกันเถอะ เจ้าบอกข้ามาว่าข้าต้องไปทางไหน?”

เฟิ่งชิงเฉินมั่นใจเป็นอย่างมากว่าหนานหลิงจิ่นฝานไม่มีทางหันหลังให้นาง ดังนั้นนางจึงจงใจเป็นคนเดินอยู่ด้านหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวตนของหนานหลิงจิ่นฝานถูกเปิดเผย

เวลานี้ ไม่ใช่แค่หนานหลิงจิ่นฝานเท่านั้นที่พยายามปลอมตัวให้เหมือนกับหลานจิ่วชิงมากที่สุด ตัวของเฟิ่งชิงเฉินเองก็ต้องให้ความช่วยเหลือหนานหลิงจิ่นฝานเช่นกัน ต้องทำเหมือนว่าเขาเป็นหลานจิ่วชิงตัวจริง มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้

“ได้ เลี้ยวซ้ายด้านหน้า” หนานหลิงจิ่นฝานพอใจกับความพยายามของเฟิ่งชิงเฉินเป็นอย่างมาก ภายใต้การบอกทางของหนานหลิงจิ่นฝาน เฟิ่งชิงเฉินพาหนานหลิงจิ่นฝานเดินไปตามช่องทางอย่างรวดเร็ว และไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถออกไปได้

“เลี้ยวขวาด้านหน้า”

“ตกลง” เฟิ่งชิงเฉินทำตามที่อีกฝ่ายบอก เมื่อตอนที่กำลังจะเลี้ยวขวา พวกเขาก็พบกับคนที่เฝ้าอยู่ในพระราชวังใต้ดินแห่งนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ