นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1293

การล้มลงของเฟิ่งชิงเฉินทำให้พวกเขาพลาดโอกาสในการหลบหนีที่ดีที่สุดไป และเหล่าโจรภูเขาที่วิ่งตามมาด้านหลังก็เข้ามาล้อมเฟิ่งชิงเฉินและหนานหลิงจิ่นฝานไว้อย่างรวดเร็ว

เวลานี้แน่นอนว่าหนานหลิงจิ่นฝานต้องออกไปเพื่อรับมือกับคนที่เข้ามาโจมตีเหล่านี้ ส่วนขาที่ได้รับบาดเจ็บของเฟิ่งชิงเฉินจะเป็นอย่างไร?

เรื่องนี้หนานหลิงจิ่นฝานไม่มีความจำเป็นจะต้องไปสนใจ เฟิ่งชิงเฉินจะเจ็บหรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับเขา ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในพระราชวังใต้ดิน ที่เขาไม่ทำให้ขาของเฟิ่งชิงเฉินต้องบาดเจ็บ นั่นก็เพราะว่าขาของนางยังจำเป็นสำหรับการเดิน แต่เวลานี้?

ไม่ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะสงสัยในตัวเขาหรือไม่ เขาก็ไม่กล้าพอที่จะเสี่ยงอันตราย การที่ขาของเฟิ่งชิงเฉินได้รับบาดเจ็บ ต่อให้นางสงสัยในตัวเขา นางก็ไม่อาจหนีไปไหนได้ มีเฟิ่งชิงเฉินอยู่ในมือ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะหาเสด็จอาเก้าไม่พบ

เสด็จอาเก้าทำให้เขาที่เป็นเจ้าชายกลายเป็นคนบาป เขาเองก็ไม่มีทางปล่อยให้เสด็จอาเก้าได้อยู่อย่างสุขสบายเป็นแน่

เลือดมันต้องแลกมาด้วยเลือด!

เมื่อคิดจะดึงตนเองลงมาจากเมฆ หนานหลิงจิ่นฝานเองก็จำเป็นต้องถลกหนังของเสด็จอาเก้า และทำให้เสด็จอาเก้าได้ลิ้มรสกับความเจ็บปวด

ยิ่งการต่อสู้ดำเนินต่อไป ความโกรธของหนานหลิงจิ่นฝานก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ดวงตาคู่นั้นของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ทุกอย่างเริ่มเหมือนการต่อสู้จริงขึ้นเรื่อย ๆ ลูกน้องของเขาได้รับคำสั่งให้เข้ามาสร้างสถานการณ์เท่านั้น และเวลานี้ใบหน้าของทุกคนต่างซีดขาว

หนานหลิงจิ่นฝานสามารถสังหารพวกเขาได้ แต่พวกเขาไม่กล้าทำร้ายหนานหลิงจิ่นฝานจริง ๆ

“ยา......” ดวงตาทั้งสองข้างของหนานหลิงจิ่นฝานกลายเป็นสีแดง ตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง เห็นทุกคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นเสด็จอาเก้า ดวงตาคู่นั้นของเขาราวกับเทพแห่งการสังหาร

สมควรแล้ว!

ขณะที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังพัวพันกับกับดักสัตว์ นางก็ไม่ลืมที่จะหันมามองหนานหลิงจิ่นฝาน เมื่อเห็นหนานหลิงจิ่นฝานลงมือกับลูกน้องของตนเองอย่างโหดร้าย สังหารพวกเขาไปไม่น้อย ความโกรธในใจของนางก็ค่อย ๆ เบาบางลง

หากบ้าได้มากกว่านี้คงจะดี!

เฟิ่งชิงเฉินสาปแช่งออกมา เมื่อเห็นการต่อสู้ของเฟิ่งชิงเฉินรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เฟิ่งชิงเฉินก็รู้ว่าในระยะเวลาอันสั้น คนกลุ่มนี้ไม่มีทางสนใจนางเป็นแน่

เฟิ่งชิงเฉินเอนกายไปด้านหลัง ยกแขนเสื้อขึ้นมา เปิดใช้งานกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะอย่างรวดเร็ว หยิบยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบออกมา ส่วนสิ่งของชิ้นใหญ่อย่างแอลกอฮอล์ล้างแผล เฟิ่งชิงเฉินไม่กล้าหยิบมันออกมา เพราะเกรงว่าหนานหลิงจิ่นฝานจะตรวจพบมัน

กรงเล็บเสือบินและแผงมีดผ่าตัดที่ถูกผูกไว้ข้างเอว ทั้งหมดถูกคนของหนานหลิงจิ่นฝานเอาไป เสด็จอาเก้าจึงหยิบเครื่องมือผ่าตัดขึ้นมาอีกชุดหนึ่งมาผูกไว้กับขาข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

กวาดสายตามองไปเห็นปืนที่ถูกโยนไปอยู่ตรงมุม เฟิ่งชิงเฉินหดหู่ใจเป็นอย่างมาก หากปืนกระบอกนี้ยังสามารถใช้งานได้ก็คงจะดี นางจะต้องใช้กระสุนที่มีอยู่อย่างไม่ลังเล จะยิงมันไปบนร่างของหนานหลิงจิ่นฝานให้เป็นรูพรุนโดยไม่ปรานี เพียงแต่......

อนิจจา ความขมขื่นและความโชคร้ายเป็นสิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้จริง ๆ

เฟิ่งชิงเฉินระงับความหดหู่ไว้ในหัวใจ ปิดกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะและเก็บกลับเข้าไป หันไปมองการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างพวกของหนานหลิงจิ่นฝานด้วยกันเอง เฟิ่งชิงเฉินหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจ เทยาแก้อับเสบใส่เข้าไปในปาก และกลืนมันเข้าไปโดยตรง เอายาที่เหลือติดไว้กับตัวของนางเอง และเฟิ่งชิงเฉินก็ต่อสู้กับกับดักที่ขาของนางต่อไป

คนชั่วอย่างหนานหลิงจิ่นฝานนั้นเป็นคนที่พึ่งพาไม่ได้ แม้ว่าภายนอกของเขาจะเป็นหลานจิ่วชิง แต่มันก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงนิสัยที่เลวทรามภายในได้

หลังจากหนานหลิงจิ่นฝานบ้าคลั่งอยู่พักใหญ่ เขาก็ค่อย ๆ กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง เห็นลูกน้องที่ตายอย่างอนาถด้วยฝีมือของตนเอง หนานหลิงจิ่นฝานแอบรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เมื่อคนที่เหลืออยู่เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกโล่งใจ แสดงละครต่อไป สุดท้ายก็ล้มลงและทำเป็นว่าพวกเขาต่อสู้ต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว

หนานหลิงจิ่นฝานค่อย ๆ ลดการโจมตีของตนเองลงพร้อมกับถอยมาหาเฟิ่งชิงเฉิน เมื่อเห็นว่ากับดักที่ขาของเฟิ่งชิงเฉินถูกปลดออกแล้วครึ่งหนึ่ง ความชั่วร้ายก็ส่องประกายออกมาจากแววตาของหนานหลิงจิ่นฝานอีกครั้ง

หากเขายกร่างของเฟิ่งชิงเฉินขึ้นมาในตอนนั้น กับดักดังกล่าวไม่เพียงแต่จะทำให้ขาของเฟิ่งชิงเฉินได้รับบาดเจ็บเท่านั้น แต่มันยังสามารถตัดขาของเฟิ่งชิงเฉินได้อีกด้วย

ถึงตอนนั้น แม้ว่าทักษะทางการแพทย์ของเฟิ่งชิงเฉินจะสูงส่งเพียงใด แต่ขาของนางก็ไม่มีทางกลับคืนมาได้

หนานหลิงจิ่นฝานคิดเช่นนั้น และเขาก็ทำอย่างที่เขาคิดจริง ๆ เขาทำเป็นเดินเสียหลักไปด้านหลัง จากนั้นก็กระโดดไปข้างกายของเฟิ่งชิงเฉิน คว้าไปที่หัวไหล่ของเฟิ่งชิงเฉินพร้อมกับพูดว่า “ไปกันเถอะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ