สรุปตอน บทที่ 1300 วีรบุรุษ, ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าก็จะอยู่เคียงข้างเจ้า – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
ตอน บทที่ 1300 วีรบุรุษ, ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าก็จะอยู่เคียงข้างเจ้า ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ไม่ง่ายเลยกว่าที่หลานจิ่วชิงจะเดินทางมายังเมืองเหลียนเฉิง แน่นอนว่าเขาไม่มีทางจากไปง่าย ๆ เหมือนกับคำพูดของเขา แม้ว่าจะเป็นห่วงเฟิ่งชิงเฉินมาเพียงใด แต่เขาก็ไม่สามารถละทิ้งหน้าที่ของเขาได้ เพราะมีอยู่หลายเรื่องที่เจ้าเมืองเหลียนเฉิงและปู้จิงหยุนไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง
หากหลานจิ่วชิงไม่มาที่นี่ พวกเขาก็จะส่งเรื่องทั้งหมดให้ซูเหวินชิงเป็นคนจัดการ จากนั้นก็ต้องรอให้หลานจิ่วชิงทำการตัดสินใจอีกครั้ง เวลานี้หลานจิ่วชิงอยู่ที่นี่ แน่นอนว่าเจ้าเมืองเหลียนเฉิงไม่มีทางปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป เขานำงานทั้งหมดที่สะสมไว้ก่อนหน้านี้มาให้หลานจิ่วชิงเป็นคนตัดสินใจและจัดการ
แม้จะไม่ได้ได้พักผ่อนหรือหลับนอน หลานจิ่วชิงก็ใช้เวลาถึงสองวันเต็มกว่าจะสะสางงานทั้งหมดจะเสร็จ หลังจากนอนหลับพักผ่อน หลานจิ่วชิงก็ติดต่อกับสายลับ และเป็นช่วงเวลาที่สายลับรายงานเกี่ยวกับร่องรอยและที่อยู่ของหนานหลิงจิ่นฝานเข้ามาพอดี
หนานหลิงจิ่นฝานกลายเป็นคนพิการนอนติดเตียง เวลานี้เขาเป็นได้แค่คนไร้ประโยชน์ ไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาเป็นเช่นเดิมได้ เวลานี้อาศัยอยู่ที่เมืองเย่เฉิง
“เมืองเย่เฉิง?” หลานจิ่วชิงยิ้มออกมา
เย่เย่ต้องโง่ขนาดไหนถึงยอมรับและดูแลหนานหลิงจิ่นฝานไม่สภาพจนตรอกเช่นนี้ เย่เย่ช่างไม่กลัวความตายเอาเสียเลย
หนานหลิงจิ่นฝานไม่น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว หลานจิ่วชิงไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา จึงถามออกมาว่า “แล้วแม่นางเฟิ่งล่ะ? ได้รับเบาะแสอะไรบ้างหรือไม่?”
“ตอนนี้แม่นางเฟิ่งอยู่ในมือของศาลาเสวียนชิง” ในตอนที่สายลับพูดออกมา เขาก็ก้มหน้าลง
ก่อนหน้านี้ตอนที่สืบหาเรื่องราวของศาลาเสวียนชิง พวกเขาก็ไม่พบเบาะแสของเฟิ่งชิงเฉิน และมันก็แสดงให้เห็นว่า ความสามารถในการค้นหาของพวกเขาต่ำมาก
“ศาลาเสวียนชิง?” สีหน้าของหลานจิ่วชิงเปลี่ยนไป น้ำเสียงของเขาเคร่งขรึมอย่างน่าประหลาดใจ สายลับแอบสูดลมหายใจเขา จากนั้นก็รีบกล่าวออกมาว่า “นายท่านวางใจ แม่นางเฟิ่งยังปลอดภัยดี แม่นางเฟิ่งได้รับการช่วยเหลือจากตำหนักซื่ออี้ พวกนางไม่รู้สถานะของแม่นางเฟิ่ง เวลานี้แม่นางเฟิ่งยังไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด”
หากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เมื่อพวกเขาค้นพบที่อยู่ของเฟิ่งชิงเฉิน พวกเขาก็คงพาตัวของเฟิ่งชิงเฉินกลับมาแล้ว และไม่มีทางมอบโอกาสเช่นนี้ให้กับนายท่านของพวกเขา
ใบหน้าของหลานจิ่วชิงผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขารู้ว่าด้านนอกมีคนของศาลาเสวียนชิงอยู่มากมาย เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า คนที่เขาตามหามาเป็นเวลาหนึ่งเดือน สุดท้ายแล้วกลับตกมาอยู่ในมือของศาลาเสวียนชิง นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญทั่วไปแล้ว
“ตอนนี้นางอยู่ไหน?” เมื่อตามหาจนเจอแล้ว และพบว่าไม่ได้เป็นอันตราย ความกังวลในหัวใจของหลานจิ่วชิงก็สลายไป
สวรรค์รู้ดี เขากังวลว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเฟิ่งชิงเฉินมากเพียงใด
“เมื่อวานกลุ่มของแม่นางเฟิ่งหยุดพักที่แคว้นอู่หยาง ข้าสั่งให้คนคอยจับตามองเอาไว้แล้ว”
“อ่า” หลานจิ่วชิงตอบรับอย่างพึงพอใจ
ในวันนั้น หลานจิ่วชิงจึงออกเดินทางจากเมืองเหลียนเฉิง ตรงไปยังแคว้นอู่หยาง เจ้าเมืองเหลียนเฉิงรู้ว่าหลานจิ่วชิงต้องการทำสิ่งใด แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางหรือแสดงท่าทีไม่พอใจ เขาเพียงแค่รู้สึกเป็นห่วงหลานจิ่วชิงเท่านั้น
เขากลัวว่าหลานจิ่วชิงจะเป็นเหมือนกับปู้จิงหยุนคนที่สอง ยอมสละทุกอย่างเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียว
เฟิ่งชิงเฉินได้ฟื้นฟูร่างกายของตนเองมาเป็นเวลายี่สิบกว่าวันแล้ว ร่างกายของนางกลับมาเป็นปกติโดยสมบูรณ์ ในช่วงสองวันที่ผ่านมา เฟิ่งชิงเฉินจึงพยายามคิดหาวิธีที่จะหนีไปจากที่นี่
ผู้หญิงเหล่านั้นของตำหนักซื่ออี้ไม่ได้ระวังนางเลย นางจึงสามารถลงมือได้โดยง่าย แต่ที่นางยังไม่ยอมลงมือ นั้นเป็นเพราะนางต้องการหาเมืองใหญ่ ๆ ที่เหมาะสมกับการลงมือ เนื่องจากมีจำนวนคนที่มาก จะทำให้สามารถหลบหนีได้ง่ายกว่า
แคว้นอู่หยางเป็นแคว้นใหญ่และมีประชาชนหนาแน่น เมื่อเดินทางมาถึงแคว้นอู่หยาง เฟิ่งชิงเฉินก็รู้ทันทีว่าโอกาสมาถึงแล้ว และไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่พวกนางวางแผนที่จะอยู่ที่นี่เป็นเวลาสองคืนเพื่อที่จะซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน
เพื่อไม่ทำให้อีกฝ่ายแคลงใจ ช่วงนี้เฟิ่งชิงเฉินจึงทำตัวเชื่อฟังเป็นพิเศษ พวกของซื่อชิงเองก็วางในใจตัวของเฟิ่งชิงเฉินมากขึ้นเรื่อย ๆ ในบางครั้งก็เล่าเรื่องราวในศาลาเสวียนชิงให้กับเฟิ่งชิงเฉินฟัง ทำให้เฟิ่งชิงเฉินค่อย ๆ เข้าใจกับสำนักที่มีตัวอักษรเสวียนมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าซื่อชิงจะพูดดีขนาดไหน แต่มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่าศาลาเสวียนชิงกำลังดำเนินมาถึงจุดล่มสลายไปได้ เฟิ่งชิงเฉินไม่มีความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นธรรมดาที่จะต้องดับสลายลงในสักวัน แม้แต่ราชวงศ์ที่รุ่งเรืองก่อนหน้านี้ยังล่มสลาย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องพูดถึงศาลาเสวียนชิง
ส่วนบุญคุณที่ศาลาเสวียนชิงมีต่อนาง นางก็จะตอบแทนให้เป็นแน่
วิชาที่พวกของซื่อชิงฝึกนั้นเป็นวิชาชั่วร้าย ส่งผลเสียต่อร่างกาย ยิ่งวิชาของพวกนางแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ ความงดงามของพวกนางก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แต่ความเจ็บปวดก็จะทวีความรุนแรงขึ้นในวันที่พวกนางมีประจำเดือน
หลังจากเฟิ่งชิงเฉินหนีไปได้ไม่นาน สายลับก็ปรากฏตัวออกมา สายลับทั้งสี่มองหน้ากันพร้อมแสดงรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่เข้าใจความหมายของมัน
ตอนแรกพวกเขาอยากจะสร้างโอกาสให้นายท่านของพวกเขาได้เป็นวีรบุรุษ ช่วงเวลาที่ผ่านมาจึงเอาแต่สะกดรอยตาม ส่วนเวลานี้......
ความสามารถของสาวงามนั้นแข็งแกร่งเกินไป สามารถหลบหนีจากอันตรายได้ด้วยตัวเอง และ “วีรบุรุษ” ก็กำลังเดินทางมา ทำให้พวกเขาไร้ซึ่งผลงานใด ๆ
เฮ้อ......
การที่สาวงามแข็งแกร่งเกินไปมันก็ไม่ใช่เรื่องดี สายลับถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ให้สองคนทำหน้าที่เก็บกวาดร่องรอยของเฟิ่งชิงเฉิน ส่วนอีกสองคนก็ทำหน้าที่ปกป้องเฟิ่งชิงเฉิน
แม้ว่าจะไม่มีความปรานี แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ใจดีเกินไป นางวางยาพวกของซื่อชิงทั้งสิบสองคนน้อยเกินไป และมันจะทำให้พวกนางตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น
ช่วงระยะเวลาหนึ่งคืน เฟิ่งชิงเฉินคิดว่าตนเองสามารถหลบหนีจากการไล่ตามของทั้งสิบสองคนได้ แต่สายลับกลับไม่คิดเช่นนั้น ป้องกันไว้ก่อนจะดีกว่า สายลับจึงแอบเข้าไปในห้อง เพิ่มปริมาณยาให้กับพวกของซื่อชิง ซึ่งเป็นปริมาณที่ทำให้พวกนางหลับสนิทเป็นระยะเวลาสองวัน
ในความคิดของพวกเขา แม้ว่าจะไม่สังหารสิบสองคนนี้ แต่พวกเขาก็จะทำให้พวกนางไม่อาจมีปากมีเสียงได้อีกในภายหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้พวกนางมาก่อกวนหรือสร้างปัญหาให้กับแม่นางเฟิ่งในอนาคต แต่ด้วยบุญคุณที่พวกนางมีต่อแม่นางเฟิ่ง สายลับก็ทำใจลงมือไม่ได้จริง ๆ
“ถือว่าเป็นความโชคดีของพวกเจ้า”
หลังจากสายลับจัดการกับพวกของซื่อชิงทั้งสิบสองคน พวกเขาก็ทิ้งร่องรอยของพวกเขาไว้ให้กับหลานจิ่วชิงในความมืด เพื่ออำนวยความสะดวกให้หลานจิ่วชิงในการตามหาพวกเขา
ในตอนที่หลานจิ่วชิงมาถึง เฟิ่งชิงเฉินก็ได้ออกไปจากแคว้นอู่หยางแล้ว หลานจิ่วชิงได้ยินรายงานจากสายลับ เขารู้สึกโกรธและปวดใจ
โกรธที่เฟิ่งชิงเฉินไม่รอเขา ปวดใจที่เฟิ่งชิงเฉินต้องจัดการและวางแผนที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เขาไม่มีทางเป็นเหมือนกับปู้จิงหยุน ไม่มีทางยอมที่จะละทิ้งทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ข้างกายของเฟิ่งชิงเฉิน......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...