นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1301

สรุปบท บทที่ 1301 เข่าอ่อน, พาเจ้ากลับไปอยู่ข้างกายเสด็จอาเก้า: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอน บทที่ 1301 เข่าอ่อน, พาเจ้ากลับไปอยู่ข้างกายเสด็จอาเก้า จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1301 เข่าอ่อน, พาเจ้ากลับไปอยู่ข้างกายเสด็จอาเก้า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เนื่องจากเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอและไม่เป็นศิลปะการต่อสู้ การอยู่ข้างนอกคนเดียวจึงอันตรายมาก หากว่ายิ่งเป็นผู้หญิงที่มีรูปโฉมงดงาม ยิ่งมีแนวโน้มที่จะตกเป็นเป้าหมายมากขึ้น

แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะมีทักษะในการป้องกันตัวเอง แต่เธอก็แค่ต่อสู้กับพวกอันธพาลไร้ฝีมือได้เท่านั้น หากเธอพบกับยอดฝีมือหรืออันธพาลเป็นกลุ่ม เธอก็ทำได้เพียงแค่ยอมจำนนเท่านั้น

เฟิ่งชิงเฉินรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองดี และยิ่งรู้จักรักชีวิตตัวเอง ไม่มีผู้คุ้มกันทั้งสิบสองคนจากศาลาเสวียนชิงแล้ว ดังนั้นเฟิ่งชิงเฉินจึงจำเป็นต้องทำลายโฉมของตัวเองในคืนนั้น

ทาผิวให้ดำคล้ำนั้นมันก็ดูปลอมเกินไป ทาหน้าให้ดำได้ แต่คอและมือล่ะ?

ใบหน้าที่ดำคล้ำอยู่บนคอที่ขาว และสองมือที่ขาวละเอียดและสวยงาม จะไปหลอกใครได้?

ถ้าต้องทาสีดำทั่วทั้งตัว มันก็ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่ เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกมันยุ่งยากเกินไป และหากโดนน้ำก็ง่ายที่จะถูกเปิดเผยได้

เพื่อความคงทนถาวร เฟิ่งชิงเฉินจึงใช้ยาที่ทำให้เกิดอาการแพ้ทาบนใบหน้าเธอ วันที่สองใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินก็เต็มไปด้วยผื่นแดง

ไม่ว่าพื้นฐานจะเป็นคนดีแค่ไหน ถ้าต้องจ้องใบหน้าที่เต็มไปด้วยผื่นแดง ก็ไม่มีใครกล้ามองแน่ เฟิ่งชิงเฉินจึงเดินอยู่บนถนนได้อย่างปลอดภัย มีบางคนเมื่อเห็นใบหน้าเธอแล้ว ถึงกลับรังเกียจและถอยห่างออกจากตัวเธอ

“แม่นางเฟิ่งช่างร้ายกาจจริง ๆ ” หน่วยลับชื่นชมเธอ ยอมทำลายรูปโฉมของตัวเอง เฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ

ไม่มีเอกสารแสดงตัวหรือป้ายผ่านทาง เฟิ่งชิงเฉินจึงต้องเลือกเดินเส้นทางสายเล็กและอยู่นอกเมืองที่ห่างไกล ด้วยใบหน้าของเธอตอนนี้ เลยทำให้เธอเดินทางได้อย่างราบรื่น แม้บางครั้งจะมีคนเข้ามาก่อกวนเธอบ้าง แต่ก็โดนหน่วยลับจัดการอย่างลับๆ

เดินทางติดต่อกันหลายวัน ในที่สุดเฟิ่งชิงเฉินก็มาถึงเมืองที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ว่าเธอไม่มีเอกสารติดตัวไม่สามารถเข้าเมืองได้ เธอจึงได้แต่อาศัยวัดร้างนอกเมืองค้างคืนชั่วคราว แล้วค่อยคิดหาวิธีเข้าไปในเมือง

หน่วยลับคอยปกป้องเฟิ่งชิงเฉินอย่างลับๆ ตลอดทาง จนกระทั่งหลานจิ่วชิงปรากฏตัว หน่วยลับจึงได้จากไปอย่างเงียบ ๆ และจัดการเคียร์ปัญหาต่าง ๆ จะได้เปิดทางสะดวกให้กับหลานจิ่วชิง และเขาทั้งสองคนจะได้แสดงความรักต่อกันได้สะดวก

หลานจิ่วชิงสวมหน้ากากสีเงินครึ่งหน้า แสงจันทร์ที่ส่องสว่างส่องมาบนใบหน้าของเขา แล้วหักเหแสงทำให้ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขาดูสว่างเป็นพิเศษ

ทันทีที่หลานจิ่วชิงเข้ามา เฟิ่งชิงเฉินก็ตื่นขึ้นมา: "นั่นใคร?"

เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเป็นคนที่คุ้นเคย แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ยังไม่ไว้วางใจ จึงลุกขึ้นยืนอย่างระมัดระวังตัว พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า: "จิ่วชิง นั่นเจ้าหรือเปล่า"

หลังจากโดนหลอกไปแล้วครั้งหนึ่ง เธอจึงต้องระมัดระวังตัว

"ใช่ " สัมผัสถึงความเย็นชาของเฟิ่งชิงเฉิน หลานจิ่วชิงรู้สึกสับสน เขาไม่ได้เจอเฟิ่งชิงเฉินมานานแล้ว คงไม่ได้ทำเรื่องอะไรให้เฟิ่งชิงเฉินเธอไม่พอใจหรอกนะ

เฟิ่งชิงเฉินเห็นหลานจิ่วชิงเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ เธอค่อยๆ เอามือไปด้านหลัง มือขวาถือมีด ผิงกำแพง ร้อยยิ้มบนใบหน้าไม่เปลี่ยนแปลง : "จิ่วชิง ทำไมเจ้าถึงได้มาอยู่ที่นี่ ช่างบังเอิญจริงๆ ”

“ไม่ได้บังเอิญหรอก ได้ข่าวว่าเจ้าเกิดเรื่อง ข้าก็เลยมาหาเจ้าโดยเฉพาะ แต่เมื่อเห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไรข้าก็รู้สึกโล่งใจ” หลานจิ่วชิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฟิ่งชิงเฉิน เมื่อเห็นใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินที่เตรียมพร้อม จึงหยุดและถอยห่างออกไปสามก้าว ระยะห่างนี้เพียงพอสำหรับเฟิ่งชิงเฉินที่จะเห็นเขาถนัด และถ้าเกิดอะไรขึ้นเธอก็จะสามารถวิ่งหนีได้

“แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเกิดเรื่องขึ้นกับข้า?” เมื่อเข้าใกล้มากขึ้น ในที่สุดเฟิ่งชิงเฉินก็เห็นคนที่อยู่ตรงหน้าเธอคือหลานจิ่วชิง เธอก็ผ่อนคลายลงทันที แล้วล้มตัวลงกับพื้น ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วพิงกำแพง “ไม่ใช่ตัวปลอม ในที่สุดข้าก็ปลอดภัยแล้ว”

“เกิดอะไรขึ้น?” หลานจิ่วชิงมองไปที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยความอยากรู้

ช่วงแรกเธอยังระมัดระวังตัว แต่ตอนนี้เธอกลับเชื่อใจเขา ปฎิกริยาของเฟิ่งชิงเฉินเปลี่ยนไปไวมาก เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่?

เฟิ่งชิงเฉินเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก แล้วพูดด้วยใบหน้าเศร้า: " เจ้าไม่รู้หรอก ข้าถูกหลอกมาก่อนหน้านั้น ถ้าข้าไหวพริบไม่ดี ไม่แน่ไอ้บ้านั้นปานนี้ได้ตายไปแล้วก็ได้"

“ข้าน่าเกลียดตรงไหน ข้าแค่ไม่ได้ดูแลตัวเองแค่สองสามวันเท่านั้น ” เฟิ่งชิงเฉินสัมผัสใบหน้าของเธอแล้วพูดด้วยความไม่พอใจ

ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ พวกเธอว่าตัวเองน่าเกียดได้ แต่พวกเธอยอมให้คนอื่นว่าแบบนั้นไม่ได้ หลานจิ่วชิงอดหัวเราะไม่ได้ จึงเอื้อมมือไปลูบหัวของเฟิ่งชิงเฉิน แต่เฟิ่งชิงเฉินหลบ: "เจ้าจะทำอะไร ข้ามีเจ้าของแล้ว”

มือของหลานจิ่วชิงค้างอยู่กลางอากาศ จากนั้นเขาก็ดึงมันกลับมาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น: "ข้ารู้ ข้าก็มีเจ้าของแล้วเหมือนกัน"

“เจ้า? มีเจ้าของ?” ดวงตาของเฟิ่งชิงเฉินลุกวาวด้วยความประหลาดใจ หลานจิ่วชิงพยักหน้ายืนยันอีกครั้ง: "ใช่ ข้ามีเจ้าของแล้ว ครั้งนี้ข้าแค่มาตามหาเจ้าเท่านั้น และตอนนี้ข้าก็พบเจ้าแล้ว เจ้าจะไปกับข้าหรือไม่?”

“เจ้าจะพาข้าไปไหน” แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินอยากจะรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของหลานจิ่วชิง แต่เมื่อเห็นหลานจิ่วชิงไม่เต็มใจที่จะบอก เฟิ่งชิงเฉินจึงเก็บความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองไว้

ครั้งแรกที่เขาเจอหลานจิ่วชิง เฟิ่งชิงเฉินก็เข้าใจว่าชายคนนี้เป็นคนมีเรื่องราว อย่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับเขามากเกินไป

“ข้าจะพาเจ้าไปพบเสด็จอาเก้า” หลานจิ่วชิงพูดอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้เฟิ่งชิงเฉินเชื่อว่าหลานจิ่วชิงมีเจ้าของแล้วจริงๆ

แม้ว่าหลานจิ่วชิงจะไม่พูด แต่เธอก็รู้ว่าหลานจิ่วชิงมีความรู้สึกดี ๆ ต่อเธอ แต่ตอนนนี้หลานจิ่วชิงมีเจ้าของแล้ว เธอก็ไม่ต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เลยเถิดระหว่างทั้งสองคน

เมื่อเป็นเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินและหลานจิ่วชิงก็ไม่ต้องมีกระอักกระอวนใจในความสัมพันธ์นี้อีก เธอจึงไว้วางใจให้หลานจิ่วชิงเป็นคนพาเธอไป

การมีคนมาปกป้องเป็นเรื่องที่ดี และเธอไม่โง่พอที่จะปฏิเสธ...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ