นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1302

สรุปบท บทที่ 1302 กลับไป,ทหารม้าทมิฬดำเนินการได้: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอน บทที่ 1302 กลับไป,ทหารม้าทมิฬดำเนินการได้ จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1302 กลับไป,ทหารม้าทมิฬดำเนินการได้ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หนทางที่ต้องไปมีหลานจิ่วชิงคุ้มครอง เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป และยิ่งไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเจอหนานหลิงจิ่นฝานและคนของศาลาเสวียนชิงระหว่างทาง

เฟิ่งชิงเฉินทำความสะอาดเนื้อตัว และโดยเฉพาะใบหน้าของเธอ เฟิ่งชิงเฉินดูแลมันเป็นอย่างดี ก่อนหน้านั้นเธอบุ่มบ่ามเกินไป ทำให้ใบหน้าของเธอมีตุ่มหนองสีแดงเล็กๆ มากมายบนใบหน้า เธอกลัวว่าจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนใบหน้าของเธอ

หลานจิ่วชิงรู้สึกไม่คุ้นชินกับสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินเป็นเช่นนี้ วันหนึ่งเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า : "เจ้าจะกังวลไปทำไม แม่ว่าเจ้าจะน่าเกลียด เสด็จอาเก้าก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจไปหรอก"

จริงๆ แล้วเฟิ่งชิงเฉินไม่จำเป็นต้องไปจริงจังอะไรมากมายกับใบหน้าของเธอนัก ทั้งวันเธอเอาแต่ลูบคลำและถูใบหน้าของเธอ เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้สึกเหนื่อย แต่เขากลับรู้สึกเหนื่อยแทน

เขาเคยเห็นเฟิ่งชิงเฉินตอนที่น่าเกลียดและน่าสมเพชที่สุดมาแล้ว แม้ว่าเฟิงชิงเฉินจะกลายเป็นคนหน้าตาน่าเกลียด เขาก็ยอมรับมันไปแล้ว

“ผู้หญิงชอบแต่งตัวให้คนชอบ ข้าจะไม่ยอมเอาหน้าแบบนี้ไปพบเสด็จอาเก้าหรอก” เฟิ่งชิงเฉินถอดผ้าคลุมหน้าออก วางมันไว้ข้าง ๆ หยิบชาสมุนไพรที่อยู่ด้านข้างแล้วจิบทีล่ะน้อย ๆ

ด้วยใบหน้าที่น่าเกลียด เธอไม่รู้สึกกดดันเมื่ออยู่ต่อหน้าหลานจิ่วชิง แต่ทำไมกับเสด็จอาเก้ากลับทำไม่ได้ ผู้หญิงก็หวังที่จะแสดงมุมที่สวยที่สุดของเธอต่อหน้าผู้ชายที่เธอรักเสมอ

"เห้อ..." หลานจิ่วชิง หันหลังกลับอย่างเงียบ ๆ

เขากำลังคิดว่า ถ้าวันหนึ่งเฟิ่งชิงเฉินรู้ความจริงจะเป็นอย่างไร?

เขามักรู้สึกว่าวันนั้นช่างน่ากลัวเหลือเกิน!

หลานจิ่วชิงเกรงว่าเฟิ่งชิงเฉินจะสังเกตเห็นบางอย่าง เขาจึงไม่พูดอะไรมากในระหว่างการเดินทาง เขาแค่รีบเร่งวันเร่งคืนเพื่อส่งเฟิ่งชิงเฉินไปให้เสด็จอาเก้าโดยเร็วที่สุด

อยู่กับเฟิ่งชิงเฉนในสถานะเสด็จอาเก้านั้น อย่างน้อยก็ไม่ต้องฝืนบังคับใจตัวเองขนาดนี้ อยากจะแสดงความรักความห่วงก็ไม่ต้องระมัดระวังตัว

เฟิ่งชิงเฉินก็เป็นห่วงเสด็จอาเก้ามากเช่นกัน เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้ว พูดตามหลักแล้วเสด็จอาเก้าและเหวินหยวนน่าจะเดินทางถึงเมืองจักรพรรดิแล้ว แต่เนื่องจากการหายตัวไปของเธอ เสด็จอาเก้าเลยต้องเลื่อนการเดินทางออกไป

ได้ยินจากปากของหลานจิ่วชิง เสด็จอาเก้าอ้างว่าสุขภาพของเหวินหยวนไม่ค่อยแข็ง จึงพักอยู่ใกล้เมืองหนานหลิงไม่ยอมเดินทางเสียที ทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกดีใจและละอายใจในเวลาเดียวกัน

เธอรู้ดีกว่าใครๆ ว่าการพักอยู่ใกล้เมืองหนานหลิงนั้นอันตรายแค่ไหน

จึงเร่งการเดินทางโดยไม่พักติดต่อกันเจ็ดวัน รอยแดงและบวมบนใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินก็เกือบจะหายหมดแล้ว เมืองถัดไปก็จะเป็นเมืองที่เสด็จอาเก้าพักอยู่ หลังจากที่หลานจิ่วชิงบอกตำแหน่งให้เฟิ่งชิงเฉินชัดเจนแล้ว เขาก็กล่าวลาและจากไป

“หนทางที่เหลือเจ้าต้องเดินทางดัวยตัวเอง ข้าได้แจ้งข่าวให้เสด็จอาเก้าแล้ว และจะมีคนคอยปกป้องเจ้าอยู่อย่างลับ ๆ”

เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าหลานจิ่วชิงไม่อยากให้คนอื่นรู้สถานะของเขามากนัก ดังนั้นเธอจึงไม่ฝืนใจให้หลานจิ่วชิงไปส่งเธอถึงที่นั่น เธอยิ้มและพยักหน้า: "ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่เป็นอะไร"

ในช่วงกลางคืน เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้เร่งรีบในการเดินทาง จึงหาโรงเตี๊ยมเพื่อพักผ่อนและพักฟื้น เมื่อนึกถึงว่าจะได้พบเสด็จอาเก้าในวันพรุ่งนี้แล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างมีความสุข

เดือนที่ผ่านมาทำให้เธอเหนื่อยมาก เมื่อได้กลับไปอยู่ข้างกายเสด็จอาเก้า เธอก็สบายใจแล้ว

หลานจิ่วชิงเห็นฉากนี้อย่างลับๆ และรู้สึกขมขื่นในใจ

เขาคิดว่าเขาปฏิบัติต่อเฟิ่งชิงเฉินดีกว่าเสด็จอาเก้า แต่ทำไมในใจและสายตาของเฟิ่งชิงเฉินถึงได้มีแต่เสด็จอาเก้าคนเดียวเท่านั้น และไม่มองคนอื่นเลย ?

ตัวเองอิจฉาตัวเอง ช่างเป็นการกระทำที่น่าอายจริง ๆ แต่หลานจิ่วชิงก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉาตัวเอง

หลานจิ่วชิงที่พกพาอารมณ์เสียกลับไปถึงที่พัก เมื่อนายทหารผู้ช่วยของเขาเข้ามาขอคำชี้แนะ ซึ่งประจบเหมาะกับจังหวะที่เขาอารมณ์ไม่ดี ยังไม่ทันที่นายทหารผู้ช่วยพูดจบ เขาก็จ้องมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา: " เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ยังต้องให้ข้ามาจัดการ ข้าจะเลี้ยงพวกเจ้าไว้มีประโยชน์อะไร?”

เฟิ่งชิงเฉินไม่อยากให้คนอื่นเห็นเธอเป็นตัวตลก ดังนั้นเธอจึงระงับความขมขื่นในใจและฝืนยิ้ม: "ข้ารู้แล้ว ข้าจะไปล้างหน้าก่อน ค่อยไปพบท่านอ๋อง"

“แม่นางเฟิ่ง ท่านอ๋องบอกว่าให้แม่นางไปพบท่านอ๋องทันทีที่มาถึง ” คนรับใช้ไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ และย้ำคำสั่งของเสด็จอาเก้าอีกครั้ง หากเมื่อก่อนเฟิ่งชิงเฉินจะไม่ปฎิเสธและยินยอมไปพบเสด็จอาเก้าแต่โดยดี แต่ว่าวันนี้ ...

ความเงียบสงบของที่นี่ และสิ่งที่เสด็จอาเก้าปฏิบัติต่อเธอทำให้เธอรู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก

เวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เธอไม่ได้กินและไม่ได้นอนหลับดี ๆ เลย เธอต้องกังวลตลอดทั้งวัน ถ้าเธอไม่ได้พบกับหลานจิ่วชิง เธอยังไม่รู้เลยว่าจะกลับมาถึงที่นี่ได้หรือไม่

เธอคาดหวังอย่างยิ่งที่จะได้กลับมาพบเสด็จอาเก้า คิดว่าเสด็จอาเก้าจะดีใจและตื่นเต้นแค่ไหน และคิดถึงว่าเธอจะอ้อนเสด็จอาเก้าอย่างไร และเล่าสิ่งที่พบเจอมาตลอดทั้งเดือน อยากให้เสด็จอาเก้าปลอบใจเธอ

แต่นี่... ไม่มีอะไรเลย แต่การกระทำของเสด็จอาเก้านั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นตัวตลก

เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกน้อยใจอย่างยิ่ง เธอต้องทนทุกข์ทรมานมากมายกว่าจะกลับมาได้ แม้ว่าเสด็จอาเก้าจะไม่มารับเธอที่หน้าประตู แต่ก็ไม่ต้องถึงกับเย็นชาขนาดนี้ เสด็จอาเก้าเห็นเธอเป็นอะไรกันแน่?

เป็นไปได้ไหมที่เสด็จอาเก้าไม่ได้สนใจเลยว่าเธอจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร?

ดวงตาของเฟิงชิงเฉินเต็มไปด้วยน้ำตา เธอหายใจเข้า หลับตาแน่น ให้น้ำตาไหลกลับไป เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของเธอก็เย็นชา และเธอมองคนที่ขวางทางเธออย่างเย็นชา: "หลีกไป!"

“แม่นางเฟิ่ง เสด็จอา…” ชายคนนั้นขมวดคิ้ว และอ้างเสด็จอาเก้าอีกครั้ง แต่เฟิ่งชิงเฉินไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสได้พูด ยื่นเท้าเตะออกไป: "ออกไป!"

เมื่อเสด็จอาเก้ารู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินอารมณ์เสียที่หน้าประตู เขาก็เม้มปากแล้วยิ้ม: "โกรธแล้วเหรอ!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ