นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1303

สรุปบท บทที่ 1303 เสียใจ , ในเมื่อท่านใจร้ายข้าก็จะยอมแพ้: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

บทที่ 1303 เสียใจ , ในเมื่อท่านใจร้ายข้าก็จะยอมแพ้ – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1303 เสียใจ , ในเมื่อท่านใจร้ายข้าก็จะยอมแพ้ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เฟิ่งชิงเฉินเป็นผู้หญิงที่ดื้อรั้นและแข็งแกร่ง แม้นิสัยของเธอจะถูกขัดเกลาไปบ้างในช่วงหลายปีที่อยู่กับเสด็จอาเก้า แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเปลี่ยนจากผู้หญิงที่แข็งแกร่งและพึงพาตัวเองได้ ไปเป็นผู้หญิงที่ต้องพึงพาเสด็จอาเก้าเท่านั้น

เมื่อต้องเผชิญกับพฤติกรรมที่เย่อหยิ่งของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่สนใจกลับทำตรงกันข้าม ในเมื่อเสด็จอาเก้าไม่ได้สนใจการกลับมาของเธอ เธอก็จะไม่พบเสด็จอาเก้าเช่นกัน และยิ่งไม่อยากจะไประบายทุกข์ให้เขาฟังอีกด้วย

หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินไล่คนรับใช้ออกไปแล้ว เธอก็หันหลังกลับและเดินออกไป ระหว่างทางเธอพบสาวใช้คนหนึ่งและขอให้เธอพาไปด้านหลังบ้าน เธอต้องการอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า

“เชิญแม่นาง” ใครก็ตามที่ทำงานอยู่ใต้บังคับบัญชาของเสด็จอาเก้านั้นไม่ใช่คนโง่อย่างแน่นอน เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินอารมณ์ไม่ดี สาวใช้ก็ไม่กล้าจะขัดใจเธอ ก้มหน้าก้มตานำทางเฟิ่งชิงเฉินไป

ระหว่างทางได้พบกับจั่นเหยียนที่ได้รับข่าว จั่นเหยียนที่รีบร้อนมาหาเธอ เมื่อจั่นเหยียนเห็นเฟิ่งชิงเฉินนั้นปลอดภัยไม่เป็นอะไร เธอทั้งร้องไห้และหัวเราะ แล้วเริ่มพรรณนาว่าช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านนั้นเธอเป็นห่วงและกลัวแค่ไหน

ต้องนี่สิถึงจะเป็นปฏิกิริยาของคนปกติ

ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินดูซีดเซียวเล็กน้อย เธอทักทายจั่นเหยียนสองสามคำ โดยบอกเธอว่าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเธอ จากนั้นก็บอกว่าเธอเหนื่อยล้ามากอยากจะไปอาบน้ำ

“งั้นเจ้าก็รีบไปเร็ว ๆ เถอะ ข้าจะมาหาเจ้าอีกครั้งหลังจากที่เจ้าพักผ่อนแล้ว พวกเราเป็นห่วงเจ้ามากในช่วงที่ผ่านมา ถ้าหากเจ้าเป็นอะไรไป ข้าจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย ” ในเวลานั้นเฟิ่งชิงเฉินเธอเป็นคนหลอกล่อพวกโจรออกไป พวกเธอถึงมีโอกาสหนีรอดมาได้ ในเวลานี้จั่นเหยียนรู้สึกนับถือและละอายใจต่อเฟิ่งชิงเฉิน

พวกเขาทุกคนต่างรู้ดีว่า ผู้หญิงตัวคนเดียวเมื่อตกอยู่ในกำมือของพวกโจรแล้วจะมีสภาพเลวร้ายกว่าตายเสียอีก ถ้าเปลี่ยนเป็นเธอ เธอคงทำไม่ได้เช่นนี้แน่

“คนชั่วอายุยืนเป็นพันๆปี ข้าไม่ตายง่าย ๆ หรอก” เฟิ่งชิงเฉินพูดหยอกตัวเอง

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ถือว่าเธอโชคดีจริงๆ ขนาดตกอยู่ในมือของหนานหลิงจิ่นฝานเธอยังสามารถรอดมาได้ นี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย

“เจ้าพูดจาไร้สาระ จะมีอันตรายกับเจ้าได้อย่างไร เอาล่ะ ข้าไม่พูดกับเจ้าแล้ว เจ้ารีบไปอาบน้ำเถอะ เสด็จอาเก้าจะต้องมีเรื่องคุยกับเจ้ามากมายแน่ ๆ ” จั่นเหยียนกระพริบตาหยอกล้อเฟิ่งชิงเฉิน

“อื้ม” เฟิ่งชิงเฉินแสดงรอยยิ้มที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่เข้าใจ

เสด็จอาเก้าจะมีคำพูดคุยกับเธอหรือไม่นั้นเธอไม่รู้ เธอรู้แค่ว่าเสด็จอาเก้ากำลังวางท่าเย่อหยิ่งรอให้เธอไปสารภาพผิดอยู่

และเธอไม่คิดว่าเธอไม่ได้ทำผิดอะไร เพราะฉะนั้น...เธอไม่มีวันก้มหัวให้เขาแน่นอน

แม้ว่าเสด็จอาเก้าจะแสดงอาการเฉยเมยต่อการกลับมาของเฟิ่งชิงเฉิน แต่คนรับใช้ก็ไม่กล้าที่จะเมินเฉยเฟิ่งชิงเฉินได้ พอได้ยินเฟิ่งชิงเฉินบอกต้องการจะอาบน้ำ ก็มีคนไปเอาน้ำร้อนมาให้ทันที

มองไปอ่างอาบน้ำที่ว่างเปล่า เฟิ่งชิงเฉินก็หวนคิดถึงจวนเฟิ่งอีกครั้ง หากว่าตอนนี้เธออยู่ที่จวนเฟิ่ง คนรับใช้ในจวนแทบไม่ต้องรอให้เธอบอกกล่าว ก็เตรียมน้ำร้อนไว้ให้แล้ว ไม่ว่าเธอจะอาบน้ำเมื่อไหร่ ก็จะมีน้ำร้อนๆ ไว้ให้ใช้

เธอคิดถึงบ้านมาก เธออยากกลับไป เธอเริ่มรู้สึกเสียใจ...

ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ ถ้ารู้ก่อนจะได้ไม่ออกจากเมืองหลวง แม้ว่าจะต้องเจอเด็กคนนั้นทุกวัน แม้ว่าจะไม่สบายใจ แม้ว่าตัวเองจะต้องทุกข์ทรมาน แต่ก็ยังดีกว่าอยู่ที่นี่

สิ่งที่ได้มาง่าย ๆ ก็ย่อมไม่มีคุณค่าอะไร

น้ำตาก็ไหลออกมาจากตาของเธอ เฟิ่งชิงเฉินยกมือขึ้นเพื่อเช็ดน้ำตา แต่ไม่คาดคิดว่าน้ำตายิ่งอยู่ยิ่งไหลออกมา เฟิ่งชิงเฉินจึงนั่งลงแล้วร้องไห้ออกมาอย่างอดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป

เฟิ่งชิงเฉินไม่เคยเรียนรู้วิธีการร้องไห้เสียงดัง และไม่เคยเรียนรู้วิธีร้องไห้แบบหญิงสาวสง่างาม ทุกครั้งที่เธอร้องไห้เธอดูน่าเกลียดมาก ดวงตาและจมูกของเธอจะแดงไปหมด และใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำมูกและน้ำตา ดังนั้นเธอจึงไม่ร้องไห้ให้คนอื่นเห็น เธอจะร้องไห้กับตัวเองเท่านั้น

ศีรษะของเธอซุกอยู่ระหว่างขา เฟิ่งชิงเฉินร้องไห้อย่างเงียบ ๆ ไม่มีเสียง มีเพียงไหล่ของเธอเท่านั้นที่กระตุก ทำให้รู้ว่าเธอนั้นเสียใจและเจ็บปวดแค่ไหนในเวลานี้

เธอรู้ว่าเธอชอบเป็นคนหาข้อเสียของคนอื่น และคิดลบเกินไป และตอนนี้เธอก็คิดกับเสด็จอาเก้าในแง่ลบไปแล้ว แต่เธอก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

เสด็จอาเก้ารออยู่ที่ห้องหนังสือจนทนไม่ไหว จึงให้คนรับใช้ของเขาไปเร่ง คนรับใช้กลับมารายงานว่าเฟิ่งชิงเฉินยังคงอาบน้ำอยู่

เฟิ่งชิงเฉินอยู่ที่ห้องอาบน้ำ หน่วยลับก็ไม่สามารถจับตาดูได้ เสด็จอาเก้าไม่รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินรู้สึกอย่างไรในขณะนี้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ระงับความใจร้อนของเขาและรออยู่ที่ห้องหนังสือ ...

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป สองชั่วโมงผ่านไป เสด็จอาเก้ายังปลอบใจตัวเองได้ก่อนหน้านี้ โดยเขาคิดว่าเฟิ่งชิงเฉินอยากจะแต่งตัวให้สวยก่อนค่อยมาหาเขา แต่ตอนนี้เขาไม่กล้าคิดอย่างนั้นแล้ว

สองชั่วโมง ไม่ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะอยากแต่งตัวดูดีแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานขนาดนี้

เสด็จอาเก้าส่งคนรับใช้ไปถามอีกครั้ง และข่าวที่ได้รับก็คือแม่นางเฟิ่งเหนื่อยและพักผ่อนแล้ว

“หลับแล้วเหรอ? ข้ารอเจ้านานขนาดนี้ แต่เจ้าหลับอย่างงั้นเหรอ?” เสด็จอาเก้าตะโกนด้วยความโกรธ ต้องการจะสอนบทเรียนให้เฟิ่งชิงเฉิน จึงเดินไปบ้านพักของเฟิ่งชิงเฉินด้วยความโกรธ เมื่อมาถึงบ้านพัก...

อากาศเย็นจัด ใบไม้ปลิวลงมา คนรับใช้ก็หลบเลี่ยง

เสด็จอาเก้าไม่เข้าใจว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นอะไรไป ทั้ง ๆ ที่ระหว่างทางท่าทางรีบร้อนอยากจะเจอเขา แล้วทำไมเมื่อมาถึง ทำไมไม่อยากเจอแล้วเหรอ ?

หรือสิ่งที่เขาทำมันเกินไปหรือเปล่า?

เสด็จอาเก้าไม่อยากจะยอมรับ เขารู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินรีบร้อนอยากจะพบเขามาก ดังนั้นเขาจึงจัดฉากแบบนี้เพื่อรอเฟิ่งชิงเฉิน เขาคิดว่าเฟิ่งชิงเฉินจะยอมแพ้ แต่ไม่คาดคิดว่าเรื่องจะเป็นเช่นนี้ ดูเหมือนเฟิ่งชิงเฉินเธอจะไม่พอใจ

เสด็จอาเก้ารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย จึงรีบก้าวเท้าอย่างรวดเร็ว...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ