นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1319

สรุปบท บทที่ 1319 เส้นเลือดในสมองตีบ, โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นอย่างแนบเนียน: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

บทที่ 1319 เส้นเลือดในสมองตีบ, โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นอย่างแนบเนียน – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1319 เส้นเลือดในสมองตีบ, โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นอย่างแนบเนียน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เสด็จอาเก้าโยนสิ่งของดังกล่าวออกไป จากนั้นก็รอให้ลุงจ้านอ่านมันจบอย่างอดทน เหมือนกับที่เสด็จอาเก้าคาดการณ์ไว้ ลุงจ้านไม่อาจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้......

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ นี่มันไม่ใช่ความจริง” ลุงจ้านส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลที่อยู่ในมือกระจัดกระจาย ในชั่วพริบตา ดูเหมือนเขาจะมีอายุมากขึ้นไปหลายปี จ้องมองเสด็จอาเก้าและส่ายหน้า ในใจคาดหวังประโยคจากปากของเสด็จอาเก้า รอให้เสด็จอาเก้ากล่าวออกมาว่านี่มันไม่ใช่ความจริง!

เสด็จอาเก้าเก็บสายตาของเขา กล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น “จะใช่ความจริงหรือไม่ เจ้าก็ลองไปถามแม่ของเจ้าดู ข้าไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะมาอธิบายเรื่องนี้ให้เจ้าฟัง”

พูดจบเขาก็สั่งให้คนของเขานำตัวของลุงจ้านออกไป ส่วนเรื่องข้อมูลที่อยู่ในมือ แน่นอนว่าต้องเก็บมันเอาไว้ ทั้งหมดก็เพื่อไม่ให้มันถูกแพร่งพรายออกไป หากเป็นเช่นนั้น เสด็จอาเก้าจะนำสิ่งใดมาทำให้หวังจิ่นหลิงประนีประนอม

ลุงจ้านมาที่ลานบ้านด้วยความสับสน เมื่อเข้ามาในห้องก็ได้เห็นแม่ของตนเองนั่งปาดน้ำตาอยู่ด้านใน ลุงจ้านเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกปวดใจ คุกเข่าลงกับพื้นพร้อมเอ่ยปากขึ้นมาว่า “ท่านแม่......”

“เป็นอะไรไปอย่างนั้นหรือ” แม่จ้านรีบเช็ดน้ำตา บอกให้คนรับใช้พยุงลุงใหญ่จ้านขึ้นมา แต่ลุงใหญ่จ้านก็ไม่ยอม “ท่านแม่ ข้ามีเรื่องอยากจะถามท่าน ท่านให้พวกเขาทั้งหมดออกไปได้หรือไม่”

หัวใจของแม่จ้านเต้นแรง ลางสังหรณ์อันเลวร้ายเกิดขึ้นมาในหัวใจ สั่งให้ทหารออกไปด้วยใบหน้าอันเคร่งขรึม “ลูกชายที่รักของข้า มีอะไรก็พูดออกมา โตจนจะเป็นบรรพบุรุษรุ่นถัดไปอยู่แล้ว อยู่ดี ๆ ก็คุกเข่า มันไม่เหมาะสมเอาเสียเลย”

“ท่านแม่ ลูกอาจจะเป็นลูกอกตัญญู ถามคำถามที่ไม่ควรถามออกมา” ลุงใหญ่จ้านเข้าใจดี การถามคำถามเช่นนี้กับพ่อแม่ของตนเองถือเป็นเรื่องอกตัญญู เขาจึงจำเป็นต้องคุกเข่าลงเพื่อถาม

เนื่องจากต่อให้พ่อแม่มีความผิด พวกเขาก็ยังคงเป็นพ่อแม่ของตนเองอยู่ดี

สีหน้าของแม่จ้านเปลี่ยนไป เหลือบมองลุงใหญ่จ้านอย่างผิดธรรมชาติ ถอนหายใจออกมา “น่าจะปิดบังเอาไว้ไม่ได้แล้ว เจ้าถามออกมาเถิด”

แม่จ้านถอนหายใจ ทำให้ลุงใหญ่จ้านไม่รู้ว่าควรจะถามออกมาอย่างไร แม่จ้านทนดูไปไม่ได้ จึงกล่าวออกมาว่า “เจ้าอยากถามเรื่องของหยานเอ๋อร์ใช่หรือไม่?”

“ท่านแม่ หยานเอ๋อร์นางเป็น......” ลุงใหญ่จ้านเอ่ยปากออกมา แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็พูดชื่อนั้นไม่ออก

แม่จ้านที่เพิ่งจะปาดน้ำตา น้ำตาของนางร่วงลงมาอีกครั้ง หลับตาลงและพยักหน้า “ ใช่ นางเป็นลูกสาวพ่อของเจ้า” ประโยคสุดท้ายราวกับสายฝนที่โปรยลงมาเป็นสายเลือด เห็นได้ชัดว่าเวลานี้แม่จ้านเจ็บปวดหัวใจมากเพียงใด

แม้ว่าจะรู้ความจริงอยู่แล้ว แต่เมื่อได้ยินคำยืนยันจากแม่จ้าน ร่างกายของลุงใหญ่จ้านก็แข็งทื่อ ล้มลงกับพื้นทันใด “หยานเอ๋อร์เป็นลูกของท่านพ่อกับน้องหญิงหกจริง ๆ อย่างนั้นหรือ? ไม่แปลกเลย ไม่แปลกเลยว่าเหตุใดหลายปีที่ผ่านมาน้องหญิงถึงไม่ยอมกลับบ้าน จนกระทั่งท่านพ่อจากไปนางถึงจะกลับมา ข้าสับสนเป็นอย่างมาก สับสนมากจริง ๆ เหตุใดข้าจึงไม่รู้สึกสงสัยในเรื่องนี้ หลังจากที่หยานเอ๋อร์เกิดมา น้องหกก็ไม่ไปที่เรือนหลังอีกเลย และก็ไม่ยอมเข้าใกล้หญิงสาว น้องหกเองก็ทุกข์ทรมานอย่างมากเป็นแน่!”

คนที่มีอายุสี่สิบกว่าปี แต่กลับร้องไห้ราวกับเด็ก

“เหตุใดท่านพ่อจึงทำเช่นนี้ เหตุใดเขาจึงทำเช่นนี้ หลายปีที่ผ่านมา น้องหกทำเพื่อตระกูลจ้าวมากมายเพียงใด บนโลกนี้มีผู้หญิงอยู่ตั้งมากมาย เหตุใดท่านพ่อถึง ท่านพ่อถึงได้......”

ลุงใหญ่จ้านร้องไห้ออกมาพร้อมกับสาปแช่ง ความเจ็บปวดเผยออกมาให้เห็นจากใบหน้าของแม่จ้าน เห็นลูกชายของตนเองเสียสติและไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ นางจึงจำเป็นต้องหยุดความคิดและการกระทำของเขาไว้ “เอาล่ะ เลิกพูดถึงมันได้แล้ว ท่านพ่อของเจ้าก็จากไปแล้ว พูดต่อไปก็ไม่มีประโยชน์”

“เขาตายไปแล้ว ตายไปอย่างไรความกังวล ไม่จำเป็นต้องห่วงใยสิ่งใด แต่น้องหกเล่า? เนื่องจากความผิดที่เขาทำ น้องหกจึงต้องมาจบชีวิตลงเช่นนี้ เพื่อจ้านหยานที่ไม่ใช่แม้แต่ลูกของตนเอง แต่กลับยอมสละชีวิตที่มีเพื่อปกป้อง ท่านแม่ ท่านรู้หรือไม่ ที่น้องหกต้องมาจากไปเช่นนี้ ทั้งหมดก็เพื่อปกป้องจ้านหยาน” ลุงใหญ่จ้านเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน ก้มลงไปแทบเท่าของแม่จ้าน เล่าเรื่องราวที่ตนเองได้เห็นในเอกสารของเสด็จอาเก้าออกมาอย่างละเอียด

“ที่เจ้าพูดเป็นความจริงอย่างนั้นหรือ?” มือของแม่จ้านสั่นเทาอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของนางก็กระตุกอย่างควบคุมไม่ได้ นี่เป็นสัญญาณของโรคเส้นเลือดในสมองตีบ

ลุงใหญ่จ้านไม่เห็นความผิดปกติของแม่จ้าน เขาพยักหน้าและกล่าวออกมาว่า “ท่านแม่ ลูกไม่ได้โกหกท่าน มีคนเอาเรื่องนี้มาข่มขู่น้องหก ต้องการเอาชีวิตของน้องหก น้องชายที่โง่เขลาของเขาเป็นแต่อ่านหนังสือจริง ๆ ไม่เพียงแค่เห็นวายร้ายอย่างจ้านหยานเป็นลูกสาวของตนเองเท่านั้น แต่ยังเชื่อในคำข่มขู่ของอีกฝ่าย เหตุใดเขาจึงเชื่อว่าอีกฝ่ายจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตนเอง เมื่อเขาตายไปแล้ว พวกเราจะทำอย่างไร? คนที่สมควรตายควรจะเป็นผู้ยิ่งสารเลวอย่างจ้านหยานมากกว่า น้องหกช่างโง่เขลายิ่งนัก......”

“ลูกชายของข้า ลูกชายของข้า......” แม่จ้านตื่นเต้นมากเกินไป ร่างกายของนางสั่นเทา ไม่ทันไรก็หมดสติไป

“ท่านแม่ ท่านแม่......เข้ามา รีบเข้ามาช่วยท่านแม่ของข้า” ลุงใหญ่จ้านตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก รีบลุกขึ้นยืนในทันใด แต่เนื่องจากเขาคุกเข่ามาเป็นเวลานาน ทำให้ขาของเขารู้สึกชา ประกอบกับน้ำหนักตัวแม่ของเขาที่ไม่ธรรมดา สองแม่ลูกจึงล้มลงกับพื้น

หวังจิ่นหลิงเห็นลุงใหญ่จ้านเดินออกมาจากห้องด้วยอารมณ์ที่รุนแรง เขาขมวดคิ้ว เบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังออกมาขวางทางเดินของลุงใหญ่จ้านเอาไว้พร้อมกับเอ่ยปากขึ้นมาว่า “ท่านจ้าน”

“หลบไป” อารมณ์ของลุงใหญ่จ้านกำลังเดือดพล่าน เมื่อเห็นว่ามีคนเข้ามาขวางก็ยกเท้าขึ้นและถีบออกไปทันใด แต่โชคดีที่องครักษ์ของหวังจิ่นหลิงได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ประกอบกับลุงใหญ่จ้านเป็นเพียงแค่บัณฑิตคนหนึ่ง เรี่ยวแรงของเขามีจำกัด

“ท่านลุง” หวังจิ่นหลิงก้าวไปข้างหน้าในเวลาที่เหมาะสม เมื่อลุงจ้านได้เห็นใบหน้าอันอ่อนโยนของหวังจิ่นหลิง ความโกรธของเขาก็คลายลงครึ่งหนึ่ง “จิ่นหลิง เป็นเจ้า มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?”

“จิ่นหลิงเรียนท่านว่าท่านลุง และขอให้ท่านลุงได้รับฟังแนะนำจากจิ่นหลิง” หวังจิ่นหลิงกล่าวออกไปตามตรง สีหน้าของลุงใหญ่จ้านเปลี่ยนไปทันใด ถามออกมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “เจ้าเองก็รู้เรื่องอย่างนั้นหรือ?”

นี่เป็นเรื่องอื้อฉาวของครอบครัว ลุงใหญ่จ้านไม่อยากให้คนนอกได้รับรู้ แม้ว่าจะเป็นศิษย์ที่น้องชายของเขาภาคภูมิใจก็ตาม

“ท่านอาจารย์ปฏิบัติต่อข้าราวกับลูกชาย ท่านลุงได้โปรดวางใจ จิ่นหลิงรู้ว่าสิ่งใดควรรับฟัง สิ่งใดไม่ควรรับฟัง” แม้ว่าหวังจิ่นหลิงจะรับรู้อย่างชัดเจน แต่ก็แสดงออกมาราวกับว่าตนเองไม่รู้ จึงทำให้เขาอยู่ในสถานะที่เหมือนกับคนที่ไม่รู้เรื่องราว

“จิ่นหลิง เอาละ เจ้าเป็นเด็กดี เจ้าคนเด็กดี น้องหกของข้ามองคนไม่ผิดจริง ๆ” ลุงใหญ่จ้านตบไหล่ของหวังจิ่นหลิง และสำลักด้วยเสียงสะอื้น ราวกับว่าเขาพบทางออกแล้ว

ตอนแรกลุงใหญ่จ้านแทบจะแบกรับความลับอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้เอาไว้ไม่ไหว แต่เวลานี้เมื่อได้อยู่ร่วมกับหวังจิ่นหลิง ลุงใหญ่จ้านก็รู้สึกว่าทุกอย่างไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิด อย่างน้อยชื่อเสียงของตระกูลจ้านก็ยังไม่ถูกทำลาย

“ท่านลุง ตรงนี้มีคนผ่านเข้าออกจำนวนมาก พวกเราเข้าไปคุยกันด้านในเถิด” หวังจิ่นหลิงยิ้มอย่างมั่นใจ แต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่เข้าใจว่ารอยยิ้มของเขาในครั้งนี้มันซ่อนความเจ็บปวดไว้มากแค่ไหน

อาจารย์ใช้ความตายของตนเองในการปกปิดความลับ แต่สุดท้ายความลับก็ยังถูกเปิดเผยออกมา แม้ว่าจะไม่คนรู้เพียงไม่กี่คน แต่นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่อาจารย์อยากให้เป็น...... 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ