นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1321

“คุณชายใหญ่ คุณหนูของเราขอเชิญท่านไปพบเจ้าค่ะ”

หากเป็นเวลาปกติ หวังจิ่นหลิงคงจะปฏิเสธคำเชิญดังกล่าวอย่างสุภาพ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายต้องเสียหน้ามากเกินไป แต่ว่าในเวลานี้...

หวังจิ่นหลิงไม่สนใจคนของจั่นเหล่าฮูหยิน เมื่อเขาได้ยินคำพูดของคนรับใช้ หวังจิ่นหลิงก็ไม่ไว้หน้าและพูดตรงๆว่า: "คุณหนูของเจ้าคือใคร"

นี่เป็นการปฏิเสธทางอ้อม แต่คนรับใช้กลับไม่เข้าใจ นึกว่าคุณชายใหญ่จำเธอไม่ได้ จึงตอบกลับด้วยเสียงนุ่มนวลว่า : "คุณชายใหญ่ ข้าน้อยเป็นสาวรับใช้คนสนิทของคุณหนูจั่นเจ้าค่ะ"

หลังจากพูดจบ ยังไม่ลืมแอบมองหวังจิ่นหลิงแวบหนึ่ง ด้วยใบหน้าเคารพ แววตาของหวังจิ่นหลิงฉายแววเย็นชา แล้วหัวเราะ "สาวใช้คนสนิทคุณหนูตระกูลจั่นงั้นหรือ? เจ้าช่างกล้ามาก กล้าดียังไงมาหลอกว่าเป็นคำเชิญของคุณหนูบ้านเจ้า คุณหนูของเจ้าเป็นบุตรสาวของครอบครัวที่มั่งมี เป็นคนมีการศึกษาถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างดี ทำไมเธอถึงได้เชิญผู้ชายไปพบเธอในช่วงที่กำลังไว้ทุกข์ให้พ่อของเธอ หรือเจ้าได้รับการจ้างวานเพื่อมาทำลายชื่อเสียงคุณหนูของเจ้า”

“ไม่ ไม่ใช่เจ้าค่ะ ข้าน้อย...”

คนรับใช้สีหน้ารีบร้อนต้องการจะอธิบาย แต่หวังจิ่นหลิงขัดจังหวะเธอ: "เอาล่ะ ข้าจะเห็นแก่เจ้าที่เป็นคนของตระกูลจั่น ครั้งนี้ข้าจะไม่ถือสา ถ้าหากมีครั้งหน้า ข้าจะพาเจ้าไปอยู่ต่อหน้าจั่นฮูหยิน ข้าอยากจะดูว่าคนตระกูลจั่นอบรมสั่งสอนบ่าวไพร่อย่างไร ”

แม้ว่าจะเป็นคนรับใช้ หวั่งจิ่นหลิงก็สุภาพอ่อนโยนและนอบน้อมเสมอ ไม่เคยพูดจารุนแรงเช่นนี้มาก่อน สีหน้าของคนรับใช้เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ รู้สึกตัวเองต้องขายขี้หน้าต่อหน้าคุณชายใหญ่ จึงคุกเข่าลงกับพื้นด้วยแล้วอ้อนวอนไม่หยุด

หวังจิ่นหลิงไม่อยากสนใจ เดินไปรอบๆ แล้วจากไป คนรับใช้คนนั้นคุกเข่าอยู่กับพื้นอยู่นาน ร้องไห้จนตาบวมไปหมด เธอรีบเช็ดน้ำตาด้วยความโกรธแล้วกลับไปที่ห้องพักของจั่นหยวน

สาวใช้รู้สึกว่า จั่นเหยียนต้องเสียหน้าเพราะหวังจิ่นหลิง ในใจรู้สึกโกรธแค้น จึงรายงานสิ่งที่หวังจิ่นหลิงพูดทุกคำให้เธอฟัง จั่นเหยียนที่ฟังอยู่ถึงกับฟุบลงบนเตียงแล้วร้องไห้อย่างเจ็บปวด

เธอไปหาหวังจิ่นหลิงนั้นไม่ได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่น เรื่องที่เกิดขึ้นกับจั่นเหล่าฮูหยินในช่วงกลางวันนั้น เธอรู้ดี แต่เธอไม่รู้รายละเอียดมากนัก ตอนนี้เธอไม่มีพ่อค่อยปกป้องแล้ว เธอจึงเป็นกังวลว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ที่เชิญหวังจิ่นหลิงมาพบก็เพื่อจะสอบถามถึงเรื่องนี้ แต่นึกไม่ถึงว่าจะทำให้หวังจิ่นหลิงเข้าใจผิด

หวังจิ่นหลิงไม่สนใจว่าจั่นเหยียนจะเสียใจแค่ไหน ตัวเขาเองก็รู้สึกไม่สบายใจ ภายใต้แสงจันทร์เขาอยู่ในสวนเดินไปเดินมาหลายรอบ ยิ่งเดินยิ่งรู้สึกกลัดกลุ้ม เขาคิดที่จะไปหาเฟิ่งชิงเฉิน แต่เมื่อเขาเห็นท้องฟ้ามืดแล้ว และนึกถึงสิ่งที่เขาได้บอกกับคนรับใช้ไปเมื่อสักครู่ เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกลับไปที่ห้องพักของเขา

หวังจิ่นหลิงพลิกตัวไปมา ลืมตาตลอดทำยังไงก็ไม่สามารถนอนหลับได้ ส่วนเสด็จอาเก้าก็ไม่ได้หลับทั้งคืนเช่นกัน เขายุ่งอยู่ที่ห้องหนังสือทั้งคืนยันเช้า

กว่าเสด็จอาเก้าจะจัดการกับสิ่งต่างๆได้เรียบร้อยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาอยากทานอาหารเช้ากับเฟิ่งชิงเฉิน และอยากจะขอโทษเธอด้วย หน่วยลับก็เข้ามารายงาน: "ท่านอ๋อง ก่อนวันหนึ่งที่จะเข้าไปเมืองตงหลิง องค์หญิงหมิงเว่ยได้พบกับอาจารย์เหวินหยวน และได้มอบจดหมายให้อาจารย์เหวินหยวนไว้ฉบับหนึ่ง เนื้อหาในจดหมายนั้นไม่มีใครรู้ และจดหมายฉบับนั้นก็หายสาปสูยไปแล้ว"

“เหรอ แล้วสาวใช้ข้างกายขององค์หญิงหมิงเว่ยล่ะ ?” เสด็จอาเก้ารู้ว่าอาหารเช้าไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้ว ก็นั่งลงบนเก้า อี้เอามือมานวดหวางคิ้ว แล้วซักถามต่อ

“องค์หญิงหมิงเว่ยข้างขายมีสาวใช้คนหนึ่งชื่อโม่เซิน ข้าน้อยไปสืบหลายครั้ง ปรากฏว่านางมีวรยุทธ โดยปกตินางจะแอบซ่อนเอาไว้ มองภายนอกเหมือนคนธรรมดาทั่วไป”

“แล้วช่วงนี้นางมีความเคลื่อนไหวอะไรไหม ?” แม้ว่าหวังจิ่นหลิงจะไม่ค่อยชอบเธอ แต่เสด็จอาเก้าก็เข้าใจว่า หวังจิ่นหลิงจะไม่ใส่ร้ายใครโดยไม่เป็นธรรมหรือไร้เหตุผลได้

“ช่วงนี้นางดูสงบนิ่งมาก แต่ว่า ในช่วงเวลาที่ท่านอ๋องออกไปตามหาเฟิ่งชิงเฉินนั้น สายใช้ที่ชื่อโม่เซินได้ออกไปข้างนอก ซื้อของกระจุกกระจิก ”

เป็นถึงสาวใช้ขององค์หญิง ย่อมไม่มีความจำเป็นจะต้องไปซื้อของด้วยตัวเอง เมื่อมองแวบก็รู้ว่าการเคลื่อนไหวนี้มันดูแปลก ๆ แต่เวลานั้นพวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เพราะสาวใช้ที่ออกไปข้างนอกไม่ได้มีเพียงแค่นางคนเดียว

"จับตาดูเธอไว้" เสด็จอาเก้ายังไม่ต้องการแวกหญ้าให้งูตื่น เป็นเพียงแค่บทบาทเล็ก ๆ ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา

"ขอรับ" หน่วยลับพยักหน้ารับคำสั่ง แล้วเปลี่ยนพูดอีกเรื่องหนึ่ง: "ท่านอ๋อง เราพบเห็นร่องรอยของทหารองครักษ์ส่วนตัว ห่างออกไปหนึ่งร้อยไมล์จากด่านชายแดน"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ