นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1323

เสด็จอาเก้าตัดสินใจนัดพบเฟิ่งชิงเฉินที่ห้องหนังสือ เหตุผลหนึ่งคือ เขายุ่งจนไม่มีเพลาไปที่อื่น สองคือ เพราะว่าห้องหนังสือเป็นสถานที่ที่ดี หลายครั้งที่พวกเขาไม่พอใจกันล้วนถูกแก้ที่ห้องหนังสือทั้งนั้น

เฟิ่งชิงเฉินมาถึง เสด็จอาเก้ายังคงยุ่งอยู่ เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินแล้วจึงแค่เงยหน้าขึ้นเอ่ยไปคำเดียวว่า “นั่งสิ” จากนั้นก็ก้มกลับไปยุ่งกับงานในมือต่อ เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่ได้ว่าอันใด แล้วหาที่นั่งๆ ลงพร้อมเทน้ำให้กับตนเองแก้วหนึ่ง

น้ำยังอุ่นอยู่เล็กน้อย ดูท่าแล้วเสด็จอาเก้าคงจะสั่งให้คนเตรียมเอาไว้โดยเฉพาะ

โชคดีที่เสด็จอาเก้ารู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินมา จึงรีบจัดการธุระในมือให้เสร็จสรรพพร้อมวางพู่กันลง “ชิงเฉิน ช่วงนี้เปิ่นหวังค่อนข้างยุ่ง ปล่อยให้เจ้ารอนานแล้ว”

“ไม่เป็นไรเพคะ ท่านอ๋องมีงานท่วมตัว ชิงเฉินรอหน่อยเป็นเรื่องที่ควรแล้วเพคะ” เฟิ่งชิงเฉินยังโกรธอยู่

ไม่ใช่นางมาหาเสด็จอาเก้า แต่เป็นเสด็จอาเก้าที่อยากพบนาง ทว่าสุดท้ายตนกลับไม่คำนวณเพลาดีๆ ปล่อยให้นางต้องรออยู่ที่นี่ นี่เขากำลังแสดงอำนาจให้นางดูหรืออย่างไร

“เปิ่นหวังยุ่งมากจริงๆ” เมื่อสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจของเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้าจึงถอนหายใจไปเฮือกหนึ่งแล้วกำชับอีกครั้ง

เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าอย่างจริงจัง “หม่อมฉันทราบเพคะ แล้วตอนนี้ท่านอ๋องเสร็จงานหรือยัง หากยังไม่เสร็จ หม่อมฉันยังรอได้เพคะ” ดูสิ นางให้ความร่วมมือมากเพียงใด

“ที่เหลือไม่สำคัญนัก ชิงเฉิน เจ้ารอเปิ่นหวังประเดี๋ยวเดียว เปิ่นหวังจะนำเอกสารเหล่านี้ออกไป” เสด็จอาเก้าไม่อยากให้ผู้อื่นเข้ามาจริงๆ จึงนำเอกสารที่ตนตรวจเสร็จแล้วออกไปไว้ข้างนอก แล้วให้สายลับนำไปส่ง

สายลับตกใจสะดุ้ง ทว่าก็ดีใจที่ตนไม่ได้แอบฟังอยู่นอกประตูเหมือนสายลับรุ่นก่อน เขารับเอกสารมาแล้วรีบวิ่งออกไปทันที

เสด็จอาเก้ากลับเข้ามาในห้องหนังสือ เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินยังคงมีท่าทีเย็นชา ไม่สบอารมณ์เช่นเคย จึงได้ปริปากเอ่ยขึ้นก่อนว่า “ชิงเฉิน เรามาพูดคุยกันดีๆ เถิด”

“ท่านอ๋องอยากพูดอะไรเพคะ” เฟิ่งชิงเฉินฉีกยิ้มบนใบหน้า ให้ความร่วมมือเป็นที่สุด

“พูดเรื่องอุบัติเหตุไม่คาดฝันวันนั้น มือเจ้าหายดีหรือยัง” เสด็จอาเก้าไม่หลบหลีกอีกต่อไป เพราะเขารู้ดีว่าเฟิ่งชิงเฉินคิดมากกับเรื่องนี้มาก ความจริงแล้ว เขาเองก็คิดมากเช่นกัน

“ดีขึ้นมากแล้ว ในเมื่อท่านอ๋องบอกว่าเป็นอุบัติเหตุไม่คาดฝัน เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรต้องคุยอีก เพียงแค่อุบัติเหตุ หม่อมฉันไม่เอามาใส่ใจหรอกเพคะ” หากวันไหนนางใช้ปืนยิงถูกเสด็จอาเก้าอย่างไม่คาดฝันเข้า แล้วแบบนี้จะเรียกว่าอุบัติเหตุไม่คาดฝันได้หรือไม่

“ชิงเฉิน เจ้ารู้ทั้งรู้ว่าเปิ่นหวังไม่ได้หมายความเช่นนั้น” เสด็จอาเก้าเองก็เริ่มโมโห เฟิ่งชิงเฉินใจเย็นเกินไป ใจเย็นจนเขาโมโห

สตรีโมโหหงุดหงิดควรจะร้องไห้ตะโกนโหวกเหวกมิใช่หรือ เหตุใดเฟิ่งชิงเฉินถึงไม่มีท่าทีใดๆ เลยล่ะ

“ไหน ข้าลองตรวจร่างกายของท่านดูซิ” ในเมื่อเสด็จอาเก้ายอมอ่อนข้อให้ เช่นนั้นเฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่เกรงใจ

นางเป็นห่วงว่าร่างกายของเสด็จอาเก้าจะมีปัญหาจริงๆ

ถึงแม้เสด็จอาเก้าจะขัดขืนอยู่บ้าง แต่ทว่าสุดท้ายก็ยอมปริปาก “ก็ได้ ไปห้องข้างใน”

ห้องหนังสือแห่งนี้กว้างมาก ข้างในมีห้องนั่งเล่นเล็กๆ ห้องหนึ่ง ในห้องนั่งเล่นมีเก้าอี้เตี้ยที่พอสำหรับสองคนอยู่หนึ่งตัว ปกติแล้วน้อยมากที่เสด็จอาเก้าจะเข้ามาใช้ห้องนี้

เมื่อมาถึงห้องข้างใน ทั้งสองพลันนั่งลง เสด็จอาเก้ายื่นมือออกไป เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่ปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย จากนั้นนางพลันเปิดกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะออกมาแล้วทำการตรวจให้กับเสด็จอาเก้า ในขณะเดียวกันก็หยิบเครื่องมือออกมาจากข้างในชุดหนึ่ง เตรียมเจาะเลือดเพื่อตรวจสอบให้กับเสด็จอาเก้า

เสด็จอาเก้ารู้มาโดยตลอดว่าสิ่งของในมือของเฟิ่งชิงเฉินนั้นอัศจรรย์มาก ทว่าเมื่อได้เห็นเฟิ่งชิงเฉินใช้เครื่องมือแพทย์อัจฉริยะอย่างใกล้ชิดทีไร เสด็จอาเก้าก็อดตะลึงไม่ได้ทุกที

สิ่งของในมือเฟิ่งชิงเฉินเหลือเชื่อมากจริงๆ

“ชิงเฉิน อย่าให้คนอื่นเห็นเป็นอันขาดล่ะ” เสด็จอาเก้าอดไม่ได้กำชับนางทีหนึ่ง

หากคนอื่นรู้ความลับในตัวเฟิ่งชิงเฉินเข้าล่ะก็ เช่นนั้นเฟิ่งชิงเฉินคงจะตายไม่ได้เลย

“หม่อมฉันจะระวัง” เฟิ่งชิงเฉินเงยหน้าขึ้นสบเข้ากับดวงตาของเสด็จอาเก้าพอดี ดวงตาทั้งสองคู่สบเข้าด้วยกัน เมื่อมองเห็นความเป็นห่วงและเอ็นดูจากดวงตาของเสด็จอาเก้า นางจึงไม่ละสายตาอีกต่อไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ