หลังจากทหารของลั่วอ๋องถูกขับไล่ออกไปจากเมือง พวกเขาก็ไม่ได้รีบออกเดินทางในทันที แต่ทำการพักผ่อนอยู่ที่หน้าประตูเมือง เสด็จอาเก้าก็ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับพวกเขาอีกต่อไป ปล่อยให้พวกเขาเดินทางเข้ามาจัดซื้อเสบียงที่ต้องใช้ระหว่างทางตามที่พวกเขาต้องการ
“ท่านอ๋องเมตตาพวกเขามากเกินไป” มู่เหลียวกล่าวออกมาเป็นการส่วนตัว และเหล่าองครักษ์ของเสด็จอาเก้าเองก็เห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์ หวังจิ่นหลิงที่บังเอิญออกมาได้ยินคำพูดนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าตนเองควรหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี
ทหารของลั่วอ๋องเข้ามาพักผ่อนในโรงเตี๊ยม การเข้าไปในเมืองเพื่อกักเก็บเสบียงก็เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว การที่เสด็จอาเก้าขับไล่พวกเขาออกไป เท่านี้ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ไร้ซึ่งความปรานีมากเกินพอ เวลานี้อีกฝ่ายแอบเข้ามาในเมืองเพื่อรวบรวมเสบียงสำหรับการเดินทาง แต่กลับบอกว่าเสด็จอาเก้าเป็นคนมีเมตตา
หากเสด็จอาเก้าเป็นคนมีเมตตาจริง ๆ เช่นนั้นก็คงไม่ขับไล่อีกฝ่ายออกไปเช่นนี้
“ตรรกะของโจร คนธรรมดาทั่วไปไม่อาจเข้าใจได้” หวังจิ่นหลิงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ หลังจากนี้จะต้องอยู่ห่างจากองครักษ์ของเสด็จอาเก้าไว้ให้มาก คนกลุ่มนี้มักจะใช้กำลัง ไม่ใช่เหตุผล
คนของลั่วอ๋องคงจะถูกรังแกจนทำให้หวาดกลัวเป็นอย่างมากจริง ๆ พวกเขาพักผ่อนอยู่นอกเมืองเป็นเวลาสองวันถึงจะเริ่มออกเดินทาง และเป็นวันเดียวกับที่ตระกูลจ้านออกเดินทาง ว่ากันว่าองค์หญิงหมิงเว่ยลงมาจากรถม้าระหว่างทาง คุกเข่าเพื่อทำความเคารพในทิศทางที่ตระกูลจ้านจากไป
ทหารของลั่วอ๋องต่างยกย่องในความชอบธรรมอันยิ่งใหญ่ขององค์หญิงหมิงเว่ย แต่หวังจิ่นหลิงกลับกล่าวออกมาด้วยใบหน้าแห่งความเย้ยหยัน “ช่างเป็นผู้หญิงที่หน้าซื่อใจคดอย่างยิ่ง” คนตายไปแล้ว ต่อให้คุกเข่าไปตลอดชีวิตก็ไม่อาจทำให้อีกฝ่ายฟื้นคืนกลับมาได้
“อย่าได้โกรธไปเลย อย่าปล่อยให้เรื่องที่ไม่สำคัญ มาทำลายชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของคุณชายใหญ่” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวปลอบใจออกมา
“ข้าไม่ได้โกรธ ข้าแค่รู้สึกว่าสิ่งที่ท่านอาจารย์ทำลงไปนั้นไม่คุ้มค่า ตอนนั้นหากท่านอาจารย์ไม่เห็นว่านางน่าสงสาร และรับนางมาเป็นศิษย์นอกสาย ชีวิตนี้นางก็คงอยู่ได้แต่ในเรือนหลังของพระราชวัง ใช้ชีวิตอย่างหดหู่ ทำได้เพียงยอมจำนน และกลายเป็นหมากให้หนานหลิงจิ่นฝานใช้งาน และไม่ได้รับความเคารพเฉกเช่นทุกวันนี้ แต่เหตุใดนางถึงตอบแทนกับท่านอาจารย์ด้วยการกระทำเช่นนี้? นางยอมเหยียบย้ำศพของอาจารย์ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ” หวังจิ่นหลิงจ้องมองดูโลงศพที่กำลังจะจากไปพร้อมกับสีหน้าอันเศร้าโศก
เนื่องจากผลประโยชน์ที่เห็นแก่ตัวของหนานหลิงจิ่นฝานและองค์หญิงหมิงเว่ยที่เป็นพี่ชายและน้องสาว ต้องการเอาชีวิตของท่านอาจารย์ และทำลายชีวิตของหยานเอ๋อร์
“ชีวิตขององค์หญิงหมิงเว่ยไม่มีทางเป็นไปได้สวยเป็นแน่ ฮองเฮาและลั่วอ๋องไม่มีทางต้อนรับนางอย่างเป็นมิตร และหนานหลิงจิ่นสิงเองก็ไม่มีทางปล่อยนางไปเป็นแน่” เฟิ่งชิงเฉินพูดออกมาได้เพียงเท่านี้
ผู้อาวุโสเหวินหยวนจากไปแล้ว ต่อให้สังหารองค์หญิงหมิงเว่ยในตอนนี้ มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงในข้อนี้ได้
หลังจากคนของตระกูลจ้านและจ้านหยานจากไปได้สองวัน เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินก็เตรียมตัวเดินทางกลับไปยังตงหลิง ส่วนหวังจิ่นหลิงต้องรอเพื่อนร่วมชั้นของเขาอยู่ที่นี่อีกสองวัน เพื่อเดินทางไปงานศพของผู้อาวุโสเหวินหยวนด้วยกันที่ดินแดนหนานหลิง
“เรื่องที่เหลือก็ขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้า ในตอนที่ข้ากลับไป ข้าไม่อยากให้สิ่งที่รอต้อนรับข้าอยู่นั้นเป็นเหล่าคำสาปแช่งจากเหล่าบัณฑิต” ก่อนที่เสด็จอาเก้าจะจากไป เขาได้พูดออกมาอย่างคลุมเครืออีกครั้ง และต้องการให้หวังจิ่นหลิงจัดการเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังการตายของผู้อาวุโสเหวินหยวน
“เจ้าวางใจ เมื่อเรื่องราวทั้งหมดสิ้นสุดลง ข้าจะให้ม้าเร็วส่งข่าวกลับไปยังตงหลิงทันที” แม้ว่าหวังจิ่นหลิงจะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ไม่มีทางผิดคำมั่นสัญญาที่ตนเองเคยให้ไว้ และทำทุกอย่างตามคำสัญญาของตัวเอง
เสด็จอาเก้าพยักหน้า “ข้าเชื่อในตัวเจ้า”
เจ้ามีสิทธิ์ที่จะไม่เชื่ออย่างนั้นหรือ?
หวังจิ่นหลิงขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ตอบโต้กลับไปแต่อย่างใด
เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่ด้านข้าง มองเห็นการปะทะกันของดวงตาทั้งสองคน เมื่อเห็นว่าไม่มีใครยอมใคร นางทำได้เพียงถอนหายใจและเข้าไปขัดจังหวะ “พวกเจ้าทั้งสองผูกพันกันมาก หากไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เช่นนั้นพวกเราค่อยออกเดินทางพรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย”
“ใครกันที่ไม่อยากแยกจากเขา”
“ใครกันที่ไม่อยากแยกจากเขา”
เสด็จอาเก้าและหวังจิ่นหลิงพูดออกมาในเวลาเดียวกัน จากนั้นก็ก้าวถอยหลังไปพร้อมกัน เมื่อพบว่าการกระทำของอีกฝ่ายนั้นเหมือนกับตนเองทุกประการ ทั้งสองคนก็ทำในสิ่งที่เหมือนกันออกมาอีกครั้ง จ้องเขม็งไปที่อีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ
ทันทีที่สายตาทั้งสองคู่ปะทะกัน ทั้งสองก็เบือนหน้าไปทางอื่น การเคลื่อนไหวที่คล้ายคลึงกันของพวกเขา ราวกับว่าถูกฝึกฝนมาหลายสิบปี และมันทำให้ดวงตาของเฟิ่งชิงเฉินเบิกกว้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...