นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1329

เสด็จอาเก้าค่อย ๆ ลดความเร็วในการเดินทาง ทั้งหมดไม่ใช่เพราะต้องการรักษาอาการบาดเจ็บของโต้วโต้วอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นเพราะยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับข่าวการตายของผู้อาวุโสเหวินหยวน

เมื่อยังไม่สามารถตามหา “ฆาตกรที่แท้จริง” ที่ลงมือสังหารผู้อาวุโสเหวินหยวน เสด็จอาเก้าไม่มีทางกลับไปยังเมืองจักรพรรดิเพื่อเปิดช่องโหว่ให้กับจักรพรรดิ

คนของลั่วอ๋องและองค์หญิงหมิงเว่ย เมื่อรู้ว่าเสด็จอาเก้าเองก็กำลังจะเดินทางกลับไปยังเมืองหลวงเช่นกัน พวกเขาตั้งหน้าตั้งตารอเสด็จอาเก้าด้วยความดีใจ แต่รออยู่หลายวันก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเสด็จอาเก้า เมื่อลองส่งคนไปตรวจสอบดู พวกเขาก็พบว่าเสด็จอาเก้านั้นไม่ได้เดินทางขึ้นเหนือ แต่เดินทางลงใต้

ทหารของลั่วอ๋องตกใจ ไม่อยากกล้าเชื่อว่าเสด็จอาเก้าจะเดินทางไปยังเจียงหนานด้วยประสงค์ของตนเอง ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีคำสั่งของจักรพรรดิ เดินทางไปยังเจียงหนานซึ่งเป็นดินแดนศักดินา การกระทำเช่นนี้......มันรุนแรงเป็นอย่างมาก และมันก็ไม่ต่างอะไรกับการทรยศ

เมื่อทหารของลั่วอ๋องได้รับข่าวดังกล่าว พวกเขาก็ทำตัวเหมือนกระต่ายตื่นตูม รีบเขียนจดหมายตอบกลับไป และส่งไปยังเมืองหลวง จากนั้นก็เดินทางทั้งวันทั้งคืนเพื่อรีบกลับไปยังเมืองหลวง รอดูความสนุกที่เสด็จอาเก้าเป็นคนสร้างขึ้น

สุดท้ายการเดินทางครั้งนี้ก็ได้พบกับปัญหา องค์หญิงหมิงเว่ยที่กำลังป่วย เวลานี้อาการป่วยของนางกำเริบ

เนื่องจากการเสียชีวิตของผู้อาวุโสเหวินหยวน ทำให้องค์หญิงหมิงเว่ยรู้สึกละอายใจเป็นที่สุด นอกจากนี้นางยังเดินทางทั้งวันทั้งคืน แม้ว่าจะนั่งอยู่บนรถม้าตลอดเวลา แต่องค์หญิงหมิงเว่ยก็ไม่อาจทนไหว

เมื่อป่วยก็จำเป็นต้องได้รับการรักษา ทำให้การเดินทางล่าช้า ทหารของลั่วอ๋องเริ่มร้อนใจ แต่ก็ไม่สามารถทิ้งองค์หญิงหมิงเว่ยไว้ด้านหลังได้ ทำได้เพียงถู ๆ ไถ ๆ หาข้ออ้างและพาองค์หญิงหมิงเว่ยออกเดินทางไปเช่นเดิม

องค์หญิงแห่งหนานหลิง ไม่มีที่พึ่งเมื่ออยู่ในตงหลิง ทหารเหล่านี้ก็ไม่เคยเห็นองค์หญิงหมิงเว่ยอยู่ในสายตา พวกเขาเพียงแค่ให้ความเคารพเพียงผิวเผินเท่านั้น

องค์หญิงหมิงเว่ยต้องทนกับการปรนนิบัติอย่างเย็นชา จิตใจหดหู่ รู้สึกซึมเศร้า ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ อาการป่วยก็ยิ่งกำเริบจนแทบลุกขึ้นยืนไม่ไหว

“องค์หญิงหมิงเว่ยป่วยหนัก” ในตอนที่เสด็จอาเก้าได้รับข่าว เขาก็รีบแจ้งให้เฟิ่งชิงเฉินได้รับรู้

“เป็นกลอุบายของเจ้างั้นหรือ?” นี่คือสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินตอบสนองกลับมา

เสด็จอาเก้าจ้องมองไปยังเฟิ่งชิงเฉินอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าไม่ได้หน้าด้านขนาดถึงขนาดที่ลงมือทำร้ายผู้หญิงอ่อนแอและไม่มีทางสู้”

“เช่นนั้นก็ขอแสดงความยินดีกับคำพูดของเจ้า ที่บอกว่าองค์หญิงหมิงเว่ยจะป่วยแล้วนางก็ป่วย” เฟิ่งชิงเฉินรีบเปลี่ยนคำพูดอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถามออกมาว่า “เอาล่ะ เช่นนั้นองค์หญิงหมิงเว่ยจะป่วยได้อย่างไร? นางไม่ใช่ผู้หญิงที่อ่อนแอเสียหน่อย”

“ในฐานะองค์หญิงผู้หนึ่ง นางก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงบอบบาง เดินทางทั้งวันทั้งคืนมันคงลำบากมากเกินไปสำหรับนาง นอกจากนี้ความโศกเศร้าในใจของนางยังไม่เสื่อมคลาย การที่นางล้มป่วยเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ต้องรู้ก่อนว่า ต่อให้องค์หญิงหมิงเว่ยจะเจ้าเล่ห์แค่ไหน นางก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงอายุสิบกว่าปี การตายของผู้อาวุโสเหวินหยวนนั้นอยู่นอกเหนือความคาดหมายของนาง นางจึงรู้สึกผิดในหัวใจและไม่อาจให้อภัยตนเองได้

นอกจากนี้ ทันทีที่ผู้อาวุโสเหวินหยวนจากไป หนานหลิงจิ่นฝานกลับต้องมาพบกับความพ่ายแพ้ นางไม่มีที่ให้ถอยอีกต่อไป หากกลับไปหนานหลิงก็มีเพียงแค่ตายเท่านั้นที่รอนางอยู่ ไม่ว่าจิ่นสิงหรือตระกูลจ้านก็ไม่มีทางยอมปล่อยนางเป็นแน่ ฮองเฮาและลั่วอ๋องคือที่พึ่งสุดท้ายของนาง หากทหารของลั่วอ๋องยังคงละเลยต่อนางเช่นนี้ นางจะต้องทนต่ออาการเจ็บป่วยไม่ไหวเป็นแน่” แม้ว่าเสด็จอาเก้าจะไม่ได้เห็นด้วยตาของตนเอง แต่การคาดเดาของเขาก็แม่นยำเป็นอย่างมาก

“ข้ารู้สึกเห็นใจนาง เป็นผู้หญิงที่น่าสงสาร พบเจอกับคนวิปริตอย่างหนานหลิงจิ่นฝาน ต่อให้ไม่บ้าก็คงตกอยู่ในสภาพไม่สมประกอบ” หนานหลิงจิ่นฝานทำลายอนาคตของผู้หญิงจำนวนไม่น้อย

ซูหว่าน ซูโหยว รวมถึงพระสนมซูที่เสียชีวิตไปแล้ว การที่ผู้หญิงในตระกูลซูได้เผชิญหน้ากับหนานหลิงจิ่นฝาน มันคือความหายนะอย่างแท้จริง ผู้ชายเพียงคนเดียว แต่กลับทำให้ผู้หญิงในตระกูลซูต้องเสียหายและเสื่อมเสียได้ถึงเพียงนี้

“นางจะตายไม่ได้เป็นอันขาด ข้าได้ส่งคนไปช่วยนางแล้ว หากปล่อยให้นางตายไปทั้งแบบนี้ มันจะไม่เป็นธรรมกับนางเกินไป” สิ่งที่สำคัญก็คือ องค์หญิงหมิงเว่ยยังไม่ได้ใช้ไพ่ตายที่อยู่ในมือออกมาเลย หากปล่อยให้ตายไปทั้งแบบนี้ มันคงน่าเสียดายแย่

“ข้าเองก็คิดว่าเจ้าคงยังไม่อยากให้นางตาย เพราะถึงอย่างไรนางก็เป็นผู้หญิงที่ใช้เวลาร่วมกับเข้า” เฟิ่งชิงเฉินแสร้งยิ้มและมองมาที่เสด็จอาเก้า แจ้งเตือนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในหนานหลิง

แคก แคก......เสด็จอาเก้าเบือนหน้าหนีด้วยความอึดอัด “เวลานั้นข้าก็แค่ทดสอบนาง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ