นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1331

สรุปบท บทที่ 1331 ไม่ประมาณตน อำนาจทางทหารทั้งหมดอยู่ในมือของเสด็จอาเก้า: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอน บทที่ 1331 ไม่ประมาณตน อำนาจทางทหารทั้งหมดอยู่ในมือของเสด็จอาเก้า จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1331 ไม่ประมาณตน อำนาจทางทหารทั้งหมดอยู่ในมือของเสด็จอาเก้า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

การเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ของราชาเจียงหนาน มีหรือที่เสด็จอาเก้าจะไม่รับรู้ ต่อให้ข้างกายของเขาไม่มีสายลับแล้วจะอย่างไร ต้องรู้ก่อนว่าความแข็งแกร่งของเสด็จอาเก้านั้นไม่ได้ธรรมดา คนที่ราชาเจียงหนานส่งมา “คุ้มกันเขา” คิดว่าจะมีวรยุทธ์สูงกว่าเขาอย่างนั้นหรือ

เหตุผลที่เสด็จอาเก้าไม่ยอมเปิดเผยความจริงและปล่อยให้ราชาเจียงหนานทำตามที่ใจต้องการ นอกจากจะไม่ต้องการทำลายความสุขของเฟิ่งชิงเฉินแล้ว เขายังอยากรู้ว่าองค์รัชทายาทต้องการจะทำสิ่งใด

หากเป็นเพียงแค่การหยอกล้อเพียงเล็กน้อย เสด็จอาเก้าก็คงไม่ใส่ใจและปล่อยให้ราชาเจียงหนานทำตามใจสักเล็กน้อย แต่หากราชาเจียงหนานมีแผนการอะไร เช่นนั้นเขาก็ต้องรอรับกับผลที่ตามมา

หากราชาเจียงหนานมีใจที่จะคิดต่อต้าน เช่นนั้น......เขาก็ไม่ได้รังเกียจที่จะเปลี่ยนคนใหม่มานั่งอยู่บนตำแหน่งนั้น!

เมื่อท่องเที่ยวอยู่ในเจียงหนานมาเป็นเวลาห้าวัน ก็ไม่พบสิ่งที่แปลกประหลาดในเจียงหนานแต่อย่างใด เสด็จอาเก้าจึงคิดจะพาเฟิ่งชิงเฉินเดินทางไปยังจวนราชาเจียงหนาน

ก่อนที่จะเดินทางไป เสด็จอาเก้าได้เรียกสายลับของราชาเจียงหนานออกมา จากนั้นบอกพวกเขาไปว่า “ไปบอกนายท่านของพวกเจ้า ข้าพอใจกับการต้อนรับของเขาเป็นอย่างมาก ให้เขาล้างตารอข้าได้เลย!”

เมื่อทิ้งประโยคนี้ไว้ เสด็จอาเก้าก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่สนใจความแตกตื่นของสายลับ ซึ่งคนพวกนั้นยังคงตกใจ ร่างกายสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้

เดินทางไปจวนราชาเจียงหนานก็เพราะต้องการพบกับองค์รัชทายาทองค์ก่อนและพวกของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี หรือพูดอีกอย่างก็คือ วันคืนแห่งความสงบสุขในเจียงหนานของพวกเขาได้จบสิ้นลงแล้ว แม้เฟิ่งชิงเฉินจะไม่เต็มไป แต่นางก็ตามไปแต่โดยดี

การใช้ชีวิตอย่างสุขสบายนานเกินไปจะทำให้ความทะเยอทะยานของคนลดลง ดังนั้นนางจึงรู้สึกพอใจกับการได้ผ่อนคลายเป็นครั้งคราว เฟิ่งชิงเฉินจัดการอารมณ์และความรู้สึกของนาง และเดินทางไปจวนราชาเจียงหนานพร้อมกับเสด็จอาเก้า

แม้ว่าเสด็จอาเก้าไม่ได้พูดถึงสถานการณ์อย่างละเอียดว่าจะไปถึงจวนราชาเจียงหนานในวันไหน แต่การที่ราชาเจียงหนานจะสืบหาวันเวลาที่แน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

ในวันที่เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินเดินทางเข้าเมือง ราชาเจียงหนานพาชิงอ๋อง ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี ชื่อเลี่ยนฉุ่ย กัวเลี่ยนฉุ่ย หยุนเซียวและหวังชีออกไปต้อนรับนอกเมืองอย่างเชื่อฟัง

แน่นอน การกระทำของราชาเจียงหนานและชิงอ๋องนั้นไม่ใช่การต้อนรับอย่างเป็นทางการ แต่มันเป็นการต้อนรับของญาติหรือมิตรสหายที่มาถึง เพียงแต่......

“เจ้ามั่นใจหรือว่าเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินจะเดินทางมาในวันนี้?” รออยู่สองชั่วโมงก็ไม่มีใครปรากฏตัวออกมา อย่าว่าแต่ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีที่อารมณ์รุนแรงเลย แม้แต่หยุนเซียวและหวังชีเองก็รู้สึกฉุนเฉียวด้วยเช่นกัน

พวกเขารอมาถึงเที่ยงวัน เวลานี้พวกเขาหิวจะตายอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เห็นแม้แต่เงาของเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉิน แม้ว่าพวกเขาจะให้ขุนนางของเจียงหนานกลับไปก่อนแล้ว แต่ราชาเจียงหนานและชิงอ๋องออกมาอยู่ด้านนอกเช่นนี้ จะให้พวกเขาจากไปโดยไม่เฝ้ามองได้อย่างไร หลังจากนั้น......

ขุนนางเล็กใหญ่ในเจียงหนานก็ได้เห็นราชาเจียงหนานและชิงอ๋องรออยู่นอกเมืองอย่างว่างเปล่ามาเป็นเวลาสองชั่วโมงเต็ม

“พวกเจ้าคิดรู้สึกหรือว่า การที่พวกเรามารอคนอื่นเช่นนี้มันดูโง่เขลาเกินไป?” ชื่อเลี่ยนฉุ่ยนั่งลงบนม้านั่งหิน หลังพิงหลังกับกัวเลี่ยนฉุ่ย พูดออกมาอย่างเกียจคร้าน

“โง่เขลาที่สุด แต่การที่จะจากไปในเวลานี้เป็นการกระทำที่โง่เขลายิ่งกว่า” ชิงอ๋องมองดวงอาทิตย์ที่สาดส่องในยามเที่ยงวัน เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า

แม้ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ร่วง แต่ดวงอาทิตย์ก็ยังรุนแรง เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินคงไม่มีทางเดินทางในช่วงเวลากลางวัน?

“หรือว่าพวกเราจะต้องรอต่อไปเช่นนี้? ไม่แน่ว่าด้านนอกอาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำให้การเดินทางของเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินล่าช้าก็เป็นได้” กัวเลี่ยนฉุ่ยจ้องมองไปซึ่งราชาเจียงหนานที่มุ่งมั่นที่จะรอต่อไป

“หากพวกเขามาถึงแล้ว แต่ไม่มีใครคอยต้อนรับ เสด็จอาเก้าจะต้องโกรธเป็นแน่ และพวกเราเองก็รออยู่ที่นี่มานานกว่าสองชั่วโมงแล้ว เท่ากับว่าการรอคอยของพวกเรานั้นสูญเปล่า” ราชาเจียงหนานผายมืออย่างช่วยไม่ได้ “และพวกเจ้าก็อย่าลืม การเฝ้ามองเรื่องราวต่าง ๆ ระหว่างเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉิน พวกเจ้าเองก็มีส่วน”

“เจ้าต่างหากที่เป็นผู้บงการ” หยุนเซียวและปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีทรยศต่อราชาเจียงหนานทันใด “พวกข้าก็แค่บังเอิญไปได้ยินเท่านั้น”

“เอาเถอะ เจ้าคิดว่าเสด็จอาเก้าจะเชื่อพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ สิ่งที่เสด็จอาเก้าชื่นชอบมากที่สุดก็คือการลงเหวไปด้วยกัน หากพวกเจ้าคิดที่จะไป เช่นนั้นก็รอรับความโชคร้ายเอาไว้ได้เลย และอย่าหาว่าข้าไม่เตือนพวกเจ้า” ราชาเจียงหนานร้ายกาจยิ่งกว่า เขาอ้างนิสัยของเสด็จอาเก้าออกมาเพื่อข่มขู่

“เจ้าบ้านี่!” ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีกล่าวออกมาด้วยความโกรธ “แค่ความสนุกเพียงไม่กี่วัน แต่ต้องมายืนตากแดดสองสามชั่วโมงเช่นนี้ มันสมเหตุสมผลเสียที่ไหน”

“เสด็จอาเก้าอยู่เหนือเหตุผล หากพวกเจ้าไม่กลัวตายก็รีบเข้าไปในเมือง ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะรออยู่ตรงนี้ อย่างน้อย ๆ เมื่อเสด็จอาเก้าได้เห็นความลำบากของข้า เขาก็ไม่มีทางลงมือกับข้าอย่างโหดร้ายเป็นแน่” ราชาเจียงหนานต่างจากคนอื่น ๆ แม้จะไม่มีเหงื่อไหลออกมาจากร่างกายของเขามากมายเท่าไหร่นัก แต่ใบหน้าของเขาก็ซีดขาวอย่างชัดเจน

ช่วยไม่ได้ แม้ว่าโรคหัวใจของเขาจะไม่ได้กำเริบขึ้นมาอีก แต่ร่างกายของเขาก็ยังคงอ่อนแอกว่าคนปกติทั่วไป

“เอาล่ะ แม้แต่ราชาเจียงหนานผู้สง่างามยังไม่กลัวขายหน้า เช่นนั้นพวกเราจะต้องไปกลัวอะไร” ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีพ่นลมหายใจออกมา หาที่นั่งเพื่อที่จะนั่งรอต่อไป

ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เขาหวาดกลัวต่อการแก้แค้นของเสด็จอาเก้า

เขาเตือนเสด็จพี่ไปตั้งแต่แรกแล้ว บอกเขาว่าอย่าเล่นอะไรไม่เข้าท่า เสด็จอาเก้าไม่ใช่คนที่ขี้เล่นขนาดนั้น แต่เสด็จพี่กลับไม่ฟัง คิดว่าตนเองเป็นราชาเจียงหนานแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวเสด็จอาเก้า

แต่อย่าลืม แม้พวกเขาสามารถจัดการทุกอย่างในเจียงหนานได้ ควบคุมเจียงหนานไว้ในมือ แต่อำนาจทางการทหารของเจียงหนานก็อยู่ในมือของเสด็จอาเก้า

เมื่อเทียบกันแล้ว อำนาจของเจียงหนานอยู่ในมือของเสด็จอาเก้ามากกว่า เสด็จอาเก้าคือผู้กำหนดชะตากรรมของเจียงหนานที่แท้จริง ไม่มีอะไรในเจียงหนานที่เล็ดลอดจากสายตาของเสด็จอาเก้าไปได้

คนกลุ่มหนึ่งกำลังรออยู่ รออยู่ รอจนกระทั่งดวงดาวกำลังจะขึ้นสู่ท้องฟ้า ในที่สุด......

กรุบ กรุบ กรุบ......

“เสียงเกือกม้า?” ผู้คนต่างตื่นตกใจ รีบลุกขึ้นยืนในทันใด ใบหน้าดูเคร่งเครียด เตรียมที่จะออกไปต้อนรับ แต่ราชาเจียงหนานกลับทำให้พวกเขาต้องผิดหวัง “เสียงเกือกม้ามันดังมาจากด้านในของเมือง”

“อ่า......” ทุกคนต่างผิดหวัง และร่วงโรยไปทันที

“ข้าขอไปดูหน่อว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น” ราชาเจียงหนานละทิ้งความสิ้นหวังเหล่านี้ไปตั้งนานแล้ว และเสียสละเป็นคนที่ออกไปตรวจสอบ

หลังจากที่ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี หยุนเซียว หวังชี หมอเทวดาชื่อ หมอพิษกัว และซุนซือสิงมาถึงเจียงหนาน เสด็จพี่ของเขาก็ทำตัวไม่อยู่ในร่องรอยมากยิ่งขึ้น และเมื่อพูดถึงซุนซือสิง ชิงอ๋องก็ยกมือขึ้นมากุมขมับตัวเอง

บ้าที่สุด เหตุใดพวกเขาจึงได้ลืมหมอเทวดาน้อยไปเสียสนิท

เฮ้อ.......ตอนแรกพวกเขาเห็นเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข พวกเขาจึงไม่กล้าเอาเรื่องนี้ไปบอกกับหมอเทวดาน้อย เพราะกลัวว่าหมอเทวดาน้อยจะโกรธ แต่วันนี้เป็นวันที่พวกเขาออกมาต้อนรับเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉิน แต่พวกเขากลับลืมหมอเทวดาน้อยไปเสียสนิท

“ใช่ เหตุใดถึงได้ลืมบุคคลสำคัญเช่นนี้ หากมีหมอเทวดาน้อยอยู่ ด้วยความสำคัญที่หมอเทวดาน้อยมี เพียงแค่หมอเทวดาน้อยช่วยพูดแทนพวกเราสักเล็กน้อย เรื่องนี้จะต้องจบลงอย่างงดงามเป็นแน่”

ชิงอ๋องรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ในตอนที่ได้เห็นคนที่อยู่บนหลังมา หัวใจของเขาก็ยิ่งหดหู่ขึ้นไปอีก...... 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ