นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1332

คนที่มาก็คือแม่ทัพคนสนิทของราชาเจียงหนาน สามารถขึ้นมาอยู่บนตำแหน่งนี้ได้ นั่นไม่ใช่เพราะความสามารถเพียงอย่างเดียว แต่ยังบ่งบอกอีกว่าคนผู้นี้คือผู้ใกล้ชิดของราชาเจียงหนาน โดยทั่วไปแล้ว นอกจากราชาเจียงหนานก็ไม่มีใครสามารถเรียกเขาออกมาได้ จึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องสั่งให้เขาไปทำภารกิจ

คนที่สามารถทำให้แม่ทัพผู้นี้เคลื่อนไหวได้ นั่นก็แสดงว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในจวนราชาเจียงหนาน หรือไม่ก็มีบุคคลผู้ยิ่งใหญ่เสด็จมา

“เสด็จอาเก้าอยู่ที่จวนราชาเจียงหนาน?” ชิงอ๋องเห็นเช่นนี้ เขาก็พอคาดเดาอะไรบางอย่างได้

นอกจากความเป็นไปได้นี้ เขาก็คิดถึงความเป็นไปได้อื่นที่สามารถทำให้คนผู้นี้เคลื่อนไหวไม่ออกจริง ๆ

แม่ทัพคนสนิทลงมาจากหลังม้า คุกเข่าข้างหนึ่งอยู่ด้านหน้าของชิงอ๋อง กล่าวออกมาด้วยใบหน้าอันเคร่งขรึม “กราบทูลชิงอ๋อง เสด็จอาเก้ามาถึงจวนราชาเจียงหนานตั้งแต่ที่พวกท่านทั้งสองออกจากจวนมาครึ่งชั่วยามแล้ว”

“ว่าไงนะ?” ร่างกายของชิงอ๋องสั่นไหว เขาเกือบจะล้มลงพื้น “เจ้าบอกว่า เสด็จอาเก้ามาถึงจวนราชาเจียงหนานตั้งแต่เช้าแล้วอย่างนั้นหรือ?”

“กราบทูลฝ่าบาท พ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพคนสนิทก้มหน้าลงต่ำ ต่ำมาก เนื่องจากกลัวชิงอ๋องจะลงโทษเขาเพราะความโกรธ

ชิงอ๋องเองก็อยากจะทำเช่นนั้น แต่เขาก็รู้ดีความมันไม่ใช่ความผิดของอีกฝ่าย ชิงอ๋องสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นถามออกไปว่า “เหตุใดจึงไม่มารายงานตั้งแต่แรก?” เหตุใดถึงต้องปล่อยให้พวกเขารออยู่ด้านนอกเป็นเวลาเกือบสิบชั่วโมงเช่นนี้

“เสด็จอาเก้าออกคำสั่ง ห้ามไม่ให้ผู้ใดในจวนราชาเจียงหนานออกมาด้านนอกเด็ดขาด หากเรื่องการมาถึงของเขาถูกแพร่งพรายออกไป คนผู้นั้นจะมีโทษประหาร!” แม่ทัพคนสนิทเองก็ลำบากใจเช่นกัน นี่มันไม่ใช่ความผิดของเขา เขาไม่มีอิสระในการตัดสินใจ

“เข้าใจแล้ว เจ้ากลับไปเถอะ” ชิงอ๋องโบกมือ นี่คือคำสั่งของเสด็จอาเก้า ไม่มีใครกล้าขัดขืน

“ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงอายุยืน พันปี พัน พันปี” น้ำตาของแม่ทัพคนสนิทแทบไหลออกมา ตอนแรกคิดว่าตนเองจะต้องตายเสียแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะถูกปล่อยตัวออกไปง่าย ๆ เช่นนี้

ทางฝั่งของชิงอ๋องก็เดินกลับไปยังม้านั่งหินด้วยการก้าวเดินอันหนักแน่น เมื่อเห็นท่าทางที่กระสับกระส่ายของทุกคน เขาก็สดใสขึ้นทันที

เขาไม่ได้ถูกเสด็จอาเก้าเล่นงานเพียงคนเดียว

“องค์ชายหก เป็นอะไรงั้นหรือ?” ราชาเจียงหนานเห็นชิงอ๋องยิ้มอย่างแปลกประหลาด ลางสังหรณ์อันเลวร้ายเกิดขึ้นในใจของเขา

แคก แคก......ชิงอ๋องกระแอมออกมาเบา ๆ กวาดสายตามองไปยังทุกคน จากนั้นกล่าวออกมาอย่างไม่รีบร้อน “ข้ามีข่าวดีและข่าวร้ายมาบอก พวกเจ้าอยากฟังข่าวไหนก่อน”

“ขอฟังข่าวร้ายก่อน เช่นนั้นเมื่อได้ยินข่าวดีแล้ว พวกข้าจะได้รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง” คนกลุ่มนี้คุ้นชินกับมันแล้ว คำพูดทีเล่นทีจริงเช่นนี้ มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรของชิงอ๋อง

มีคนที่วิกลจริตอย่างชื่อเลี่ยนฉุ่ยและปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีอยู่ ไม่ว่าใครก็ดูปกติกันทั้งนั้น

“เอาล่ะ ข่าวร้ายก็คือ การรอคอยของพวกเราตลอดหนึ่งวันนั้นสูญเปล่า วันนี้เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินจะไม่เดินทางมาที่นี่” ชิงอ๋องกล่าวออกไปอย่างจริงจัง และไม่มีใครคิดถึงความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของเขา

“อะไรนะ? เสด็จอาเก้าไม่มาแล้ว?” ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีลุกขึ้นยืนในทันใด กล่าวออกมาด้วยท่าทางแห่งความโกรธ “พรุ่งนี้ข้าไม่อยากต้องมารอเช่นนี้แล้ว เสี่ยวซือสิงยังรอข้าอยู่ ข้าจะช่วยสอนวิธีการชำแหละศพให้กับเสี่ยวซือสิง ไม่ได้ ไม่ได้ ข้าไม่มีเวลาแล้ว......”

“ตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาสำคัญที่หนอนของข้ากำลังเติบโต พรุ่งนี้ข้าเองก็ไม่สามารถออกมาได้” กัวเลี่ยนฉุ่ยก็ค่อย ๆ กล่าวออกมา แม้เสียงของเขาจะไม่ได้ดังชัดเจน แต่ก็ไม่มีใครละเลยมันได้

“จิ่นหาน พวกเราคุยกันแล้วใช่หรือไม่ว่าจะไปตรวจสอบโครงสร้างอาคารเรียนในวันพรุ่งนี้?” หยุนเซียวเองก็ไม่ยอมเช่นกัน เขาหาเหตุผลขึ้นมาทันใด

ราชาเจียงหนานเห็นว่าคนพวกนี้ต่างมีหน้าที่ต้องทำ จู่ ๆ เขาก็ตระหนักได้ว่า วันพรุ่งนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีอะไรทำ “องค์ชายหก พรุ่งนี้ข้ามีงานอะไรหรือไม่?”

ชิงอ๋องได้ยินเหตุผลอันแสนแปลกประหลาดของทุกคน เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

ฮ่าฮ่าฮ่า......เจียงหนานแห่งนี้ช่างเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ อยู่ที่นี่ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าในวันพรุ่งนี้จะเกิดสงครามขึ้นหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากคุยกัน ไม่จำเป็นต้องวางแผนอะไร พวกเขาแค่เป็นตัวของตัวเองก็เพียงพอแล้ว

“องค์ชายหกแห่งตงหลิง เจ้าช่วยจริงจังให้มากกว่านี้เสียหน่อย” ชื่อเลี่ยนฉุ่ยเห็นชิงอ๋องไม่ยอมพูดออกมา เขาเองก็รู้สึกหดหู่ใจ “ไม่ใช่ว่ายังมีข่าวดีอยู่เหรอ รีบบอกมาได้แล้วว่าข่าวดีคืออะไร?”

“ข่าวดีก็คือ......” ชิงอ๋องจงใจหยุดคำพูดของเขาไว้ หลังจากที่ทุกคนกลืนน้ำลาย เขาจึงกล่าวออกมาอย่างหยอกล้อ “ข่าวดีก็คือ เวลานี้เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินอยู่ที่จวน กำลังรอพวกเรากลับไปทางอาหารเย็น”

“อะไรนะ? เสด็จอาเก้ามาถึงแล้วงั้นหรือ?”

“เป็นไปได้อย่างไร? พวกเรารอมาทั้งวัน ไม่เห็นใครผ่านเข้าออกประตูแม้แต่คนเดียว ข้าตรวจสอบอย่างละเอียด เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินยังไม่มีทางเข้ามาในเมืองแห่งนี้เป็นแน่”

“องค์ชายหกแห่งตงหลิง เรื่องนี้ไม่ควรเอามาล้อเล่น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ