นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1335

หลังจากเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินจัดเตรียมอะไรหลาย ๆ อย่างให้โจ่วอั้นกับโต้วโต้วเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ถอยออกมา เดินกลับไปยังลานของตัวเองอย่างช้า ๆ ภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องลงมา

“ทุกอย่างราบรื่นดีหรือไม่?” เฟิ่งชิงเฉินหันหน้าไปมองเสด็จอาเก้าและกล่าวออกมา

ไม่จำเป็นต้องชัดเจน เสด็จอาเก้ารู้ว่าคำถามของเฟิ่งชิงเฉินนั้นหมายถึงอะไร “จื่อเทียนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”

“เขายอมรับได้อย่างนั้นหรือ? ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เคยเป็นองค์รัชทายาทมาก่อน เวลานี้เป็นเพียงแค่องค์ชาย เขาจะยอมวางอำนาจในมือลงอย่างนั้นหรือ?” สิ่งที่เรียกว่าอำนาจ หากใครได้ลิ้มลองกับมันแล้ว เป็นไปได้อยากที่จะละทิ้ง

ความสูงศักดิ์ ความน่านับถือ เป็นสิ่งกระตุ้นหัวใจและความคิดอย่างแท้จริง แม้ว่าจะต้องการมาด้วยการแย่งชิง ก็ไม่มีใครรู้สึกเกลียดชังมันอยู่ดี โดยเฉพาะพวกคนที่อยู่ในราชวงศ์ ทุกคนต่างต้องการอำนาจ แต่เมื่อไม่อาจเอาชนะได้ ทำได้เพียงถอยออกมาหนึ่งก้าว อย่างน้อยก็ขอชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ก็ยังดี

“ข้าไม่ได้ต้องการให้เขายอมรับ เจ้ารู้หรือไม่ว่าทหารหนึ่งแสนนายของท่านอ๋องสามอยู่ที่ไหน?” จู่ ๆ เสด็จอาเก้าก็หยุดการเคลื่อนไหวของเขา มองมาที่เฟิ่งชิงเฉินอย่างไม่อาจเข้าใจได้

“ทหารหนึ่งแสนนายของท่านอ๋องสามไม่ใช่ทหารส่วนตัวอย่างนั้นหรือ? เจ้าอย่าบอกข้านะว่ามันอยู่ในเจียงหนาน?” ความตกใจปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน ดวงตาของนางกลมโต

เสด็จอาเก้ายังคงยิ้มอยู่อย่างนั้น “ทหารแสนนายของท่านอ๋องสามนั้นไม่ใช่ทหารส่วนตัว แต่เป็นทหารที่คอยปกปักรักษาเจียงหนาน”

“เป็นไปได้อย่างไร?” ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ แต่ท่านอ๋องสามยังสามารถประคองอำนาจในการควบคุมทหารกลุ่มนี้ได้ ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก

“เหตุใดถึงเป็นไปไม่ได้ หนึ่งแสนคนนั้นไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ การที่จะฝึกทหารหนึ่งแสนคนโดยไม่ดึงดูดความสนใจของจักรพรรดิ มันเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง และวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะไม่ทำให้ผู้อื่นสงสัยก็คือ การทำให้ทหารทั้งหนึ่งแสนนายนั้นเข้ามาอยู่ในกองทัพ”

เจียงหนานห่างไกลจากเมืองหลวงเป็นอย่างมาก เป็นที่ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาสูง ห่างไกลจากจักรพรรดิ ประกอบกับเป็นสถานที่ที่อุดมสมบูรณ์ เป็นสถานที่ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางด้านการค้าของสินค้าหลากหลายชนิด และแทบจะไม่มีขุนนางผู้ใดซื่อสัตย์ต่อราชสำนัก การที่ท่านอ๋องสามจะใช้เงินของเขาเพื่อสร้างทหารขึ้นมาที่นี่ มันไม่ใช่เรื่องยากอะไร” เมื่อเทียบกับเมืองหลวงแล้ว การค้าขายในเจียงหนานนั้นเติบโตและคึกคักกว่ามาก มีครอบครัวที่ร่ำรวยอยู่มากมาย และคนรวยที่นี่ก็เข้าใจเรื่องราวเป็นอย่างดี พวกเขาจะจ่ายเงินให้กับขุนนางในทุกปี ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ทั้งชีวิตนี้หากเป็นขุนนางก็ไม่อาจหาได้

เมื่อขุนนางผู้ผดุงความยุติธรรมมาถึงที่นี่ หากพวกเขาไม่เข้าร่วมวงการนี้ เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่อาจ......อยู่ที่นี่ต่อไปได้!

ขุนนางท้องถิ่นส่วนใหญ่จะได้ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงระยะเวลาสามปี แม้จะได้รับการแต่งตั้งใหม่ เต็มที่ก็มีระยะเวลาเพียงแค่หกปีเท่านั้น และในช่วงเวลาเพียงหกปี ขุนนางก็ไม่อาจเทียบเคียงกับตระกูลที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่มาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปีได้

ดังนั้นเจียงหนานและซานตงจึงเป็นสถานที่ที่ดีเหมือนกัน ดวงตาของท่านอ๋องสามกว้างไกล แต่น่าเสียดายที่ต้องมาเสียรู้ให้แก่เสด็จอาเก้า

“ราชาเจียงหนานโชคร้ายยิ่งนัก” เฟิ่งชิงเฉินยิ้มพร้อมกล่าวออกมา “หากไม่มีทหารหนึ่งแสนนายของท่านอ๋องสาม เช่นนั้นเจ้าจะทำเช่นไร?”

“เรียกอวี่เหวินหยวนฮั่วกลับมา” เสด็จอาเก้ากล่าวอย่างจริงจัง แต่เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าเสด็จอาเก้าพูดเล่น อวี่เหวินหยวนฮั่วเป็นแม่ทัพที่ประจำการอยู่ที่ชายแดน ปกครองกองกำลังอันยิ่งใหญ่ การที่จะเรียกตัวมายังเจียงหนานมันดูเปล่าประโยชน์เกินไป

อย่างไรก็ตาม คำพูดของเสด็จอาเก้าเป็นเหมือนการเตือนสติเฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินจึงกล่าวออกมาอย่างจริงจัง “เสด็จอาเก้า ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไร ขอแค่ไม่ลากซือสิงเข้ามาเกี่ยวข้องก็เพียงพอ”

“เขาเป็นตัวเลือกที่ดี และเขาก็ภักดีต่อเจ้ามาก การที่เขามีตำแหน่งที่สูงมันก็เป็นประโยชน์กับเจ้า ยิ่งไปกว่านั้น หากเจ้าไม่ลองปล่อยให้เขาได้ลอง เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่สามารถทำได้? เขาเป็นคนฉลาด ข้าคิดว่าเขาเหมาะสมเป็นอย่างมาก” เสด็จอาเก้าชื่นชมออกมาไม่ซ้ำคำ เพื่อไม่ให้เฟิ่งชิงเฉินตัดสินเกี่ยวกับอนาคตของซุนซือสิง

ซุนซือสิงโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาจะต้องมีความคิดและตัดสินใจด้วยตัวเอง

“ไม่จำเป็น แม้ว่าข้าจะต้องการความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องให้ซือสิงเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ข้าไม่สนใจว่าเขาจะสามารถทำได้ดีหรือไม่ ข้าแค่ไม่อยากให้เขาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องในราชสำนักเท่านั้น” เมื่อเข้าไปอยู่ในราชสำนัก ต่อให้บริสุทธิ์แค่ไหนก็ต้องแปดเปื้อนอยู่ดี ไม่เช่นนั้นเจ้าก็คงไม่อาจก้าวเดินต่อไปได้

“เจ้าปกป้องเขามากเกินไป” เสด็จอาเก้าไม่มีทางยอมรับว่าตนเองรู้สึกอิจฉา

“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเราคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันไม่มีความจำเป็นต้องพูดคุยกันอีกต่อไป” เฟิ่งชิงเฉินตัดปัญหาเรื่องนี้ออกไปทันที จากนั้นก็พูดถึงเรื่องที่ราชาเจียงหนานและปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีที่ไปแอบดูการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของพวกเขา

พูดจบเฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ลืมที่จะกดดันเสด็จอาเก้า “เจ้าคิดจะปล่อยพวกเขาไปทั้งแบบนี้อย่างนั้นหรือ? แค่ปล่อยให้พวกเขารออยู่ด้านนอกเพียงหนึ่งวัน การลงโทษครั้งนี้เบาเกินไป หากการลงโทษไม่เพียงพอ พวกเขาจะทำผิดเรื่องเดิมอีกเป็นครั้งที่สอง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ